14 มกราคม 2551 12:04 น.
อัลมิตรา
๏ ป่วยการคิดค้นหาสัญญาเก่า
เรื่องของเราจบแล้วไร้แววหวน
เสียเวลาเพรียกหามาคร่ำครวญ
หรือก่อกวนเสมือนซึ้งหวงหึงกัน
ฉันปราศจากสิ่งใดให้รู้สึก
รอยร้าวลึกคราวก่อนตอนโศกศัลย์
เขาอาสาปลดเปลื้องเรื่องจาบัลย์
รักเขานั้นเลอค่ากว่าของเธอ
รื้อฟื้นรักหนเก่าเปล่าประโยชน์
คำขอโทษฟังบ่อยดั่งคอยเสนอ
อย่าต้องให้เอ่ยปาก.. "ไม่อยากเจอ"
อย่าพร่ำเพ้อลุ่มหลงรักคงมี
สัญญาเก่าเขวี้ยงทิ้งอย่าอิงอ้าง
เมื่อแยกทางจงตระหนักถึงศักดิ์ศรี
อยากย้อนคืนทำไมมันไม่ดี
หัวใจที่แปดเปื้อน ฤๅ เหมือนเดิม
สายน้ำย่อมไหลไปไม่หวนกลับ
เวลาลับคล้อยหายเสียดายเริ่ม
คำสัญญาปากเปล่าเล่าแต่งเติม
เพราะเคยเคลิ้มคำปดจึงจดจำ ๚ะ๛
8 มกราคม 2551 13:54 น.
อัลมิตรา
...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...เสียงแผ่วของหัวใจถามไปนั่น
...เฉกน้ำ-ฟ้าเมื่อเห็นคงเช่นกัน
...คล้ายบางสิ่งขวางกั้นทางสัญจร
...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...ระหว่างไพรสิงคลิ้ง*ท่ามสิงขร
...คราฟากฟ้ารับขวัญตะวันรอน
...ทอแสงอ่อนลาลับอ้อมเหลี่ยมผา
...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...ขอถามไถ่อีกครั้งเพราะกังขา
...ยามราตรีเด่นเดือนดาษดารา
...สลับเลื่อมม่านฟ้าหลากอารมณ์
...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...แม้นบางใครวิสัชนาอุราสม
...คงปลาบปลื้มดื่มด่ำคำภิรมย์
...ด้วยชื่นชมในอรรถรสของบทกวี
.
3 มกราคม 2551 16:19 น.
อัลมิตรา
๏ เป็นคนไทยไร้พุงไม่ยุ่งยาก
ยังคงกินได้มากและหลากหลาย
จะเดี่ยวหรือรวมพวกสะดวกสบาย
แถมร่างกายเฟิร์มฟิตจิตสมบูรณ์
หนุ่มหล่อเหลาสาวสวยรวยเสน่ห์
ทรวดทรงเท่ห์โรคภัยหายสาบสูญ
กำลังเชี่ยวเรี่ยวแรงแกร่งเพิ่มพูน
สุขทวีคูณนะเพื่อนพ้องหากลองทำ
รักษาหุ่นง่ายง่ายโดยไม่เครียด
อย่าขี้เกียจให้อดทนเลิกบ่นพร่ำ
เล่นกีฬาโยคะเป็นประจำ
ขอกล่าวย้ำอย่าเพียงจ้องเถิดลองดู
แป้งควรลดงดมันหมั่นออกเดิน
อย่ามัวเพลินเขมือบหม่ำอิ่มหนำหรู
เสื้อผ้าปริขยายขยับจนคับรู
อ้วนเหมือนหมูปล่อยไว้คงไม่ดี
ทุกข์จะรุมล้อมกายโรคร้ายแยะ
หมอต่างแนะอ้วนไปไม่สุขี
โปรดรักษาสุขภาพช่วยทราบที
พวกเรานี้จะปลอดภัยเพราะไร้พุง ๚ะ๛
31 ธันวาคม 2550 14:25 น.
อัลมิตรา
.
