14 พฤศจิกายน 2546 21:47 น.
อัลมิตรา
...ย่ำค่ำยามคืน.............มาลาพาชื่น.............ดาษดื่นดอกงาม
เบ่งบานพลันพลิ้ว........ท่วงทิวท่าตาม.........กิ่งรวนก้านลาม
เมื่อยามลมโชย
...เย็นใจใคร่มอง..........บุบผาผุดผ่อง........ก่อนต้องร่วงโรย
งดงามยามคืน..............หลงยืนบันโดย*.......หากไร้ใจโหย
บำโบย*เด็ดดม
...ลมล่องต้องใบ.........ระบัดกวัดไกว...........กิ่งไม้เริงลม
หอมกรุ่นเย้ายวน..........รัญจวนจิตชม..........ให้ชื่นรื่นรมย์
สุขสมตรมคลาย
...ชื่อว่า ราตรี ........ดอกมากหลากมี.........ควรที่เมียงหมาย
สีขาวราวสังข์..............สะพรั่งเรียงราย.........ดุจดาวพราวพราย
เบื้องปลายแปลกตา
...ไม้กลุ่มพุ่มใหญ่.........อวดก้านกิ่งใบ...........ครวญใคร่ทัศนา
ยามเมื่อดอกบาน..........ตระการแน่นหนา.........อวดแสงจันทรา
งามกว่ากาพย์เปรย
...ขาวนวลชวนหลง........จับจิตจำนง.............ประสงค์ชมเชย
ฤๅเทพเสกสร้าง.............สวยสล้างจริงเอย......ใบงอกดอกเงย
เกินเอ่ยเผยความ
... ราตรี หอมกรุ่น.....คงสิ้นกลิ่นคุ้น..........คราวอรุณรุ่งยาม
เมื่ออรุโณทัย................สดใสวาววาม...........สิ้นหอมสร่างงาม
นิยามธรรมดา
...หากเปรียบเทียบน้อง.....พิสุทธิ์ผุดผ่อง........ควรต้องคะนึงหา
ใช่งามข้ามคืน................สดชื่นทุกครา.............คราวเคียงกายา
ขออย่าเคลือบแคลง
...ขอปองครองชิด........ชมชอบมอบจิต.........บ่คิดหน่ายแหนง
ทิวาราตรี....................บ่มีเปลี่ยนแปลง..........กวีชี้แจง
กาพย์แสดงแจ้งใจ
...ฤดีสิเหน่หา..............มิ่งขวัญกัลยา..............ไม่ว่ากาลใด
ยังสนิทชิดเชื้อ............จุนเจือตลอดไป............ไมตรีมีให้
อย่าได้จืดจาง ฯ
14 พฤศจิกายน 2546 11:54 น.
อัลมิตรา
ชาย..
...โอ้คนดีพี่มารักษาจิต
ช่วยชีวิตด้วยรักอย่าผลักไส
พี่เปลี่ยวเปล่าเศร้าโศกเพราะโรคใจ
ที่เป็นไข้จนแย่นะแม่คุณ
โปรดแบ่งรักสักนิดเจ้าคิดเถิด
จะประเสริฐสูงสุดช่วยอุดหนุน
สงสารพี่ที่มาอย่าทารุณ
จะเห็นบุญทันตาค่าปรานี
ขอมอบใจไว้เคียงอยู่เพียงเจ้า
และขอเอารักให้ไม่หลีกหนี
แทนหยูกยาค่ารักอย่างภักดี
จากใจพี่คนเศร้าเขาลวงมา...
หญิง..
...ฟังน้ำคำย้ำหนอพ่อคนเศร้า
ว่าปวดร้าวเรื่องใดให้กังขา
ตัองการรักรักษ์ไว้แทนหยูกยา
เจ็บไข้มาจักคลายหายโดยพลัน
โดนใครลวงล้วงจิตพิษรักถม
ต้องตรอมตรมหมองหม่นจนโศกศัลย์
เคยเริงรื่นชมื่นสุขทุกคืนวัน
ทำมาคั้นเสียงอ้อนแสนอ่อนใจ
โอ้ละหนอ..ขอใจหมายเคียงข้าง
กลัวทิ้งคว้างลาลบเมื่อจบไข้
ปล่อยคนนี้ที่จักรักษาใจ
ต้องหมองไหม้ผู้เดียวเปลี่ยวอาดูร...
