28 กรกฎาคม 2545 14:43 น.

เปรียบเปรยสิเอ่ยอ้าง...........ศศิยังสล้างคง

อัลมิตรา

.....ราตรีนรีน้อง.....................ขณะจ้องศศีงาม
เพ็ญจันทร์ตระหง่านยาม.........ฉวิข้ามพโยมยล
ปราศพี่วจีล้อ..........................อุระขอพินอดล
โสมส่องสนองตน....................ธ กมลสนนเคียง ฯ
.....ราตรีมิควรห่วง.................ตมะล่วงมิลวงเมียง
เพ่งพิศม์พินิจเพียง.................กวิเรียงเผดียงนันท์
โอ้น้องดรุณงาม.......................ขณะยามพิร่ำครัน
ฉันท์เฉิดสิเพริศวรรณ..............สิริอันตระการตา ฯ
.....พราวพรายพิไลลักษณ์.........สิประจักษ์สุภัคครา
ดาวงามอร่ามว่า........................ลลนาพธูนวล
เคียงกายชม้ายเดือน................มิละเบือนเสมือนครวญ
คราวพบประสพนวล.................จิตะควรสิสรวลทรง ฯ
.....เปรียบเปรยสิเอ่ยอ้าง...........ศศิยังสล้างคง
ปานน้องประคองรงค์.................สิผจงอนงค์งาม
ราตรีจะกี่คลาด..........................ดิถิมาสพิลาสยาม
คงเคียงเผดียงความ..................กวิล้ำพิร่ำเชย ฯ				
28 กรกฎาคม 2545 14:41 น.

พระจันทร์งาม ณ ยามคืน

อัลมิตรา

.....ราตรีศศีฉาย....................รุจิพรายกระจายนวล 

โลกหล้าสุธาอวล......................อุระรวนชนวนคราง 

.....เพ็ญกรายกระต่ายติด.......นฤมิตสถิตวาง 

ไหนองค์อนงค์นาง.................จรร้างและห่างไกล 

.....เดียวดายละอายนัก..........ผิวหักก็จักใคร 

ยินยล ฤ สนใจ......................ทมไห้พิไรลาญ 

.....กาลก่อนฉะอ้อนออด.........ดนุพรอดและปลอดพาล 

เดี๋ยวใจกระไรการณ์.............กลผลาญสะท้านทรวง 

.....จันทร์เพ็ญสิเย็นเยียบ......ฤ จะเปรียบประเทียบปวง 

เท่าทันรำพันลวง...................ทยกลวงมิตวงเต็ม 

.....ยิ่งดึกระทึกหนาว..............นภราวจะร้าวเล็ม 

แตกยับประทับเข็ม................ทะลุเล่มเขษมปลง 

.....รอท่าทิวาวก.....................ตริวิตกจะยกลง 

ขับมืดมิยืดยง........................เพราะอนงค์ผจงเจียน 

.....จากนั้นกำนัลกฎ.............ทุรยศย้ำบทเรียน 

ลองรักประจักษ์เบียฬ..........จะริเลียนสิเปลี่ยนทัน.				
28 กรกฎาคม 2545 14:36 น.

ลิงเร่ร่อน

อัลมิตรา


.....ยามราตรีที่คลาดปราศจันทร์ส่อง........แสงเรืองรองผ่องพรรณอันสาดแสง 
แม้นห่างเหินเกินจิตคิดปรวนแปลง........แม้นอับแสงแรงใจไหวหวาดกลัว 
วสันต์สาดพัดใจให้ไหวหวาด...................ศศิคลาดปราศห้วงดวงสลัว 
ดารารายใยห่างยังมืดมัว........................ใจระรัวกลัวเกรงเพลงโศกครวญ ฯ 

.....แม้นเพ็ญแขแลหลงตรงขอบฟ้า..........อีกดารามาลับดับเหหวล 
ควรหรือหนอท้อถอยพลอยใจรวน.............ฤากำสรวลครวญคร่ำระกำกลาย 
ลมกรรโชกโยกใจให้ไหวหวั่น...................อีกวสันต์พลันตกวิโยคหมาย 
ใยเส่าสั่นผันผวนชวนฟูมฟาย...................ใยเสื่อมคลายในรักประจักษ์จำ ฯ 

......อย่าท้อถอยกรอยใจหทัยรื่น..............ขอสดชื่นรื่นรมย์ข่มครวญคร่ำ 
แม้นเรรวนควรฤาจะถือนำ.......................ลืมชอกช้ำคำใครหมายให้ตรม 
จักร่ายเรียงเสียงกล่อมถนอมเจ้า..............จะเคียงเฝ้าเยาวมาลย์พลันสุขสม 
แม้นปราศจันทร์พรรณพราวคราวเชยชม......ใช่ตรอมตรมขมขื่นในคืนแรม ฯ 

.....มากผองพี่ปรีดามาเห่กล่อม.................ต่างห้อมล้อมอ้อมโอบโปรบปรอบแถม 
จะร่ายร้องพ้องพจน์สะกดแกม.................อร่าแหร่มแวววายใจชื่นบาน 
ต่างจำแลงแปลงกายคล้าย monkeys........ล้วนมากมายรี่เร่งเพลงสนาน 
ต่างหัวเราะเพราะพริ้งเกือบกลิ้งคลาน.......ใจเบิกบานพลันคลายหายระทม ฯ				
28 กรกฎาคม 2545 13:55 น.