๏ วันพรุ่งนี้ไม่มีแล้ว.."ที่รัก"
ฉันประจักษ์หัวใจโดยไม่ฝืน
เหลือเวลาซาบซึ้งแค่หนึ่งคืน
ยามเธอตื่นลืมตาฉันลาไกล
ที่ผ่านมาครานั้นเหมือนฝันแท้
กว่ารู้แน่ก็ชอกช้ำเกินคำไข
ฉันรักเธอเสมอมั่นสัมพันธ์ใจ
ส่วนเธอนั้นรักใครไกลใกล้มี
"ความรักนั้นปันให้อย่าไปหวง
จงตักตวงเพราะรักคือศักดิ์ศรี
หญิงรุมล้อมรอบกายคล้ายดูดี"
เหตุผลนี้เธอสะกิดให้คิดพลัน
"รักจากใจจริงแท้มีแค่หนึ่ง"
เมื่อไม่ซึ้งแถมเลี่ยงใช่เพียงฉัน
คงสูญสิ้นความรักในสักวัน
"รักแบ่งปัน" พร่ำเพรื่อจะเหลือใด
คืนสุดท้ายคืนนี้แล้ว.."ที่รัก"
พรุ่งนี้จักปรากฏความสดใส
ฝากจุมพิตปริศนาก่อนลาไกล
ส่วนร่องรอยความอาลัยคงไม่มี ๚ะ๛
.
25 ธันวาคม 2550 00:40 น.
อัลมิตรา
๑.
๏ ให้ห้วงกาลวารวันอันล่วงพ้น-
ช่วงชีวิตจิตตนจนเลยล่วง
ฝืนเฝ้าตามความหลังดั่งเล่ห์ลวง
แล้วเลยห้วงแห่งฝันนั้นเนิ่นนาน
๒.
เพียงพักนอนผ่อนคลายให้หายล้า
ให้เวลารื่นรมย์ผสมผสาน
แม้นมากสุขทุกข์ใดในวันวาน
พร้อมเหตุผลพ้นประมาณด้านจิตใจ
๓.
ความรู้สึกตรึกตรองผองถูกผิด
ชั่วชีวิตเคยหวังทั้งน้อยใหญ่
คงมีพลั้งครั้งพลาดขาดสิ่งใด
ที่ผ่านไปยังมีที่อยากทำ
๔.
แท้ที่สุดจุดจบพบสรรพสิ่ง
ทั้งเท็จจริงที่มีถลีถลำ
ล้วนหนักหนาสาหัสเป็นสัจธรรม
เนิ่นนานนำเหนื่อยหน่ายมิคลายคลา
๕.
จึงอยากนอนผ่อนบ้างปล่อยวางสิ้น
ไม่ยลยินสารพันผองปัญหา
หวนคำนึงถึงสุขทุกเพลา
ด้วยปรารถนาพบชีวิตจิตเสรี
๖
หากมีเหตุเศษเสี้ยวแสนเปลี่ยวเหงา
ทั้งใหม่เก่าสารพันอันแทนที่
ดั่งแผ่ผ่านซ่านกระจายทั่วกายมี
ตามราวีรุกเร้าเข้าบั่นทอน
๗.
โปรดให้ฉันนั้นพบความสงบบ้าง
ยิ่งอ้างว้างหวั่นไหวในกาลก่อน
ยามคืนนี้มีดาวพราวอัมพร*
นิศากร*แจ่มกระจ่างช่างงดงาม
๘.
ให้ชื่นชมภิรมย์ยิ่งทุกสิ่งสรรพ์
หาความฝันอันพิไลที่ไถ่ถาม-
มาเนิ่นนานประหนึ่งเป็นเช่นนิยาม
นั้นคือความสุขสงบอยากพบเจอ
๙.
สู่อ้อมกอดเทวามหาศาล
ซึ่งอบอุ่นละมุนมานสำราญเสมอ
จักนำฉันสู่นภาฟ้าเลิศเลอ
ที่พร่ำเพ้อคะนึงหามาเนิ่นนาน
๑๐.
แล้วจากดินถิ่นแคว้นแดนอาศัย
ก่อนลาไกลจากเคหานิวาสถาน-
ห้องเย็นเยียบเงียบสงัดยามรัตติกาล
จากสงสาร*ภพชาติซึ่งหวาดกลัว
๑๑.