11 พฤศจิกายน 2546 14:18 น.
อัลมิตรา
ทุกนาทีมีสิทธิ์แค่คิดถึง
แม้รู้ซึ้งเธอนี้มีเจ้าของ
ได้แต่แอบซ่อนหน้าน้ำตานอง
เห็นเขาครองคู่เคียงจึงเลี่ยงไป
เห็นเธอมีความสุขฉันสุขยิ่ง
แม้ความจริงคนอื่นชื่นชิดใกล้
หากวันหนึ่งเธอเศร้าปวดร้าวใจ
โปรดรู้ไว้ฉันเจ็บเกินเก็บทน
ความลับอยู่ภายในหัวใจนี้
ความรักที่หนาวเหน็บเจ็บเหลือล้น
ความรู้สึกที่ยากมอบตอบบางคน
ช่างวกวนยากเอ่ยเผยตามจินต์
ไม่กลัวความเป็นไปในภายหน้า
สมมุติว่าเขาหักสูญรักสิ้น
ยังรอคอยด้วยใจหมายยุพิน
โปรดยลยินคำมั่น ..ฉันรักเธอ
...มีความลับที่อยู่ในใจ
...มีความลับที่อยู่ข้างใน
...เป็นความลับที่ยังเปิดเผยไม่ได้
...มีความลับที่อยู่ในใจ
...เป็นความลับที่อยู่ข้างใน
...แต่ไม่รู้จะบอกเธอ ได้อย่างไร
8 พฤศจิกายน 2546 00:24 น.
อัลมิตรา
ด้วยเวลาฉันเหลือเพียงน้อยนิด
สิ่งถูกผิดเคยทำฉันจำได้
สารภาพบาปนั้นมันฝังใจ
ลบอย่างไรมิหมดเหมือนปลดวาง
ผิดที่ใจฉันแกร่งแสร้งไม่รัก
ผิดที่หักอกชายหมายบาดหมาง
ผิดที่รั้นแม้นฝันไม่เห็นทาง
ผิดที่ห่างตัวตนเกินค้นใจ
ผิดที่มีรูปนามช่างงามงด
ผิดที่ยศศักดินาค่ายิ่งใหญ่
ผิดที่เลิศฝีมือเลื่องลือไกล
ผิดเรื่อยไปหากกู่ก็รู้ความ
หากเธอคิดจากไกลในวันนี้
ตอบฉันทีคำหนึ่งซึ่งอยากถาม
ฉันผิดมากใช่ไหมในนิยาม
หรือเป็นตามที่เธอมอบ..ตอบฉันที
7 พฤศจิกายน 2546 17:01 น.
อัลมิตรา
รัตติกาลมาเยือนเห็นเดือนจ้า
ดื่นดาราแสงงามวับวามยิ่ง
นั่งมองด้วยใจชื่นรื่นรมย์จริง
สองคนอิงเคียงข้างดั่งพร้อมใจ
สองฟากฝั่งแม่น้ำยามคืนนี้
หลากแสงสีเจิดจ้ากว่าคืนไหน
กระทงน้อยลอยน้ำงามจับใจ
มีเล็กใหญ่เรียงรายหมายพิศครวญ
ทั้งตกแต่งบุบผาน่าชมนัก
ธูปเทียนปักตรงกลางช่างหอมหวน
อีกใบตองพับวางอย่างสมควร
ทุกสัดส่วนประณีตพลั้งจิตชม
แม้นน้ำหลากลมพัดไม่กวัดแกว่ง
ยังแสดงความงามตามเหมาะสม
แสงเทียนไขธูปคลุ้งฟุ้งเริงลม
ให้เชยชมตราบคล้อยลอยลับตา
คงด้วยแรงแห่งจิตอธิษฐาน
ให้พ้นผ่านคลื่นลมโถมพัดหา
จึงลอยเด่นสวยสล้างกลางนาวา
เปรียบเปรยว่ารักนั้นเป็นมั่นคง
เห็นพลุสีพุ่งแสงแข่งเพ็ญแข
ชายตาแลหลากหลายคล้ายลุ่มหลง
แตกกระจายแจ่มกระจ่างพร่างสุรงค์*
อีกจักรกงพลุตะไลไฟพะเนียง
แสนตื่นตาต้องใจในคืนนี้
คนมากมีขวักไขว่ได้ยินเสียง
บ้างรำพันพร่ำพรอดกอดแขนเคียง
บ้างเอนเอียงชิดกายไม่ห่างกัน
เห็นเด็กน้อยวิ่งเล่นเช่นซ่อนหา
บางคนคว้าพลุแสงอวดแข่งขัน
ทั้งประทัดวี๊ดปั้งเสียงดังพลัน
บ้างตัวสั่นทั้งสนุกล้มลุกไป
ร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้าต่างมาตั้ง
เห็นอาบังขายถั่วคนตัวใหญ่
ซาละเปาโรตีที่ชอบใจ
อีกผัดไทยกล้วยแขกดูแปลกตา
คนอุ้มลูกจูงหลานเที่ยวงานนี้
เด็กน้อยชี้ลูกโป่งตรงเข้าหา
บ้างงอแงแค่หวังนั่งชิงช้า
ทั้งวิ่งหาของเล่นเป็นวุ่นวาย
โรงลิเกชื่อดังกังวานก้อง
พระเอกร้องเสียงหลงบ่งความหมาย
เห็นแม่ยกยื้อแย่งแข่งดึงกาย
ไม่เอียงอายกอดจูบแอบลูบคลำ !
บ้างทะเลาะเบาะแว้งแย่งพระเอก
ดุจมนต์เสกให้หลงใหลใจถลำ
พอตัวโกงออกมาว่าระยำ !
เสียงพึมพำด่าทอจนพอใจ
เดินผ่านมาเห็นโขนห้อยโหนเต้น
ลิงทะเล้นหนุมานพลันยักไหล่
เจ้ากระบี่ตัวน้อยพลอยชอบใจ
กลิ้งตามไปล้มลุกและคลุกคลาน
บ้างหางหลุดหัวหล่นอลเวง
คว้ากางเกงสับสนอลหม่าน
ถือกระบองฟาดไปใส่กระบาล
บ้างเดือดดาลนอกบทโดดวางมวย
ทั้งเตะต่อยนอกกฏสมบทบาท
ตบดังฉาดหน้าง้ำทำฉาบฉวย
คนปรบมือพอใจคล้ายอำนวย
ให้เงินด้วยยิ้มร่าน่ายินดี
ละครลิงผลัดหน้าทั้งทาแป้ง
ป้ายแก้มแดงปากเยิ้มเติมเส้นสี
ทำทะเล้นเริงร่าหน้าเวที
ร้องรำดีคนฮาจนหน้าแดง
ขอเดินเลี่ยงเคียงข้างสู่ฝั่งน้ำ
ชมเดือนล้ำดาวรายเฉิดฉายแสง
เดือนสิบสองน้ำใสไม่เปลี่ยนแปลง
อย่าเคลือบแคลงคำนี้ที่พร่ำวอน
ด้วยอำนาจบูชาพระสุคต*
ผู้หมดจดเลิศล้ำทั้งคำสอน
อีกพระแม่คงคาข้าพฯ ขอพร
ให้หมดร้อนทุกข์โศกทั้งโรคภัย
ขอเคียงคู่ความรักสมัครสมาน
แม้นคืนผ่านวันเคลื่อนปีเดือนไหน
ไม่ร้างลาจืดจางดั่งเคียงใจ
มั่นคงในสัญญาที่ว่ากัน
ขอกระทงลอยไปไม่สั่นคลอน
อย่าเร่ร่อนลอยคว้างอย่างไหวหวั่น
คืนเดือนดาวพราวพรายพิไลพรรณ
เปรียบคำมั่นที่อ้างกระจ่างใจ ฯ