4 มิถุนายน 2551 12:47 น.
อัลมิตรา
๏ ฤๅ เพราะสิทธิ์ของเราไม่เข้าท่า
นึกกังขาสิทธิ์เราเทียบเท่าไหน
แค่คิดกลางวางเงื่อนมิเหมือนใคร
กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่เครียดในเรือน
อ่านจนเมื่อยเหนื่อยจังจึงนั่งคิด
เราใช้สิทธิ์บางอย่างแตกต่างเพื่อน
เพราะสวนทางกระทำเผลอพร่ำเตือน
อาจฝาดเฝื่อนกระทบให้บางใจซม
ความขัดแย้งแย้มพรายกระจายทั่ว
สองฟากขั้วสำแดงศัพท์แสงข่ม
คนอยู่กลางช่างลำบากปากผูกปม
อดทนอมน้ำอ่วมแทบท่วมคอ
แค่ในเรือนเสมือนว่าอยากฆ่าฟัน
ข้างนอกนั่นเผชิญหน้ายิ่งกว่าหนอ
สันติสุขทุกคนหวังผลรอ
หากไม่ก่อเกิดได้อย่างไรกัน
ขอยืนยันเยี่ยงมิตรว่าคิดกลาง
ไม่อำพรางแม้นเฉียดคำเดียดฉันท์
ความเห็นที่เทียบขาวพราวลาวัลย์
ปราศสีสันสองฝ่ายหมายละเลง ๚ะ๛
1 มิถุนายน 2551 21:28 น.
อัลมิตรา
๏ ซอกถูกเซาะกระเทาะถ้วนล้วนแปลกรูป
ถูกลมลูบน้ำไล้ให้งามแสน
ท้าลมฝนทนแสงแห่งดินแดน
ซึ่งทดแทนความงามตามยุคกาล
ยังโดดเด่นเห็นตระหง่านมานานเนิ่น
เป็นเขาเขินใหญ่โตรโหฐาน
คดโค้งเว้าเข้าเหลี่ยมเยี่ยมผลงาน
แสนโอฬารล้ำลึกให้ตรึกตรอง
แม้กร่อนกรอบบอบบางในบางช่วง
ถึงหลุดร่วงละลานไปในพื้นผอง
เป็นเศษเสี้ยวเปลี่ยวแปลกแผกครรลอง
ยามแสงส่องรังสิมันตุ์พลันพราวพราย
เช่นชีวิตจิตใจในหนึ่งผู้
ควรไตร่ตรองมองดูรู้นัยหมาย
แม้นสูงส่งคงศักดิ์เกียรติมากมาย
อาจวอดวายเสื่อมทรามเกลื่อนตามดิน
เคยโดนเด่นเห็นตระหง่านทั้งหาญกล้า
ครั้นอาชญาโลกธรรมนำทั้งสิ้น
มีสุขทุกข์คลุกเคล้าเร้าชีวิน
ย่อมเสื่อมสิ้นเปลี่ยนไปให้อาวรณ์
บ้างยังมีอุดมการณ์สืบสานต่อ
ถึงเคยท้อพิจารณาอุทาหรณ์
จงทนทานหาญกล้าอย่าร้าวรอน
ดั่งดินดอน "ละลุ" นั้นอันงดงาม ๚ะ๛
แรงบันดาลใจ "ละลุ"
บ้านคลองยาง ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
31 พฤษภาคม 2551 18:02 น.
อัลมิตรา
๏ จะประท้วงกันไปทำไมวะ ?
มีธุระซื้อของต้องมาเสียว
จะไปศึกษาภัณฑ์แสนหวั่นเชียว
กลัวประเดี๋ยวยิงกันร้อยพันมุง
อยากชนะคะคานพลุ่งพล่านงัด ?
ประเดี๋ยวจัดมวยให้ไล่ถลุง
เห็นปราดเปรื่องเรื่องราวพวกคราวลุง
บ้านเมืองยุ่งฉิบหายไม่วายเว้น
ข้าวสารแพงแหล่งน้ำมันก็ไม่มี
ยุคกลีปราศสุขท่วมทุกข์เข็ญ
เพื่อนภาคใต้ตรอมตรมไม่ร่มเย็น
ภาคอื่นคิดฆ่าเข่นไยเช่นนี้ ?
