30 กรกฎาคม 2549 21:50 น.
อัลมิตรา
๏ สายลมโหมพัดผืนทราย..............เย็นยะเยือกย่างกราย
อกสั่นขวัญหายใจระรัว
๏ พยุงร่างอ่อนล้าตามัว....................ยังแดนอันสลัว
ถ้วนทั่วย่างสู่ราตรี
๏ ซึ่งประตูรัตติกาลยังมี....................สบแสงสว่างสี
ริบหรี่ที่เห็นเช่นฝัน
๏ เวิ้งว้างทางไกลเนื่องอนันต์...........เคยเพ้อละเมอพลัน
สารพันอันตรธานทันใด
๏ ปองพักพิงพับหลับไหล...............ณ สถานอันใด
ครั้นใคร่ได้นิทรารมย์
๏ โอ้มีกัลยาตากลม..........................สวยล้ำงามสม
ชวนชมยืนยิ้มพริ้มเพรา
๏ ครั้นสดับกังสดาลเร่งเร้า................เสมือนมนต์ดลเรา
ให้เข้าสู่ห้วงอาถรรพ์
๏ สรรพสิ่งเสมือนพบครบครัน...........นั่นนรกหรือสวรรค์
ใดกันมิอาจคาดคะเน
๏ เนื่องนวลนงคราญหว่านเสน่ห์.......แสนฉงนสนเท่ห์
แฝงเล่ห์หรือไรใคร่ลอง
๏ พลันพาเพลิดเพลินเดินมอง..........ผู้คนทั้งผอง
เสมือนร้องก้องดังกังวาน
๏ เชิญชมรมณียสถาน.......................จงสนุกสุขสราญ
เบิกบานแท้โอ้ โฮเต็ล-
๏ แคลิฟอร์เนีย ที่เห็น...................วิจิตรการเป็น-
หลากประเด็นจักพบครบครัน
๏ พรั่งพร้อมสารพัดอัศจรรย์.............ใช่เป็นเช่นฝัน
จักพลันเป็นตามความประสงค์
๏ กิริยารัญจวนนวลอนงค์..................ชวนให้ใจหลง
ยังคงใฝ่เฝ้าเย้ายวน
๏ หลากบุรุษฉุดยื้อถือนวล.................นางเช่นเชิญชวน
หลากล้วนเป็นเสมือนเพื่อนชาย
๏ มหาชนคนมากหลากหลาย.............ขยับร่างย่างกาย
โยกย้ายเต้นระบำตามเสียง-
๏ เพลงเร้าอารมย์พร้อมเพรียง.........ใครใคร่แอ่นเอียง
สำเนียงเร่าร้อนเหลือคณา
๏ บางท่วงเบื้องถ้อยนั้นหนา..............ให้ซึ้งตรึงตรา
บางคราบ่กำหนดจดจำ
๏ พลันนั่งทั้งเอ่ยเปรยคำ................. ขอดื่มสุราล้ำ
รสเลิศเถิดย้ำหนำใจ
๏ ไร้น้ำจัณฑ์สุราอันใด....................สิ่งปองของใคร
ขอให้เข้าใจตามนี้
๏ พลันได้สดับซึ่งวาที........................กังวานซ่านฤดี
ทั้งที่คนโปรดโจษขาน
๏ เชิญชมรมณียสถาน........................จงสนุกสุขสราญ
เบิกบานแท้โอ้ โฮเต็ล-
๏ แคลิฟอร์เนีย ที่เห็น.......................วิจิตรการเป็น-
หลากประเด็นจักพบครบครัน
๏ ผู้คนเริงร่าสารพัน.............................พักสถานที่อัน
รื่นรมย์สมสนุกทุกคน
๏ ช่างสุขสราญรื่นระเริงจน..................อัศจรรย์พลันล้น
ลืมตนจนตัวมัวเมา
๏ เพดานตระการตานั้นเล่า..................งามพิลาสคาดเดา
อีกเหล้าเชมเปญเย็นใส
๏ ด้วยสีชมพูต้องใจ..............................ดื่มด่ำฉ่ำฤทัย
เพียงใคร่อบอุ่นสุนทรีย์
๏ แล้วเจ้าเยาวมาลย์พลันมี.................ท่วงท่าพาที
เรานี้ทั้งนั้นอันตราย
๏ เบื้องมโนธรรมล้ำหลากหลาย..........ของเหล่าชนชาย
มากมายเคล้าระคนปนเป
๏ แล้วสุขสนุกสนานฮาเฮ.....................เปลี่ยนแปลงแฝงเล่ห์
สนเท่ห์สยองขวัญสั่นสะท้าน
๏ ต่างบุกรุกล้ำประจันบาน....................จ้วงแทงหักหาญ
โรมรันห้ำหั่นบีฑา
๏ ด้วยมีดที่ได้ขโมยมา.........................จึ่งสั่นขวัญผวา
ด้วยว่าเลือดได้ไหลนอง
๏ ไร้ผลจนสลดสยดสยอง...................อสูรนั้นพลันคะนอง
เสมือนต้องยังสถิตย์นิจนิรันดร์
๏ อสูรร้ายใช่เช่นอาถรรพ์.....................ด้วยมนตราอัน
ชั่วนั้นหมายขย้ำผู้คน ?
