19 สิงหาคม 2549 14:03 น.
อัลมิตรา
..๏ ความรู้สึกภายในหัวใจนี้
ยากจะมีคำขยายบรรยายสื่อ
คงเพราะเราโง่เง่าดั่งเขาลือ
ปราศจากชื่อปราชญ์แต่งแหล่งนิยม
เมื่อเทียบกับหัวใจยามได้รัก
คิดทอถักสายใยให้เหมาะสม
ก็จนแต้มไร้ปัญญาพารื่นรมย์
จำเก็บบ่มมิกล้าบอกรักงอกเงย
จึงอึดอัดเหลือทนรักล้นอก
จิตวิตกเพราะว่ามิกล้าเอ่ย
ว้าวุ่นยิ่งกว่าใดหัวใจเอย
เราไม่เคยเป็นเยี่ยงนี้ที่ทุรน
สู้อุตส่าห์ถักถ้อยร้อยความคิด
หวังอักษรปกปิดจิตสับสน
แต่กลับยิ่งจมปลักกับดักกล
ยากหลุดพ้นบ่วงเสน่ห์เล่ห์รักลาม ๚ะ๛
17 สิงหาคม 2549 22:37 น.
อัลมิตรา
..๏ ไม่เคยรู้เรื่องรักเลยสักนิด
ในดวงจิตวุ่นว้าพาสับสน
กลัวหลุมพรางกับดักรักเล่ห์กล
กลัวเจอคนชีกอคิดล่อลวง
จึงทำตัวหาญห้าวราวสาวเข้ม
ใครแทะเล็มเหมือนจีบเราถีบถ่วง
จวบจนวัยผ่านพ้นปราศคนควง
ชักเริ่มห่วงตัวเองเกรงขึ้นคาน
เปลี่ยนจากขรึมมาตลอดเป็นออดอ้อน
เขียนบทกลอนสื่อให้ใครสงสาร
เผื่อจะมีชายใดได้พบพาน
แวะมาอ่านที่เราพร่ำถ้อยคำใจ
อันที่จริงยังกึ่งกล้าและกึ่งกลัว
จนมิอาจพันพัวเหมือนยั่วใส่
แต่ส่วนลึกเรานี้อยากมีใคร
มาเคียงใกล้ก่ายกอดพลอดทุกวัน
อยากมีคนเคียงข้างซะบ้างแล้ว
เผื่อมีแววเจอเนื้อคู่ดูสุขสันต์
จึงติดประกาศรับสมัครชวนรักกัน
ถ้าเช่นนั้นรีบหนอเชิญต่อคิว ๚ะ๛
11 สิงหาคม 2549 16:39 น.
อัลมิตรา
..๏ อภิลักขิตศุภสมัย
อันเนื่องในมงคลพระชนม์พรรษา
แห่งพระองค์ ฯ มาตุเรศผู้เมตตา
คู่บุญญาพระสยามินทร์ปิ่นภูมี
พระ ฯ พร้อมสรรพ์บารมีสิริสวัสดิ์
พระจริยาวัตรงามเลิศประเสริฐศรี
น้ำพระทัยเมตตาและปรานี
ทั่วธาตรีอยู่เย็นเป็นสุขพลัน
ทรงบำเพ็ญเช่นพระราชกรณียกิจ
หมายรังสฤษดิ์กิจกรรมนำรังสรรค์
มอบอาชีพสู่มหาชนคนสามัญ
มอบสุขสันต์สงบสุขทุกแดนดิน
พระเกียรติคุณบุญบารมีที่ปรากฏ
หากจารจดอักขราวรรณศิลป์
ด้วยมวลปราชญ์ราชครูคู่แผ่นดิน
จักจบสิ้นเชาว์ฉลาดคัดพระเกียรติ์
เอาน้ำในคงคามหาสมุทร
แล้วเอาสุดพสุธามาขีดเขียน
ทั้งเวหานภาสวรรค์จักรวาลเทียร
แล้วพากเพียรพรรณนาสาธยาย
จารจารึกพระเมตตา ฯ มหาศาล
ทรงอุปการงานมีที่หลากหลาย
ศิลปาชีพหัตถศิลป์ถิ่นมากมาย
ทรงขวนขวายส่งเสริมเพิ่มวิชชา
จดจำหลักพระกรุณา ฯ ประชาราษฎร์
ครั้งนำชาติพ้นพิบัติขจัดปัญหา
ทั้งมอบทรัพย์ส่วนพระองค์ทรงเยียวยา
เพื่อไพร่ฟ้าพ้นทุกข์สุขดำรง
เขียนกำหนดบทกวีที่เลิศล้ำ
อ้างคุณธรรมมุทิตา ฯ ค่าสูงส่ง
ทรงสำราญหากคนไทยใจมั่นคง
ชาติยืนยงเสถียรภาพตราบนิรันดร์
หากลูกไทยได้สุขทุกถิ่นแคว้น
แม่หลวง ฯ แม้นปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
หากลูกไทยรื่นสราญเบิกบานพลัน
แม่หลวง ฯ นั้นแย้มพระโอษฐ์ปรากฏมี
