29 สิงหาคม 2545 11:02 น.
อัลมิตรา
เวลา (โดม ปกรณ์ ลัม)
(๑)
ใครต่อใครต่างพร่ำบอกไว้
เวลาผ่านนานไปในทุกสิ่ง
จะเยียวยารักษาใจได้จริง
มันแค่สิ่งหลอกกันให้ฝันไป
(๒)
จนถึงวันที่เธอลาจากนั้น
เธอลาฉันจากไปไกลไหนๆ
ไม่เห็นว่าเวลาฉุดรั้งใคร
เธอลาไกลจากไปไม่หวนคืน
(๓)
เวลาเป็นแค่คำมาหลอกเล่น
ได้เพียงเข็นเข็มเวียนไม่เปลี่ยนฝืน
เวลาไม่เคยรู้ดูวันคืน
ให้ขมขื่นเจ้าเวลาพาช้ำใจ
29 สิงหาคม 2545 10:59 น.
อัลมิตรา
..ใครหลอกใครลวงใครฉันไม่รู้
ใจฉันอยู่เคียงเธอละเมอหา
แอบซึ้งใจกับฝันทุกวันมา
โปรดรู้ว่าฉันภักดีไม่มีลวง
..แม้วันหนึ่งซานซมเพราะพิษรัก
เจ็บปวดหนักที่ใจอย่างใหญ่หลวง
จะยอมทนขมขื่นสะอื้นทรวง
ไม่ขอล่วงคำง้อ..ขอยอมทน....
29 สิงหาคม 2545 10:57 น.
อัลมิตรา
...หากชีวิตเปรียบได้.ทะเล
ฉันก็คล้ายเรือเห...เร่ท้า
ลมพาพัดซวนเซ...........ตามคลื่น ลมแล
ทางสุดไกลขอบฟ้า........ไป่รู้ดีเลว ฯ
...ในใจหมายคิดไว้...คือฝั่ง
แม้อาจเกินพลัง.........ดั่งรู้
ถึงแม้ไม่อาจหวัง.......ได้ดั่ง ใจนา
เรือเล็กลำน้อยสู้........ไม่รู้ทิศทาง ฯ
29 สิงหาคม 2545 10:27 น.
อัลมิตรา
...กำไลมาสชาตินพคุณแท้
ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมคืนศรี
เหมือนใจตราคงคำร่ำวาที
จะร้ายดีขอให้เป็นเป็นเสี่ยงกัน
...กำไลทองสองดอกตอกสลัก
ตรึงความรักรอบแน่นอย่าให้หาย
แม้รักร่วมสวมไว้ให้ติดกาย
ตราบวันวายสวาทวอดจึงถอดเอย ฯ
29 สิงหาคม 2545 10:24 น.
อัลมิตรา
(๑)
...ใต้ผืนฟ้าหวังว่าดาราราย
ให้ชม้ายหมายเอื้อมอันเลื่อมค่า
มาสู่เจ้าหญิงน้อยคล้อยนิทรา
ให้หลับตาคราคืนพลันชื่นใจ
(๒)
...อย่าหวาดหวั่นใดกันอันสั่นหนาว
กบน้อยเฝ้ากล่อมถนอมหมาย
ให้หลับฝันพลันตื่นรื่นฤทัย
พริ้มแพรวพรายใต้ฟ้าครารุ่งวัน ฯ
(๓)
...โอ้เพ็ญจันทร์พลันส่องผ่องสกาว
ให้วับวาวราวว่าครานอนฝัน
ระยิบเยือนเหมือนว่ามณีวรรณ
ระยับกานต์ปานแก้วอันแวววาย
(๔)
...ให้อุ่นเอื้อยเจื้อยแจ้วแว่วกังวาล
ลมแผ้วผ่านพลันอุ่นละมุลใฝ่
โอบอุ้มอรนอนหลับกับจันทร์พราย
ดารารายได้กล่อมล้อมนงคราญ...ฯ