23 ตุลาคม 2550 20:26 น.
อัลมิตรา
๏ เสียงซุบซิบติดตาม"รักสามเส้า"
เหมือนนิยายน้ำเน่าเขากล่าวถม
รักขมวดวุ่นวายกลายเป็นปม
ดาวเด่นของสังคมแทบล้มตึง
เหตุเพราะศึกแย่งชายทำขายหน้า
หนุ่มที่ว่า ฤๅ ควรให้ชวนหึง
ต่างรู้ทั่วตัวเขาหวังเคล้าคลึง
ไม่เลือกหนึ่งเกี่ยวข้องลองพลัง
คงมากสาวจับจองจึงจ้องแจก
แต่ก็แปลกสาวรุมล้อมหน้าหลัง
จนเกิดเรื่องอื้อฉาวเป็นข่าวดัง
เมื่อพลาดพลั้งเลินเล่ออ้างเผลอตัว
เฉกละครสอนใจชวนให้คิด
ถูกหรือผิดสังคมประโคมทั่ว
หนึ่งคนรักอีกหนึ่งซึ่งพันพัว
ถ้าเกลือกกลั้วต่อไปคงไม่ดี
จงตระหนักสักนิดก่อนคิดรัก
แม้นจมปลักจะท่วมทุกข์ไร้สุขี
หากคัดสรรพันธุ์เสาะไม่เหมาะมี
จงเสรีความโสดอย่าโอดครวญ ๚ะ๛
18 ตุลาคม 2550 16:56 น.
อัลมิตรา
๏ ด้วยเรือนร่างด่างพร้อยมากรอยแผล
หวังบางใครเหลือบแลและสงสาร
มอบไมตรีแบ่งบุญเอื้อสุนทาน
ความร้าวรานที่มีคงคลี่คลาย
แต่ทว่า.. ที่ปรากฏคือหดหู่
ฤๅ เราผู้ต่ำทรามไร้ความหมาย
เพียงน้อยนิดความหวังยังเปล่าดาย
คนเคียงกายกระทั่งฝันยังลางเลือน
ต้องพานพบบทสรุปที่เศร้าโศก
เราอับโชคยิ่งนักใครจักเหมือน
หวังสักคนเมตตาพาร่วมเรือน
คล้ายฟั่นเฟือนเพ้อพร่ำลำพังตน
เพราะไม่มีบางใครใฝ่ปรารถนา
ซ้ำรู้ว่าหวังอย่างไรก็ไร้ผล
อีกทั้งทุกข์มากมายให้ผจญ
จะอดทนได้แค่ไหน..ไม่รู้เลย ๚ะ๛
12 ตุลาคม 2550 12:50 น.
อัลมิตรา
.
๏ เชิญคับแค้นข้องใจตามใจท่าน
เชิญระรานตามถนัดไม่ขัดขวาง
เชิญพยาบาทมุ่งร้ายจนวายวาง
เราเปิดทางด้วยยิ้มอาบอิ่มใจ
สำหรับเรา...เราพร้อมจะอโหสิ
ปราศอุตริหาเรื่องเปลืองตัวใส่
เหตุการณ์ที่สับสนผ่านพ้นไป
วันหน้ายังยาวไกลเริ่มใหม่พลัน
เชิญท่านแบกบทบาทอาฆาตเคียด
เชิญตั้งข้อรังเกียจและเดียดฉันท์
เชิญเหน็บแนมประณามหยามเหยียดกัน
เราจะหมั่นยิ้มให้ไม่แค้นเคือง
เรายืนยัน...พร้อมจะอโหสิ
ถึงแม้ว่าอนุสติมิปราดเปรื่อง
เพราะสำนึกดีว่าแสนเปล่าเปลือง
เรื่องบางเรื่องแค่วาง...ก็ว่างแล้ว
มาตราแม้นท่านมิขจัดทุกข์อัดอก
มิยอมยกสิ่งระคางปล่อยวางแผ่ว
อโหสิที่หวังไว้เหมือนไร้แวว
เชิญท่านแกร่วกลัดกลุ้มจนคุ้มเทอญ ๚ะ๛
11 ตุลาคม 2550 00:19 น.