ร่ายเบื้องบทรจนาภาษาศาสตร์
ล้ำพิลาสฉันทลักษณ์หลากวิถี
ร้อยเรียงพจน์บทตำนานกานท์กวี
อ้างคุณที่อุเบกขา ฯ พระเกียรติคุณ
ทั้งเธียรศรีมุนีปราชญ์ล้ำศาสตร์ศิลป์
จึ่งจบสิ้นปัญญามาเกื้อหนุน
ด้วยสิ้นภพจบสรวงห้วงจารคุณ-
พระบารมีที่สรรพบุณย์พระบุญญา
ขอผองพรหมสมศักดิ์อัครเดช
ขออิศวเรษฐ์เศรษฐ์เสถียรเพียรรักษา
ทั้งทวยเทพมฆวานอันศักดา
ทั่วเทวาน้อยใหญ่ในจักรวาล
อีกบุญญาบารมีที่เลิศล้ำ
พระคุณธรรมแห่งไตรรัตน์พัฒน์พิศาล
อ้างพระคุณบุญญฤทธิ์พระพิชิตมาร
พระสัทธรรมล้ำโอฬารไพศาลมี
คุณพระสงฆ์คงศีลคุณวิบุลยศักดิ์
ผู้ประจักษ์ในสัจจธรรมคำพระชินสีห์
ทั้งมงลคลสากลในไตรภาคี
ประเสริฐศรีสิริสวัสดิ์พิพัฒน์พร
จงอำนวยอวยผลพระชนม์สวัสดิ์
ตราบพันฝนดลวิวัฒน์ประภัสสร
ทรงพร้อมสรรพ์พระกฤติยาสถาพร
เกียรติกำจรทั่วหล้าแลปฐพี
พระประสงค์สรรพสิ่งยิ่งสัมฤทธิ์
พร้อมพิพิธเกื้อหนุนบุญราศรี
ขอพระองค์คงบุญญาคู่พระบารมี-
จอมจักรี ณ มไหศวรรย์นิรันดร์เทอญ ๚ะ๛
เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชมน์พรรษา
ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้าอัลมิตรา สมาชิกเวปบ้านกลอนไทย
10 สิงหาคม 2549 00:07 น.
อัลมิตรา
..๏ เจ็บปวดแทบทุกทีคราวมีรัก
เพราะอกหักแทบตายตั้งหลายหน
คิดหลบหน้าหนีไกลไยชอบกล
กลับมิพ้นพันพัวช่างกลัวใจ
รัก.. รัก.. รัก.. ยากหลีกกลุ้มอีกแล้ว
มันแหวกแนวจริงหนอยามก่อใหม่
รักรุ่นพ่อคราวนี้ดีกว่าใคร
เราคลั่งไคล้เป็นปลื้มลืมไม่ลง
รักคนแก่ความจริงอาจยิ่งวุ่น
เราข้ามรุ่นข้ามขั้นดันใหลหลง
หากเขาตอบชอบวัดบอกปัด,ปลง
เรานั้นคงยอมรับมิอับอาย
รักของเราคราวนี้ปราศที่มา
แต่รู้ว่าหากนิ่งจะยิ่งสาย
รักหนุ่มสาววัยรุ่นอาจวุ่นวาย
เราสิหมายคนแก่รักแท้เชียว ๚ะ๛
9 สิงหาคม 2549 07:57 น.
อัลมิตรา
๏ ราตรีโรยร่วงร้า................คราอรุณ
ลืมถิ่นดมดินละมุน...............อุ่นเอื้อ
ลมพัดคลาดลอยหมุน...........ผละกิ่ง ใบแล
เคยอยู่สูงสุดเยื้อ..................กลับต้องเกลือกดิน ๚
๏ ปิดฉากหากหมดสิ้น..........ความหอม
เคยชื่นชมสมยอม...............กลิ่นเจ้า
ยามคืนดื่นดอกถนอม...........ขาวระเรื่อ
จืดกลิ่นยามรุ่งเช้า................ปล่อยให้ถวิลหา ๚
๏ ใบบางยังสั่นสะท้าน...........ริกระรัว
มวลกิ่งยังครั่นตัว..................ตราบแห้ง
เคยข้องเกี่ยวพันพัว..............นานเนิ่น
ไยสร่างพิศวาสแสร้ง.............หมดสิ้นโดยพลัน ๚
๏ ราโรยโดยปล่อยต้น............ยืนตาย
ร่วงหล่นบนดินกลาย..............แปดเปื้อน
เคยหอมกรุ่นยังมลาย............จางกลิ่น
คงแต่ซากอันเขยื้อน..............โยกย้ายตามลม ๚ะ๛