8 สิงหาคม 2550 14:20 น.
อัลมิตรา
๏ ชวนล่องแพท่องไพรใครไปบ้าง
เราถามอย่างตรงตรงอย่าสงสัย
อาจเดินทางทั้งหมดโดยรถไฟ
หรือแยกไปพบกันถ้ำกระแซ
วางแผนไปเมืองกาญจนบุรี
สัปดาห์นี้สุขสันต์เนื่องวันแม่
กำหนดวันอาทิตย์ไม่คิดแปร
ใจแน่วแน่ขอย้ำกระทำการ
หากเดินทางทั้งหมดโดยรถไฟ
เชิญแวะไหว้พระปฐมฯ คราชมผ่าน
ร่วมอาลัยรำลึกตรึกเหตุการณ์
นับขอนไม้บนสะพานมิย่านเดิน
จวบใกล้เที่ยงที่หมายปลายทางรถ
เพื่อนทั้งหมดข้ามฝั่งยังดินเถิน
บ้านริมแควแพริมน้ำลำนำเพลิน
มิขาดเกินบ่ายสามนำล่องแพ
ลงแพเปียกตื่นตาตื่นใจนัก
เรือจอดพักให้เล่นน้ำตามกระแส
ใครตกปลา/ใครว่ายน้ำ/ธรรมชาติแล
เชิญตามแต่จะถนัดมิขัดใจ
หลังอาหารมื้อค่ำย่ำสนธยา
ยังเฮฮากลมเกลียวกลุ่มเที่ยวได้
และมากมีกิจกรรมร้องรำไป
ร่วมแคมป์ไฟพร้อมพรักสามัคคี
ราวสี่ทุ่มกลุ่มใดใคร่ทานเพิ่ม
ก็เชิญเติมอาหารให้กายสุขี
ก่อนฟาดฟันรำพัดหากจัดมี
ก็ยินดีท้าเจ้าเข้าประลอง
วันรุ่งขึ้นตื่นเช้ามุ่งเข้าป่า
อย่าชักช้าขอเตือนนะเพื่อนผอง
เขาว่าถ้ำก่อนเคยเชลยจอง
เพื่อย้อนมองพิษสงจากสงคราม
หรือใครอยากท่องไพรก็ไม่ขัด
เขาก็จัดขี่ช้างข้ามเขตขาม
จะพาลงลำห้วยด้วยพลายงาม
จวบถึงยามได้เวลาพากลับแพ
จบมื้อเที่ยงเลี้ยงลาร่ำลาเพื่อน
อีกกี่เดือนได้เที่ยวต่อก็ตามแต่
ขอจดจำจารึกไว้ในดวงแด
ใช่เพียงแค่นิยามพ้นข้ามวัน
ถ้าหากใครไปร่วมรถส่วนตัว
อย่าซื้อตั๋วรถไฟวุ่นวายนั่น
อาทิตย์เช้าแวะค่ายถ่ายหนังพลัน
เจอพร้อมกันค่ายสุรสีห์ดีไหมเกลอ
ร่วมย้อนรอยหนังใหญ่ใจเบิกบาน
ฉากอลังการพม่า/ไทยใคร่เสนอ
กำแพงเมืองหงสาฯ คราเจอะเจอ
ต่างร้องเอ้อ.. !! อู้หู !! .. ดูสมจริง
ท้องพระโรง/เจดีย์ชเวดากอง
ตะลึงจ้องจังงังช่างใหญ่ยิ่ง
อีกบัลลังก์/วัดวา คราเทียบอิง
ดั่งโดนสิงย้อนยุคอยุธยา
เราเสนอจากใจชวนไปเที่ยว
ไม่ยุ่งเกี่ยว..ไม่ว่า..อย่าครหา
ถ้าใครอยากไปด้วยช่วยกรุณา
แจ้งชื่อมาพร้อมสรรพเพื่อจับจอง
ฉุกละหุกไปนิดอย่าคิดมาก
แต่ถ้าหากสนใจก็ใคร่สนอง
จะรอรับเหล่าสหายด้วยใจปอง
เชิญพี่น้องถ้าว่างร่วมทางไพร
จะรถยนต์/รถไฟเราไม่เกี่ยง
หวังเราเลี้ยงตอบตรงคงมิไหว
ต่างเดินทางต่างจ่ายสบายใจ
ท่องเที่ยวได้ตามกระเป๋าเข้าถิ่นกาญจน์
หยุดสามวันว่างเว้นอยากเร้นหลบ
ขอนัดพบท่องไพรแม้นใครผ่าน
ร่วมย้อนรอยวีรกรรมสร้างตำนาน
พร้อมขับขานบทกวีที่แคมป์ไฟ๚ะ๛
. . เ ดิ น ท า ง ไ ก ล - ท่ อ ง เ ที่ ย ว ไ ป - ห า ค ว า ม ห ม า ย - จ า ก เ ส้ น ท า ง . .
7 สิงหาคม 2550 12:51 น.