จิตวิญญาณอันผุพังในครั้งก่อน
ซึ่งร้าวรอนอ่อนล้าคราคืนสลัว
จักพักฟื้นคืนพลังเพื่อตั้งตัว
พ้นความกลัวมัวหมองของจิตใจ
๑๒.
ในอ้อมกอดเทวามหาศาล
มีไออุ่นละมุนมานสำราญให้-
เธอจักพบประสบฝันอันอำไพ
มีกายใจสุขเกษมทั้งเปรมปรีดิ์
๑๓.
เคยอ่อนล้าฉงนใจในถูกผิด
ทั้งชีวิตมีเส้นกฎเกณฑ์ชี้-
นำลุ่มหลงพะวงวนสับสนมี
หันทางนี้ที่นั้นด้วยหวั่นเกรง
๑๔
เห็นนกแร้งแข็งขันอันหิวโหย
กลิ่นสาบโชยทั้งทรชนคนข่มเหง
บรรยากาศแปรปรวนชวนวังเวง-
หวาดหวั่นเกรงฝนฟ้าพายุพลัน
๑๕.
แท้เธอพรั่นหวั่นผวาคราจิตหลอน
จนบั่นทอนซึ่งนิยามความใฝ่ฝัน
จึงตรอมตรมขมขื่นทุกคืนวัน
ชีวิตพลันสั่นคลอนทั้งอ่อนแอ
๑๖
หากใคร่ครวญถ้วนถี่ที่เป็นอยู่
หากรับรู้เรื่องราวคราวพ่ายแพ้
หากตรึกตรองมองตามความผันแปร
ความพ่ายแพ้แลชนะคือสัจธรรม
๑๗.
หากหลบลี้หนีปัญหาทุกคราครั้ง
คงสิ้นหวังโศกเศร้าทุกเช้าค่ำ
หากเธอเห็นเป็นวิถีทางชี้นำ-
ให้จดจำคำนึงถึงสิ่งดี
๑๘.
หากยังตรมระทมอยู่มิรู้หาย
ตราบชีพวายสิ้นหวังยังหลบหนี
ที่เธอมัวหัวดื้อทั้งถือดี
ทำเช่นนี้แท้สนุกสุขหรือไร ?
๑๙.
อันตัวตนค้นหามานานเนิ่น
จนเพลิดเพลินในภวังค์ทั้งเก่าใหม่
ลืมโลกจริงสิ่งเห็นที่เป็นไป
เธอทำให้ฉันพร้อมยอมจำนน
๒๐
จึงคุกเข่าเฝ้าพร่ำรำพันว่า
โปรดค้นหาความหวังทั้งเหตุผล-
จินตนาการเสรีที่ใจตน
คืออิฐผล*บรรเจิดแสนเลิศเลอ
๒๑.
สู่อ้อมกอดเทวามหาศาล
ซึ่งอบอุ่นละมุนมานสำราญเสมอ
เธอนำฉันสู่นภาฟ้าเลิศเลอ
ที่พร่ำเพ้อคะนึงหามาเนิ่นนาน
๒๒.
แล้วจากดินถิ่นแคว้นแดนอาศัย
ก่อนลาไกลจากเคหานิวาสถาน-
ห้องเย็นเยียบเงียบสงัดยามรัตติกาล
จากสงสาร*ภพชาติซึ่งหวาดกลัว
๒๓.
จิตวิญญาณอันผุพังในครั้งก่อน
ซึ่งร้าวรอนอ่อนล้าคราคืนสลัว
จักพักฟื้นคืนพลังเพื่อตั้งตัว
พ้นความกลัวมัวหมองของจิตใจ
๒๔.
ในอ้อมกอดเทวามหาศาล
มีไออุ่นละมุนมานสำราญให้-
เธอจักพบประสบฝันอันอำไพ
มีกายใจสุขเกษมทั้งเปรมปรีดิ์ ๚ะ๛
ไออุ่นอ้อมกอดแห่งเทพยดาองค์ใด
ฤๅจะเทียบเท่า อุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ในตัวเธอ