15 พฤษภาคม 2550 08:01 น.
อัลมิตรา
๏ เพียงลมปราณซ่านกระเซ็นเช่นฮวงโหว
กัดหมั่นโถวยังสะท้านดินหวั่นไหว
จิบไผ่เขียวซดดังก้องทั้งผองไพร
โอนเอนกายดุจพยัคฆ์ขบคำราม
เสียงเสสรวลชวนสยองต้องหวาดผวา
ท่วงทีท่าฉกาจเก่งน่าเกรงขาม
สำเนียงแน่นเปล่งคำย้ำเนื้อความ
ดั่งถูกถามจากผู้อยู่โลกันต์
สั่งไก่ดำน้ำตุ๋นฉุนเครื่องเทศ
ทั้งต้มเปรตยำกบอบหมูหัน
อุ้งตีนหมาตาหมีที่ตกมัน
ทั้งเป็ดสวรรค์เก้งย่างกวางอบยา
ซดไผ่เขียวเหลียวมาหาชีวาส
ปลื้มรสชาติวิสกี้ที่สรรหา
สั่งชาโตว์แบล๊กบลูดูตื่นตา
ทั้งเหล้ายาเสือสมิงกระทิงดง
พอเข้าขั้นพลันร่ายบรรยายกระบี่
แม้นท่วงทีเกินขาดมิอาจประสงค์
กี่สิบร้อยพันเพลงเร่งรณรงค์
มิลืมหลงบทบาทขาดความจำ
ทั้งหงส์คลั่งมังกรร่อนเวหา
อีกพยัคฆาตะปบลิงสิงห์ไหหลำ
อึ่งลำพองก้องกร้าวเสือดาวดำ
กบกำยำเก้งกร่างช้างตกมัน
ทั้งเกลือกกลิ้งทิ้งกายคล้ายคลุกฝุ่น
พุ่งตัวหมุนควงสว่านคลานพลิกผัน
ท่วงผาดแผลงแปลงท่าน่าอัศจรรย์
ตื่นจากฝันนี่เราเมาหรือไร ? ๚ะ๛
12 พฤษภาคม 2550 11:15 น.
อัลมิตรา
๏ รักที่เคยพานพบล้วนจบแล้ว
ปราศวี่แววสานต่อเพื่อทอฝัน
ฉันขอเลือกทางเดินด้วยเมินกัน
ข้อสำคัญ -ไม่เหลือแม้เยื่อใย-
จะเริ่มต้นบากบั่นฝันคนเดียว
แม้นโดดเดี่ยวจนต้องแอบร้องไห้
ยังดีกว่าหมองหม่นทนทุกข์ใจ
เรื่องรักใครอีกนั้น -พอกันที-
ถึงหัวใจอ่อนล้าไม่กล้าแกร่ง
ดูเหี่ยวแห้งไร้ค่าเสื่อมราศี
หวังสักพักจะพลิกฟื้นสดชื่นมี
เตรียมรอรับสิ่งดีดี -หากมีมา-
แต่คงต้องเผื่อใจไม่คาดหวัง
กลัวพลาดพลั้งอกหักสุดรักษา
แม้นว่าสิ้นคนเหลียวและเยียวยา
ขออยู่อย่างเคยมา-ดีกว่าตรม- ๚ะ๛
10 พฤษภาคม 2550 17:08 น.
อัลมิตรา
๏ คิดขีดเขียนสิ่งใดให้วิตก
กลัวเขายกข้อความมาหยามหยัน
อ่านหนังสือไม่กระจ่างสวนทางกัน
มากข้อหาสารพันมาบั่นทอน
นี่หนอเรื่องชอบกลคนในเน็ต
มักเบ็ดเสร็จความคิดจริตหลอน
ไม่ยอมอ่านทั้งหมดของบทกลอน
อ่านบางตอนน้อยนิดแล้วบิดเบือน
เพียงต้องการสื่อนัยไยยากเห็น
เจอประเด็นแตกขยายจนไม่เหมือน
หลากความคิดกำกวมคนร่วมเรือน
ให้เปรอะเปื้อนยามอ่านละลานตา
ฤๅจะต้องท้วงติงอย่างตรงตรง
ระบุลงนามแฝงแจ้งข้อหา
ซึ่งอาจโดนติฉินคนนินทา
ชนทั่วหล้าเข้าใจไม่ตรงความ
แสนทำใจลำบากยากขีดเขียน
จะปรับเปลี่ยนอย่างไรอยากไถ่ถาม
ฤๅนั่งนิ่งปล่อยไปไม่ติดตาม
บ้านเสื่อมทรามทำเป็นหลับ..ไม่รับรู้ !!!...
4 พฤษภาคม 2550 23:11 น.
อัลมิตรา
๏ บรรยากาศเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน
เวปบ้านกลอนลานฝันเคยหรรษา
กลับจืดชืดไร้ความหมายให้ชายตา
คนใหม่มาคนเก่าไปไม่เหมือนเดิม
เห็นบางคนอ่อนใจคล้ายวิตก
เฝ้าเพ้อพกทอดอาลัยไร้แรงเสริม
วอนสมาชิกร่วมด้วยช่วยต่อเติม
ใช่หมั่นเพิ่มปริมาณล้นลานกลอน
หากทุกคนคิดแผลงไม่แบ่งปัน
ทำเยี่ยงนั้นเหมือนผู้ปราศครูสอน
จิตสำนึกฝักใฝ่ในนิวรณ์
โลกคงร้อนลำเค็ญสิ่งเป็นไป
หากทุกคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
สิ่งสร้างสรรค์จะปรากฏความสดใส
ดั่งสายฝนกลบร้อนดับฟอนไฟ
โลกทั้งใบก็น่าอยู่ดูรื่นรมย์
สำหรับบ้านของใครใครก็รัก
จงพิทักษ์พิเคราะห์ความเหมาะสม
อย่าลงกลอนร่อนกระจายคล้ายอาจม
บ้านโสมมหวังใครใคร่เหลียวแล
อย่าลงกลอนเพียงหวังสร้างเรตติ้ง
เพราะทุกสิ่งผันได้ในกระแส
ค่าของกลอนที่ประทับใจในดวงแด
เขาวัดตรงเนื้อแท้คือแน่นอน ๚ะ๛
29 เมษายน 2550 00:28 น.
อัลมิตรา
๏ นั่งอ่านกลอนเงียบเงียบอย่างเรียบง่าย
เปล่าปลีกกายเหินห่างเส้นทางฝัน
เพราะการงานที่ชุลมุนวุ่นทั้งวัน
ยุ่งยากเกินจัดสรรแบ่งปันใคร
เรื่องสารพันงานสุมที่ทุ่มเท
จนยากเลี่ยงโต๋เต๋เตร็ดเตร่ไหน
เช้าจรดเย็นต้องประชุมสุดกลุ้มใจ
บ่อยครั้งนั่งเบื้อใบ้ .. ไร้อารมณ์
อยากโลดแล่นหลุดกรอบการงานบ้าง
นอกเส้นทางที่จำเพาะความเหมาะสม
เราเขียนกลอนด้วยใจใฝ่ชื่นชม
เพื่อคลายตรมผ่อนเหงา .. คิดเท่านี้
แต่มิเคยมุ่งหวังเด่นทางกลอน
แม้ผู้สอนสนับสนุนลุ้นเต็มที่
เรามิเคยอ้างตนชนชาว"-กวี-"
ด้วยรู้ดียังห่างไกลในชั้นเชิง ๚ะ๛