16 ธันวาคม 2545 15:08 น.
อัลมิตรา
@.....กมลฉันท์...
.....กิริยากวีขับ..........................ดุจอัปสราชม
รติพี่มิมีตรม..............................อภิรมย์สนมนวล
กวิพร่ำพิร่ำแล้ว..........................มุติแน่วมิแคล้วครวญ-
พนิดาฉวีชวน............................สิริมวลขบวรปรีด์
@.....กลอน...๖...
.....ขานขับสดับศัพท์สม................คารมขรมพลันรัญจวน
เริงรมย์ข่มร้ายหมายสรวล..............งามล้วนถ้วนท่าพาที
ดุจแก้วแพรวค่ากระบวร................สำนวนหวลรักปักฤดี
ใคร่ครวญถ้วนความตามมี.............เสาวนีย์ที่อ้างดังใจ ฯ
@.....กมลฉันท์สมานกลอน ๑....
.....กิริยากวีขับ..........................ขานขับสดับศัพท์สม
ดุจอัปสราชม............................คารมขรมพลันรัญจวน
รติพี่มิมีตรม..............................เริงรมย์ข่มร้ายหมายสรวล
อภิรมย์สนมนวล........................งามล้วนถ้วนท่าพาที ฯ
.....กวิพร่ำพิร่ำแล้ว....................ดุจแก้วแพรวค่ากระบวร
มุติแน่วมิแคล้วครวญ-................สำนวนหวลรักปักฤดี
พนิดาฉวีชวน............................ใคร่ครวญถ้วนความตามมี
สิริมวล ขบวรปรีด์.....................เสาวนีย์ที่อ้างดังใจ ฯ
@.....กมลฉันท์สมานกลอน ๒....
.....เสาวนีย์ที่อ้างดังใจ..................เริงรมย์ข่มร้ายหมายสรวล
คารมขรมพลันรัญจวน..................ใคร่ครวญถ้วนความตามมี
มุติแน่วมิแคล้วควร.......................สิริมวล ขบวรปีดิ์
งามล้วนถ้วนท่าพาที.....................รติพี่มิมีตรม ฯ
.....กิริยากวีขับ............................ขานรับสดับศัพท์สม
ดุจอัปสราชม...............................อภิรมย์สนมนวล
กวิพร่ำพิร่ำแล้ว............................ดุจแก้วแพรวค่ากระบวร
พนิดาฉวีชวน...............................สำนวนหวลรักปักฤดี ฯ
15 ธันวาคม 2545 18:21 น.
อัลมิตรา
กมลฉันท์
.....อภินันท์ประพันธ์อรรจน์..............วิทวัสประศาสตร์กานท์
สุวิจิตรประสิทธิ์สาส์น.....................จิรกาลบุราณมา
อนุชนนิพนธ์หมาย.........................จรลายอวิชชา
และขยันจะสรรหา..........................กติกากวีเพรง ฯ
.....ขณะร่ายขยายความ..................อภิรามฉมำเคร่ง
มธุรสสบถเผง..............................สิเชลงเลบงฉันท์
ศิรกรานมิรั้นครู............................มุนิผู้วิทูธัญ
ศุจิจิตรลิขิตนั้น.............................สิริพลันชวาลเทอญ ฯ
กมลฉันท์สมานกลอน ๘
....อภินันท์ประพันธ์อรรจน์สรรเสริญ.............และกล่าวเกริ่นร่ายเรียงเผดียงขาน
ซึ่งมวลพิชญ์วิทวัสประศาสตร์กานท์..............ประสิทธิ์สาส์นสุวิจิตรลิขิตฉันท์
จิรกาลบุราณมาวิชาล้น...............................อนุชนนิพนธ์หมายคลายโมหันต์
จรลายอวิชชาวิสามัญ.................................และขยันจะสรรหาภาษารจน์ ฯ
....กติกากวีเพรงเกรงกลับกลาย..................ขณะร่ายขยายความตามเกณฑ์กฎ
อภิรามฉมำเคร่งเชวงพจน์..........................มธุรสสบถเผงสิเชลง
เลบงฉันท์ศิรกรานมิรั้นครู...........................มุนิผู้วิทูธัญท่านกล้าเก่ง
ศุจิจิตรลิขิตนั้นพลันวังเวง...........................อย่าข่มเหงสิริพลันชวาลเทอญ ฯ
กมลฉันท์ (กะ - มะ - ละ - ฉันท์) แปลว่าฉันท์ที่มีลีลาดุจกล่อมใจให้เพลิดเพลิน
13 ธันวาคม 2545 13:44 น.
อัลมิตรา
.....กลีบงามอร่ามพรรณ..................มิประหวั่นคละผ่านลม
สวยนักประจักษ์ชม.........................ดุจข่มวิตกคลาย
ชมชื่นระรื่นยิ่ง................................สละสิ่งและโศกหาย
ฉูดฉาดผงาดพราย.........................มิจะหน่ายสิใคร่เชย ฯ
.....กลีบงาม......ยามรุ่งฟ้า..............จิตรการ
อร่ามพรรณ.....ดุจเยาวมาลย์..........ยิ่งแท้
มิประหวั่น...ปองสมาน...................สนิทเนื่อง- หทัยพี่
คละผ่านลม...แผ่วแล้.....................กอดเนื้อคลายหนาวฯ
.....สวยนัก...หากเทพฟ้า................ทัศนา- แม่เอย
ประจักษ์ชม...ดุจอัปสรา.................เลิศล้ำ
ดุจข่ม...สิเหน่หา.............................เต็มอก
วิตกคลาย...ใฝ่ย้ำ...........................ลอบใกล้หมายนวล ฯ
.....ชมชื่น...อาจตื่นเต้น..................ทันใด
ระรื่นยิ่ง...อิงใจ..............................ไขว่คว้า
สละสิ่ง...ทิพย์เทพไท....................สวรรค์โลก
และโศกหาย...ใฝ่ท้า......................แย่งเจ้าเชยชม ฯ
.....ฉูดฉาด.....อาจเพริศแพร้ว.........อรชร
ผงาดพราย-.....พร่างตอน...............เหนี่ยวน้าว
มิจะหน่าย...หมู่ภมร........................ชมชื่น อยู่ฤา
สิใคร่เชย...เผยอะคร้าว..................แม่เจ้าปทุมทอง ฯ
13 ธันวาคม 2545 10:38 น.