๏ ตื่นตระหนกตกใจเหลือล้น.................วิ่งหนีอลวน
สับสนรีบเร่งเกรงภัย ฯ
๏ มุ่งตรงสู่ทวารทันใด..........................ทั้งพะวงสงสัย
ห่วงในสิ่งของที่วาง
๏ บังเกิดเสียงสยองบางอย่าง............... ใจเย็นไว้บ้าง-
พี่ช่างรีบจรร้อนรน
๏ เช็คเอาท์ได้ตามใจตน........................จงอย่ากระเสือกกระสน
ทุกคนจากไปได้เสมอ
๏ แต่จงอย่าฝันพลันเพ้อ.........................ต้องประสบพอเจอ
ไม่พ้นอำนาจฆาตกรรม ๚ะ๛
29 กรกฎาคม 2549 11:37 น.
อัลมิตรา
..๏ สิ่งที่ดูคลับคล้ายอาจไม่เหมือน
เพราะบางอย่างปนเปื้อนกลาดเกลื่อนเห็น
มากเหตุการณ์กักขฬะซ่อนประเด็น
มีนัยเร้นเลศแฝงหลากแหล่งรวน
ตัวอักษร,ลมปาก คนลากเล่า
มาตรแม้นเราหลงผิดคิดมิถ้วน
จิตอาจกลายเป็นเหยื่อเชื่อกระบวน
เนื่องจากไม่ใคร่ครวญแปรปรวนตาม
อันข่าวคราวสำทับเขาปรับแต่ง
เรื่องของคนขัดแย้งยัดเยียดหยาม
คำให้ร้ายโพทนาว่าสุดทราม
ก็ล้นหลามโสมมสังคมไทย
แล้วแต่เรากำหนดจิตพิศพิเคราะห์
วางตนเหมาะมิสนเล่ห์กลไหน
ข่าวก็แค่การข่าวเขาเล่าไป
อย่าเชื่อใดโดยสมองมิตรองเลย ๚ะ๛
25 กรกฎาคม 2549 16:23 น.
อัลมิตรา
..๏ ครูของหนูทำอะไรให้เคืองขัด
ไยต้องซัดกระสุนจนพรุนร่าง
ท่านศรัทธาอะไรในแนวทาง
ไยขัดขวางพวกหนูห้ามรู้เรียน
ประกาศิตจากไหนใครกำหนด
ที่ออกกฏสั่งว่าฆ่าให้เหี้ยน
พวกหนูผิดตรงไหนไยเบียดเบียน
แค่ขีดเขียนกอไก่ไยแค้นเคือง
ท่านจะโกรธเกลียดใครหนูไม่เกี่ยว
สักเศษเสี้ยวพวกหนูไม่รู้เรื่อง
พวกหนูไม่สนใจในการเมือง
เพราะเปล่าเปลืองหมกมุ่นดูวุ่นวาย
เห็นเลือดครูแดงฉานเมื่อวานนั้น
มันเกินกลั้นความตระหนกอกขวัญหาย
คุณครูครับ ! คุณครูขา ! ต้องมาตาย
ท่านใจร้ายเสียจริงที่ยิงครู ๚ะ๛
คุ ณ ค รู ค รั บ..คุ ณ ค รู ข า..ต้ อ ง ม า ต า ย
ท่ า น ใ จ ร้ า ย เ สี ย จ ริ ง ที่ ยิ ง ค รู
23 กรกฎาคม 2549 23:58 น.