อัลมิตรา
๏ แสร้งชอกช้ำระกำใจบางใครคิด
ดัดจริตทำกระแดะค่อนแคะขรม
มากมารยาประมาณว่าอุราตรม
เขาหยามถ่มเพราะเขามิเข้าใจ
เราจำใจเขียนกลอนตอนอกหัก
แม้เจ็บหนักเตือนตนต้องทนไหว
ร่ายปรัชญา/ธรรมชาติ/วาดพฤกษ์ไพร
เพื่อมิให้คนติฉินหมิ่นประณาม
ทุกเรื่องราวประหนึ่งว่าชีวาชื่น
แท้ขมขื่นจิตทุรนทุกข์ล้นหลาม
เราเขียนกลอนสารพัดถนัดความ
แต่ถูกปรามเขียนมิได้จากใจตน
ช่างเสแสร้งแสดงบทสมบทบาท
เขาปรามาสอักษรใช้คอนผล
ซ้ำทุกพจน์ทั้งเพเพียงเล่ห์กล
ปราศสักคนที่คำนึงซึ่งใจเรา
จอมปราชญ์เคยเปรยว่าภาษาศิลป์
ถึงอยู่ถิ่นแคว้นใดหรือใจเหงา
แม้นมากทุกข์ก็จักคลายคล้ายบรรเทา
ความโศกเศร้าจะสลายกลายรื่นรมย์
เรากลับแปลกแตกต่างไร้ทางออก
ยามช้ำชอกจมทุกข์แสร้งสุขสม
แสนลำบากคราวเค้นลำเค็ญตรม
จึงซ่อนระทมแฝงไว้ ณ นัยกวี ๚ะ๛
5 สิงหาคม 2550 20:43 น.
อัลมิตรา
๏ เขาไร้แล้วแววตาสื่อว่ารัก
ฉันตระหนักความจริงในสิ่งเห็น
เมื่อรู้สึกและเข้าใจนัยประเด็น
"รักเล่นเล่น"ชั่วคราวเรื่องราวเรา
ไม่รู้จักรักแท้แต่วาดฝัน
ทุกทุกวันเสาะหาปัญญาเขลา
หวังบางใครโอบเอื้อเพื่อบรรเทา
จวบกระทั่งเมื่อเขาก้าวเข้ามา
จึงวางใจยิ่งนักว่ารักแท้
ท่ามกระแสรื่นรมย์สมปรารถนา
มิล่วงรู้บางอย่างเขาพรางตา
มีเจตนากอบผลมากกลลวง
ฉันศรัทธาเชื่อใจถือในสัตย์
เขาตระบัตรักสลายไม่ลุล่วง
ฉันแจ่มแจ้งเลศนัยในทั้งปวง
เขากลิ้งกลวงรวนเรซ่อนเล่ห์ภัย
ไม่มีแล้วแววตาสื่อว่ารัก
ฉันจำหักจิตปลงปราศสงสัย
บุญที่เคยร่วมสร้าง ณ ทางใด
ยอมยกให้ทั้งสิ้นด้วยยินดี
"รักเล่นเล่น"ชั่วคราวเรื่องราวเรา
เพราะฉันเขลาจึงตรมสมแล้วนี่
โปรดยุติเถิดหนอพอกันที
นับแต่นี้หัวใจไร้สัมพันธ์ ๚ะ๛
31 กรกฎาคม 2550 22:21 น.
อัลมิตรา
๏ คนที่เคยคบหามาแต่ก่อน
ยังห่วงหาอาวรณ์อาทรไหม
อาจสูญสิ้นมิเหลือแม้เยื่อใย
ต่างคนต่างคืนใจเมินไม่มอง
ถ้อยคำรักสลักใจกระไรนั่น
คงสำคัญหรือกลายร้ายสนอง
เมื่อหมดรักก็ชังดั่งทำนอง
พฤติกรรมฟ้องพลิกด้านวันวานเป็น
อยากสื่อนัยใจเอยเคยรู้สึก
จิตร้าวลึกทุกข์ลามตามที่เห็น
ล้วนเพราะรักบอบช้ำย้ำประเด็น
คนเคยรักตามเข่นไยเช่นนี้ !!
หากมิเคยคบหากันมาก่อน
แค่นึกย้อนบางครั้งยังสุขี
หากยั้งจิตปฏิเสธเลศไมตรี
เราฤๅมีแต่เศร้าเข้าครอบครอง ๚ะ๛
25 กรกฎาคม 2550 07:55 น.
อัลมิตรา
แด่ .. ผู้ก้มหน้าอยู่เสมอรำพึง
๏ สุดสมเพชเวทนาเจ้าลาโง่
ผอมพุงโรไส้แห้งเรี่ยวแรงหาย
เกวียนเทียมแอกบรรทุกหลังซังกะตาย
เดินตัวส่ายขาปัดตุหรัดตุเป๋
ทุกทุกวันเหน็ดเหนื่อยสุดเมื่อยล้า
สารรูปลาแลไปให้หมิ่นเหม่
ซ้ำบางคราวแสดงบทพยศเกเร
คงอยากเท่ห์ผิว์ค่าอาชาไนย
แค่คลับคล้ายหัวหางแถข้างเทียบ
ลาเลยเปรียบสินธพกลบสงสัย
ติแตกต่างอ้วนทู่ดูสั้นไป
จึงทำให้ดูแปลกผิดแผกพันธุ์
เพี๊ยง !! ขอให้เอวองค์ทรงสง่า
คำอธิษฐานของลาช่างน่าขัน
อยากเป็นม้ารู้ไหมช่างไกลกัน
หากมัวคิดเยี่ยงนั้นปัญญาเบา
จึงตักเตือน..เจ้าลาค่าของตน
สิพร่ำบ่นยกเทียบเปรียบม้าเล่า
ต่างก็ร่วมวงศ์วานสันดานเนา
ม้า/ลา/เรา...ควรพอใจในตนเอง ๚ะ๛