อัลมิตรา
...ขอสิทธิเสรีภาพ..................................เพียงแค่อยากทราบ
เพียงขนาบทาบทาหรือไร
...กฏหมายใครเขียนเวียนใจ....................อาจแก้กันไป
ตามสมัยยุคกาลผ่านเพรง
...บ้านเมืองมากเรื่องหวั่นเกรง...................มากมายนักเลง
ข่มเหงอิสรภาพขังใจ
...ดุจยุคนักล่าเกรียงไกร..........................ออกเรือขึงใบ
หวังได้ดินแดนย่ำยี ฯ
...ฉุดคร่าราวีทุบตี....................................ข่มเหงสตรี
ใครที่ศิโรราบรอดตาย
...อีกมากซากถมเรียงราย..........................ประชดกฏหมาย
เขียนไว้มากมายไป่ตาม
...สิทธิที่มีลวนลาม...................................ย่ำยีเหยียดหยาม
ดุจห้ามออกเสียงเยี่ยงใด
...อยากบินสู่ถิ่นฟ้าไกล..............................ดุจนกพณาไพร
อย่าได้ขังสิทธิ์ติดกรง...ฯ
11 ธันวาคม 2545 14:30 น.
อัลมิตรา
ตะวันส่องใสแดดฉายลงมาทาบทาทิวทุ่ง
แผ่วลมผ่านโรยเหมือนโปรยกลิ่นปรุงดอกฟางหอมลอย
ดอกหญ้าดาววับวาวทางเกลื่อนเหมือนดังหยาดพลอย
แตะนิดต้องน้อยราวมณีร่วงพรูพลัดพรายลงดิน
จะอยู่แห่งไหนสุดฟ้าแสนไกลคะนึงถึงถิ่น
ด้าวแดนแผ่นดินที่เราจากมาเนิ่นนานแสนนาน
ดอกหญ้างามงดงามดังก่อน หรือรอนร่วงราน
แดดร้อนดินแล้งลมระงมแผ้วพานบ้านนาป่าเขา
ทุ่มกายทุ่มใจเข้าโหมแรงไฟหัวใจแรงเร่า
ยิ่งสร้างยิ่งทำระกำหนักเบาดิ้นรนหนทาง
เจ้ามิ่งขวัญยิ่งวันยิ่งเดือนยิ่งเลือนยิ่งลาง
ทอดทิ้งทุ่งร้างวันและวันผ่านเยือนเหมือนเดินทางไกล
ตะวันส่องแสงสาดแสงลงมาทาบทาทางใหม่
ร่วมจิตร่วมใจก้าวไปก้าวไปฝ่าภัยร้อยพัน
มิ่งขวัญเอ๋ยหัวใจเรามั่นเหมือนทานตะวัน
เฉิดแสงแรงฝันกลางระวีตะวันสีทองส่องใส
เพลงทานตะวัน
ครูเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ประพันธ์เนื้อร้อง
ครูธนิศ สีกลิ่นดี..บรรเลงทำนองขลุ่ย
******
...แม้ไม่อาจเทียบทาบบทประพันธ์อันเพริดแพร้วของท่านได้...
...แต่ก็เป็นแรงบันดาลใจสร้างฝันให้เขียนชิ้นงานนี้..
....จากฟ้าดั่งฝันราวมณีสวรรค์แวววรรณฉายส่อง
...นั่งเมียงเพียงมองดังฤทัยใฝ่ปองครอบครองสรรพ์สิ้น
...เยือนทุ่งนาทองเหลืองงามล้ำผ่องจากฟ้าสู่ดิน
...หากเปลี่ยนเวียนผันจินตนาการยินโศภิณเพรียกขวัญ
...ตะวันเลือนฟ้าสนธยามาเยือนเหมือนใครครวญคร่ำ
...พันหมื่นดื่นคำร่ายเรียงลำนำจารจำรำพัน
...ประดุจแสงสูรย์เอื้อใจการุณยั่งยืนชื่นวัน
...หากร้างยังฝันเพียงตะวันแจ่มแสงสำแดงเฉิดฉาย
...สุดเอ่ยรำพันแค่ฝันผ่านคืนสะอื้นขืนข่ม
...ลมโบกโศกตรมดวงฤทัยระทมเร่งรัดร่ำไห้
...ก่อนเอ่ยอำลาขอเพียงวาจาสนทนาร่ำไร
...จากถิ่นดินไหนยังคนึงอาลัยพันผูกสุขครอง
...หนึ่งจิตแจ่มใสหล่อหลอมแรงใจชาวไทยเป็นหนึ่ง
...พรั่งเพรียกพลังเหมือนดังรัดรึงตราตรึงขวานทอง
...ผงาดหยัดฟ้าอ่อนโหยโรยลาฟันฝ่าใฝ่ปอง
...ประดุจพี่น้องใจสัมพันธ์เรืองรองมาตุภูมิแผ่นดิน...
อัลมิตรา