อวสาน...แผลเก่า

อัลมิตรา

...อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ ......เจ็บใจดั่งหนามยอกแปลบ..
..แสบแทนจะทน ............

..........กลัดหนองคลองขุ่นข้น...............โคลนตม 
เหือดหายใจระบม................................ห่มไข้ 
ปลาบแปลบแสบระทม..........................ถมทับ ทวีคูณ 
หมองหม่นจนโหยไห้............................ไป่สิ้นถวิลวาย ฯ 

...........คูคลองหมองหม่นไร้.................ปูปลา 
แหวกว่ายในคลองนา...........................บ่าน้ำ 
ปานอกตระหนกครา.............................มาพราก จากไกล 
หนามยอกตอกชอกช้ำ..........................ร่ำร้องคลองครวญ ฯ 

.........เอนโอนโคนไทรซ้อง...................หมองกลัว 
ไหวหวิวปลิวระรัว..................................ทั่วต้น 
โยกคลอนอ่อนพันพัว............................ไกวแกว่ง คืนแสลง 
ซมสั่นผันผวนพ้น..................................กล่นกล้ำกลืนเกรง ฯ 

...........ศาลไทรใยนิ่งแท้.......................แลวัง- เวงเหวย 
สงัดขนัดดัง............................................ฝั่งร้าง 
นกกาหากรายรัง...................................ยังเร่ รอนแรม 
ประหนึ่งคนึงค้าง....................................ห่างเจ้าเยาวมาลย์ ฯ 

..............กวัดไกวใบกิ่งก้าน.................พลันไหว 
ลมพัดระบัดใบ............................... .....ไขว่คว้าง 
แอดเอียดเบียดเสียดไทร......................ใยส่ำ ถลำฤา 
หลุดร่วงหทัยค้าง...................................หยั่งพื้นปฐพี ฯ 

.............แสบทรวงดวงใจจ้อง.................มองศาล 
องค์พ่อหนอหักหาญ..............................บั่นข้า ฯ 
ฝากฝังดั่งลูกหลาน................................วันก่อน 
คืนค่ำระกำบ้า.......................................กว่าสิ้นลมปราณ ฯ 

...........กราบกรานวันทาน้อม..................ยอมตน 
คุกเข้าคราวระคน..................................บ่นบ้า 
ธูปเทียนเวียนวนบน-..............................บานท่าน เจ้าพ่อ 
จมปลักใยรักข้า ฯ..................................คบแค้นแสบแสน ฯ 

...............หันเหฤาเร่ร้าง........................หลังเหลียว 
หักจิตคิดแสบเสียว................................เกี่ยวคล้อง 
พลัดพรากมักเฉลียว...............................ปวดเปลี่ยว เดียวดาย 
โคลงครวญกระบวนฟ้อง..........................ขลุ่ยก้องคลองนา ฯ 

.............กรีดกรายหมายร่ายนิ้ว................หวิววอน 
พญาโศกวิโยคคลอน................................ท่อนช้ำ 
ราตรีกี่คืนนอน.........................................กัดกร่อน ใจสลาย 
ลมล่องคลองคูน้ำ......................................พร่ำเพี้ยงเสียงหลง ฯ 

..............จบจากมักท่วมน้ำ-.......................ตานอง 
รันทดสลดมอง..........................................ถ่องถ้วน 
รักโลภละโมภปอง......................................ผองเล่ห์ รวนเร 
อวสานสรรค์รจน์ล้วน................................ป่วนไข้ในลคร ฯ				
28 กรกฎาคม 2545 01:02 น.

แพ้

อัลมิตรา


...ต่อให้นานสักเพียงไหน ก็ตามแต่... 
...แต่คำว่าแพ้ แพ้ ก็คงอยู่ ก็คงอยู่... 
...เป็นเหมือนคำสาป เป็นเหมือนคำขู่... 
...อยู่ในใจจนตาย ไม่มีลืม... 


...มาเยือนเตือนพี่ย้ำ ..................คำโคลง 
ให้เปรียบกานท์จรรโลง...............สืบแก้ 
ฟังเพลงเก่าลุ่มหลง...................เจียนเจ็บ ใจแม่ 
เพลงดั่งคนพ่ายแพ้...................หมดสิ้นกำลัง ฯ 

...โคลงเขียนแทนคำคล้อย...........หทัยตาม 
คำสาปดั่งเขตขาม.....................คร่ามกั้น 
สะเทือนจิตทุกยาม....................เมื่อคิด พี่เอย 
คำหนึ่งซึ้งใจนั้น........................ย่ำแพ้แก่ใจ ฯ 

...ดั่งธารวารผ่านพ้น...................เตือนใจ 
สั่นเส่าระทมใน............................อกอ้าง 
ไร้พลังฉุดยื้อไว้..........................หมดเรี่ยว แรงเฮย 
ทุกสิ่งกลับอ้างว้าง......................พร่างน้ำตานอง ฯ 

...วานโคลงผ่านพี่ได้....................ชายตา 
ว่าพร่ำคร่ำครวญหา.....................ฝากถ้อย 
เพ่งเขียน บ่ หรรษา.....................เกินกู่ เพลงนา 
ยิ่งตอกยิ่งเจ็บคล้อย...................ดาวดิ้นสิ้นตาม ฯ				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา