3 กุมภาพันธ์ 2548 10:28 น.
อัลมิตรา
...สัญญา...
...หากเป็นแค่วาจาที่พลั้งจากปาก...
...คือถ้อยความน้ำคำที่พร่ำได้ไม่ยาก...
...แค่คำชินปากแล้วกล่าวออกมา...
...ฉันอยากทวงถามซึ่งความรู้สึก...
...ถึงจิตสำนักที่เคยมีค่า...
...ที่เธอเคยบอก...หรือหลอกฉันตลอดมา...
...เพียงอยากถามถึงสัญญาที่ค้างคาในใจ...
...อยากให้เธอยอมรับ...
...ถึงความสับปลับ...ที่เป็นผลงานอันแสนยิ่งใหญ่...
...ที่โน้มนำความคิดจนฉันหลงผิดไป...
...นึกว่าเธอมีใจจึงได้มอบไมตรี...
...นิยามรักลวง .. คือห้วงแห่งช้ำ...
...กับหนึ่งหัวใจที่ถลำ...ทั้งถูกเหยียบย่ำขยี้...
...โอ้.. นี่หรือคือคนที่เคยปรารถนาดี...
...สิ้นเยื่อใยไมตรี .. ไม่มีอาวรณ์...
...สายใยสายรักแตกหักสะบั้น...
...ให้เป็นเพียงฝัน .. ที่หลอกกันเมื่อวันก่อน...
...เป็นหนึ่งฝันร้าย .. ซึ่งคล้ายกับภาพหลอน...
...เป็นหนึ่งอุทาหรณ์ .. ที่บั่นทอนยามคร่ำครวญ...
...ขอฟื้นตื่นฝัน...ลืมคืนวันที่ชอกช้ำ...
...ลบล้างความทรงจำ .. ที่ถลำกำสรวล...
...แล้วเก็บเรื่องราวความโศกเศร้าทั้งมวล...
...เพื่อไตร่ตรองจนถี่ถ้วน...
...โดยจะไม่หวนคำถึงถึง .. สัญญา ...
2 กุมภาพันธ์ 2548 23:15 น.
อัลมิตรา
..๏ ดั่งหมึกจารกลางใจไม่อาจลบ
รักร้อยจบคัดลอกบอกถ้อยหวาน
เที่ยวแจกจ่ายหญิงอื่นทำชื่นบาน
แสร้งร้าวรานเพ้อพร่ำว่าช้ำใจ
โอดครวญว่าสัญญาคราก่อนนั้น
มาสูญพลันเพราะเราเสกเศร้าใส่
กลายเป็นตัวตลกอกช้ำใน
จนใครใครเข้าข้างอย่างทุ่มเท
หลากอารมณ์จริงหนอพ่อฤกษ์จ๋า
หลายลีลาอรรถรสบทเจ้าเล่ห์
รวยอักษรมากมายคล้ายลิเก
คนเขาเฮมาปลอบดุจชอบความ
น้องสงสารวานว่ามาช่วยลุ้น
พี่เกื้อหนุนสัญญาพาทวงถาม
เพื่อนอยากรู้คำตอบลอบติดตาม
แต่เราปรามอย่าคิดเพราะผิดตัว ๚ะ๛
1 กุมภาพันธ์ 2548 11:43 น.
อัลมิตรา
..๏ อ้างหลักฐานโบราณมาขานถม
พูดลอยลมแล้วห่างเหมือนร้างฝัน
อดีตรักสัญญาคราสัมพันธ์
มาผกผันเพราะใครไม่เหลียวแล
ดอดไปจีบหญิงอื่นชื่นต่อหน้า
แล้วหวนมาทวงคำย้ำกระแส
ขุดเรื่องเก่าเล่าย้อนก่อนรักแปร
ความจริงแท้ลืมแล้วรักแผ่วลม
สัญญาที่รานใจใครคนนั้น
ทำร้ายฉันปวดร้าวเศร้าขื่นขม
เพราะรักลวงเธอหว่านคำหวานชม
ฉันโง่งมเกินกว่ารู้ค่าจริง
อยากลบความทรงจำที่ช้ำนี้
แล้วหลบลี้ตัวตนพ้นทุกสิ่ง
ขออยู่อย่างเดียวดายมิหมายอิง
ปลดรักทิ้งสัญญาลวงมิทวงคำ ๚ะ๛
31 มกราคม 2548 23:39 น.
อัลมิตรา
..๏ อย่าหลับจนทับสิทธิ์........หรือเลือกผิดไม่ไตร่ตรอง
ขอให้ไทยทั้งผอง.................โปรดอย่ามองแค่เบอร์ดี
เลือกโจรไปปล้นชาติ............คนอุบาทว์ครองปฐพี
คนไทยไม่เช่นนี้..................เชื่อว่ามีอุดมการณ์ ฯ
..๏ เลือกพรรครักบุคคล.........ต้องสืบค้นเรื่องการงาน
คนดีมีหลักฐาน....................จักสืบสานงานบ้านเมือง
อย่าหลับกับเสียงสิทธิ์...........หรือหลงผิดคิดฝันเฟื่อง
แผ่นป้ายอันเกลื่อนเมือง.......เพียงอ้างเรื่องคำสัญญา ฯ
..๏ พรรคใดใครซื่อตรง...........อีกมั่นคงในปฏิญญา
นโยบายใช่วาจา.....................แค่ปากอ้าโอ้อวดกัน
ฟังแล้วให้เคลิบเคลิ้ม..............จนเราเริ่มวาดความฝัน
นี่คือผู้สำคัญ...........................จักรังสรรค์ด้านความเจริญ ฯ
..๏ น้ำไหลจนไฟดับ..............ลิงเผลอหลับด้วยความเพลิน
การงานและการเงิน...............มากเหลือเกินช่างสมจริง
ประชาธิปไตย........................บันดาลให้ได้สรรพสิ่ง
อำนาจอาจอ้างอิง....................เพื่อช่วงชิงแล้วเชือดเฉือน ฯ
..๏ มีดโกนอาบน้ำผึ้ง.............ปังตอหนึ่งยังเลอะเลือน
พี่น้องอีกผองเพื่อน................ยังดูเหมือนภาพลวงตา
เห็นใครถูกใจแล้ว..................เดินเข้าแถวเข้าคูหา
พรรคใดให้พิจารณา...............อย่าขายผ้าเอาหน้ารอด ๚ะ๛
18 มกราคม 2548 15:52 น.
อัลมิตรา
..๏ มีคำตอบมากมายหมายให้ถาม
จะตอบตามหัวข้อเพื่อล้อเขียน
หนึ่งปุจฉาหนึ่งบทกฎความเพียร
เชิญเพื่อนเวียนฝากไว้ในคำกลอน ๚ะ๛
ตัวอย่าง ๑ คำถาม ต่อ ๑ บท
ปุจฉา ..
คือบันทึกบรรทัดความอัดอั้น
เสียงเย้ยหยันเหยียดหยามยังตามหลอน
อยากแหกกฏฉันทลักษณ์หักใจคอน
เชิงยังอ่อนตะแบงไปอย่างไรดี
วิสัชนา..
ฉันทลักษณ์ร่างไว้ให้ยึดถือ
กฎก็คือข้อบัญญัติจัดตามที่
หากอ่อนหัดควรขยันหมั่นเพียรมี
อย่าเพิ่งตีคำประณามว่าหยามตน