ท่ามภาวะโลกร้อนต่างรับรู้
พายุกรูแผ่นดินแยกแปลกวิถี
คิดสำนึกบ้างไหม ฤๅ ไม่มี ?
หาวิธีบ้างไหม ฤๅ ไม่ทำ ?
ธรรมชาติอาจทวงทั้งปวงสิ้น
สูญแผ่นดินปราศชีวิตให้คิดขำ
แค่ลมซัดพัดหายหลายแสนกรรม
แค่ดินย่ำขยับเขยื้อนล้านเกลื่อนตาย
จะประท้วงกันไปทำไมวะ ?
เห็นแล้วมันเซ็งว่ะน่าเบื่อหลาย
ถ้าพวกลุงอยากกร่างก่อนวางวาย
อย่าเสียดายความรู้กู้โลกเทอญ ๚ะ๛
31 พฤษภาคม 2551 09:02 น.
อัลมิตรา
๏ เรื่องทำมาหากินผัวสิ้นท่า
เรื่องการค้าเสียดุลขาดทุนหลาย
หนักไม่เอาเบาเลี่ยงเกี่ยงเจ้านาย
ทำตัวคล้ายดักแด้แค่นอนกิน
วันทั้งวันฝันเฟ้อละเมอพร่ำ
มักดื่มด่ำแต่ขยะวาทะศิลป์
ภาษาบ่าวชาวบ้านขี้คร้านยิน
ถ้าเดาะลิ้นแสงศัพท์ถึงรับฟัง
แสนปวดหัวผัวตน "ฅนกวี"
เมื่อก่อนนี้ชื่นชมว่าคมขลัง
ผลงานเยี่ยมเปี่ยมล้นมนตร์พลัง
จนจังงังจวบจิตคิดคลอเคลีย
อุตส่าห์หอบหิ้วผ้าตามมาอยู่
หวังเคียงคู่ตลอดไปจึงได้เสีย
เหมือนตุ่นเต่าเขลาถลำเวรกรรมเมีย
ปราศสำนึกต้องละเหี่ยเผลอเชียร์ไป
ผัวแสนเข็ญเป็นกวีที่ขี้เกียจ
เมียสุดเครียดข้าวปลาจะหาไหน
ผัวพากเพียรพากย์กลอนออดอ้อนใคร
เมียทำใจพวกกวีช่างชีกอ
เขียนอักษรตอนหิวไส้แห้งโหย
จงอดทนอย่าโวยโอดโอยหนอ
ปากกาคนทนไปทนให้พอ
ปากเมียขอข้าวอิ่มชิมลำพัง ๚ะ๛
30 พฤษภาคม 2551 15:34 น.
อัลมิตรา
๏ ใจบางบางด่างพร้อยมากรอยแผล
เปรียบขอนแพเคว้งคว้างกลางชลาศัย
ถูกกระทบกระแทกซ้ำชอกช้ำไป
เหลือซากไว้หมองหม่นบนชะตา
จุดมุ่งหมายปลายทางช่างลางเลือน
แค่ดาวเดือนส่องทางหว่างเวหา
คราวลำบากยากให้ใครนำพา
เพียงกายาอิดโรยโดยลำพัง
ด้วยสำนึกลึกรอยใช่น้อยนัก
และตระหนักสิ่งทรามในความหลัง
ยามผิดพลาดพาลเครียดถูกเกลียดชัง
ทุกคราวครั้งหวนให้ใจทุรน
ใจมิบางอย่างเขา ฤๅ เข้าใจ
จึงวินิจฉัยผิดพลาดปราศเหตุผล
อ้างมารยาสาไถยเล่ห์ร้ายกล
ไม่เคยเลยสักหนจะทนฟัง
แสนเลือนลางบางใครรู้ใจเรา
พร้อมปลดเศร้าทุกข์ทนแต่หนหลัง
ใจบางบางด่างพร้อยร้อยคนชัง
หวังเพียงครั้งที่เขาจะเข้าใจ ๚ะ๛
ใจบางบางด่างพร้อยมากรอยแผล
เปรียบขอนแพเคว้งคว้างกลางชลาศัย
อีกกี่นานหนอจิตครุ่นคิดไป
จะเลื่อนไหลหลุดพ้นจากภพภูมิ