อัลมิตรา
..๏ หงส์เอยเจ้าอ่อนล้า.......ฤๅไฉน
จึงร่อนลงพงไพร..............ภาคพื้น
คงเผลอจิตหลงใหล...........แดนป่า
เยือนถิ่นดินชุ่มชื้น.............ดั่งให้ยลโฉม ๚
..๏ อึดอัดอันเนื่องด้วย.......อนิฏฐา- รมณ์*ฤๅ
จึงจากภพเคหา.................เพริศแพร้ว
ฤๅจิตคิดปรารถนา............แดนสงบ
เห็นป่าดั่งเมืองแก้ว............หลบร้อนนอนดิน ๚
..๏ หงส์เอยหากอ่อนล้า.....โรยแรง
ขออย่าได้หวาดระแวง........เล่ห์ร้าย
จงซุกปีกออมแรง..............พักผ่อน
วันพรุ่งจึงแยกย้าย.............สู่ฟ้าดังเดิม ๚
..๏ ปราศแสงแห่งคบใต้.....ประทีปงาม
มีแต่เดือนดาววาม............กระจ่างฟ้า
ไร้เสียงดุริยางค์นิยาม.......เพลงเสนาะ
มีหริ่งเรไรร้า*...................กล่อมให้คลายเหงา ๚
..๏ เผือกมันผลไม้ป่า........มากมี
หวังเพื่อความดุษฎี............แห่งเจ้า
หงส์ฟ้าเพริศโสภี..............คงสุข- เกษมนา
ปรารถนาดีจึงเฝ้า.............ชุบเลี้ยงดูแล ๚
..๏ ยามเมื่อสุริเยศเยื้อง.....เยือนมหรรณพ์
กวีที่เคยปลอบขวัญ...........กล่อมใกล้
มวลพฤกษ์มากสรพัน........เลือนจาก หทัยแฮ
ผลหมากหลากลูกไม้.........หมดสิ้นโอชา ๚
..๏ สำเนียงเสียงแห่งเจ้า.....หงส์งาม
เคยพร่ำเพรียกไถ่ถาม.........หยอกเย้า
กาลผันผ่านย่ำยาม..............ยังแว่ว- หวานนอ
ฤๅแค่ความโศกเศร้า...........หลอกให้ละเมอหา ๚
..๏ หงส์เอยเคยอยู่ฟ้า.........เมืองแมน
เลยหน่ายพฤกษ์พรมแดน...เยี่ยงนี้
ฤๅดูหมิ่นถิ่นแคลน.............สกุลต่ำ
มากเรี่ยวแรงจึ่งลี้...............หลีกเร้นโดยพลัน ๚
..๏ ยามจากหากฝากถ้อย.....คำลา- หนึ่งเอย
คงมิคร่ำครวญพา................อกไข้
เพียงคำกล่าวสนทนา..........ยากยิ่ง แลฤา
บินผ่านยังเมินได้................บ่ายหน้าเบือนหนี ๚
..๏ ผิดแผกแตกต่างชั้น-.....สกุลพงศ์
กามิควรคู่หงส์...................แน่แท้
เพียงจิตคิดลุ่มหลง............จักหม่น- หมองเฮย
กาคู่กาควรแล้...................อย่าได้หมายหงส์ ๚ะ๛
.
8 ตุลาคม 2550 07:48 น.
อัลมิตรา
. ๏ ความกล้าหาญนั้นมี ณ ที่ไหน ?
หากดวงใจเธอตรองจึงมองเห็น
กุศโลบายหลายหลากมากประเด็น
ซึ่งจักเป็นเกราะแกร่งแข็งทนทาน
เพียงอย่าหวั่นพรั่นพรึงซึ่งอุปสรรค
จงตระหนักความจริงสิ่งพ้นผ่าน
รู้เท่าทันชั่วดีด้วยปฏิภาณ-
อย่างห้าวหาญคือคำตอบมอบแด่เธอ
เพียงเธอพร้อมยอมรับซึ่งสรรพสิ่ง
ทั้งลวงจริงสารพันเช่นนั้นเสมอ
อุดมการณ์อันประเสริฐแสนเลิศเลอ
ล้วนอยู่ในใจเธอเสมอมา
แม้นโศกเศร้าร้าวระทมทั้งขมขื่น
ในวันคืนสิ้นหวังบ้างหวาดผวา
จักคลี่คลายหายไปในทันตา
เพียงแกร่งกล้าพร้อมเผชิญมุ่งเดินไป
แล้วเมื่อเธอได้ประสบพบความแกร่ง
ที่เปลี่ยนแปลงปริกัลป์*อันยิ่งใหญ่
ทิ้งความขลาดหวาดหวั่นพรั่นพรึงใด
เพื่อเข้าใจบัญญัติความสัจจ์จริง
จึ่งรู้ดีว่าชีวิตทั้งอิฐผล*
บันดาลดลให้ประสบพบสุขยิ่ง
ล้วนพร้อมพรั่งทั้งนิยามความเป็นจริง
ว่าคือสิ่งสร้างสรรค์อย่างมั่นคง
เมื่อใดใจเริ่มล้าคราพ่ายแพ้
ฤๅอ่อนแอทุกข์ระทมไม่สมประสงค์
ให้เธอตรองมองเหตุเจตจำนงค์
เพื่อดำรงชีวิตกิจการงาน
จงเข้มแข็งแกร่งกล้าหาสิ่งหมาย
มุ่งขวนขวายกอปรกิจคิดสืบสาน
มีสิ่งหนึ่งซึ่งประสิทธิ์จิตรการ*
คือความหาญกล้าแกร่งแห่งใจเธอ
แม้เส้นทางระหว่างก้าวแสนยาวยิ่ง
ยามถูกทิ้งเปล่าเปลี่ยวเดียวดายเสมอ
แท้โลกกว้างทางฝันอันล้ำเลอ
มีเพียงเธอไร้คนจับประคับประคอง
เธอสามารถปรารถนาหาความรัก
เพื่อประจักษ์ความจริงสิ่งทั้งผอง
เพียงใคร่ครวญเพ่งพินิจคิดไตร่ตรอง
รู้ครรลองแห่งใจในเธอนั้น
แล้วความทุกข์ร้าวระทมทั้งขมขื่น
แม้วันคืนเปลี่ยวเหงาเศร้าโศกศัลย์
จักเสื่อมคลายมลายไปในปัจจุบัน
เช่นหลับฝันครั้นตื่นแล้วรื่นรมย์
คุณองค์พระชินสีห์ที่ล้ำเลิศ
สิ่งประเสริฐแห่งพระธรรมกรรมเหมาะสม
คุณพระสงฆ์ทรงคุณ(ะ)วโรดม*
ทั้งอินทร์พรหมเทวาในสากล
จักคุ้มครองป้องปักษ์และรักษา-
ยามเธอล้าอ่อนแรงทุกแห่งหน
ถึงยากแค้นแสนเข็ญเป็นกังวล
เทพเบื้องบนจักช่วยอำนวยชัย
จงแกร่งกล้าสามารถองอาจพร้อม
อย่ายินยอมพ่ายแพ้แม้ยามไหน
วันพรุ่งนี้มีฝันอันอำไพ
ยังรอให้มุ่งหน้าหาหนทาง ๚ะ๛