อัลมิตรา
..๏ เบื้องปลายฟ้ามหาสมุทรสุดคาดฝัน
แม้นหมายมั่นมุ่งไปช่างไกลแสน
ทั้งคลื่นลมโหมกระหน่ำรุกย่ำแทน
จิตคลอนแคลนหวาดประหวั่นทั้งพรั่นพรึง
ครั้นหันหลังดั่งมีดมากรีดเนื้อ
สิ้นหยาดเหงื่อเพียงใดกลับไม่ถึง
แล้วอุดมการณ์หนุนนำให้คำนึง
คงอีกหนึ่งผู้ผจญภัย...ไร้จุดยืน ?
ผืนผ้าใบไกวกวัดติดขัดเสา
หางเสือเล่าผุกร่อนร่อนทางอื่น
กระดูกงูก็ชำรุดสุดกล้ำกลืน
แล่นเรือฝืนกระโดงเชือกโยงเยง
ทั้งเข็มทิศผิดแผกแปลกจุดหมาย
ทิศเหนือคล้ายชี้ผิดมิเหมาะเหม็ง
อีกอุกาฟ้าเหลืองนั่นยิ่งหวั่นเกรง
เรือโคลงเคลงสั่นคลอนแสนอ่อนใจ
ยอมก้มหน้าล้าระทมจมกองทุกข์
ฤๅปลอบปลุกดวงจิตคิดฝันใฝ่
เบื้องบนฟ้ามหาสมุทรสุดอำไพ
โลกกว้างใหญ่เชื้อเชิญ นักเดินเรือ
กางผ้าใบให้กระพือมือยึดมั่น
พกความฝันพร้อมพรั่งดั่งหางเสือ
มองเบื้องหน้ากล้าแกร่งแรงเหลือเฟือ
อาบหยาดเหงื่อเย็นสบายคลายร้อนรน
อุดมการณ์ทะยานพุ่งมุ่งสู่ฝัน
สิ้นเขตขัณฑ์มหาสมุทรสุดเวหน
สู้ดำเนินเผชิญฟ้าชะตาตน
สืบเสาะค้นโลกกว้างอย่างตั้งใจ ๚ะ๛
22 กรกฎาคม 2549 13:17 น.
อัลมิตรา
..๏ โลกนี้หนอกว้างใหญ่เกินใจคิด
มากถูก-ผิดชี้แจงแหล่งปัญหา
เรื่องยุ่งเหยิงมากล้นคนอัตตา
โลกที่ว่าจึงชุลมุนดูวุ่นวาย
เมื่อหลบจากโลกใหญ่ไปโลกเน็ต
ก็อึงเอ็ดอลวนกลหลากหลาย
ท่ามผู้คนรวนเรเล่ห์อุบาย
มีเรื่องร้ายซ่อนประเด็นเขม่นกัน
เพราะงานหนักเกินแบกจึงแยกบท
จึงปรากฏอีกร่างระหว่างฝัน
ร่ายอักษรวางไว้ไร้รางวัล
หวังแค่นั้นระบายตนบนกานท์กลอน
แต่ทุกอย่างเป็นไปใช่ตามนั้น
ความอัดอั้นกลับกลายมิถ่ายถอน
ณ เวทีบ้านกลอนไทยคล้ายโรงละคร
มันซับซ้อนมิเหมือนบ้านเรือนใด
สรุปว่าโลกกว้างเกินหยั่งคิด
หากยึดติดคงแย่ยากแก้ไข
ส่วนโลกเน็ตก็ลำบากหลากเภทภัย
หลีกเลี่ยงได้แค่ปิดจอก็เลิกความ ๚ะ๛