๏ ผ่านเรื่องราวร้าวรานเนิ่นนานนัก ผ่านความรักมนุษย์ชายมากมายหน ผ่านความสุขโศกเศร้าคละเคล้าปน กว่าตัวตนเติบใหญ่หลายร้อยเรียน บางสัมผัสชัดแจ้งเกินเกริ่นกล่าว จนบางคราวอาศัยนัยงานเขียน ถ่ายทอดแทนวาจาคราพากเพียร มีปรับเปลี่ยนฉันท์โคลงโยงกาพย์กลอน ที่ถ่ายทอดตลอดจนสร้างผลงาน ล้วนสื่อสารจำเพาะเพื่อพักผ่อน มิแข่งขันประชันใครให้อนาทร ทรัพย์เดือดร้อนเร่ขายก็ไม่มี จวบกระทั่งประจักษ์ผู้ลักลอบ ซึ่งตะแบงตอบตวาดใส่ให้บัดสี อ้างประพฤติไม่ผิดด้วยคิดดี วิบัตินี้ชวนฉงนเกิดกลใด ? ส่วนผู้หนุนจุนเจือเพื่อมิตรภาพ แม้นสืบทราบความจริงย่อมติงได้ ฤๅ สังคมจมจ่อมย่อมเป็นไป ผิดละไว้ยังถนอมคล้ายออมมือ เมื่อกฏหมายหมายมุ่งมนุษย์ใช้ แล้วเหตุใดกฏกติกากล้าหาญหือ ครั้นอยากเขียนเขียนได้ใฝ่ฝึกปรือ อย่าดึงดื้อลักลอบเป็นกอบกำ จากหนึ่งกลายเป็นสิบหยิบร่วมร้อย จำนวนน้อยหรือไรคนใจต่ำ ควรปรับตัวแก้ไขในการกระทำ เหตุที่ย้ำตลอดเดือนใช่เลื่อนลอย ๚ะ๛
๏ ใช่ปราดเปรื่องเรื่องลอกเขียนตอกย้ำ เราเพียงวางถ้อยคำเหมือนพร่ำบ่น ใครใคร่อ่านอ่านได้ในกลอนกล ใครร้อนรนช่วยมิได้ไยลอกงาน เหตุที่เขียนเวียนวนบนงานลอก เปิดใจบอกลิขสิทธิ์ใช่คิดผลาญ หนึ่งวรรคทองของใครในตำนาน ย่อมซาบซ่านตราตรึงซึ้งทรวงใน งานของใครในจิตย่อมคิดหวง คราวถูกล่วงละเมิดสิทธิ์จนจิตไข้ ยามเปรยปากทักท้วงทวงบางใคร ย่อมหมายให้สำนึกและตรึกตรอง ปราศสมมุติอุตริวิวาทะ กล่าวกักขฬะข่มให้ใครขัดข้อง ยังหวังในน้ำจิตมิตรปรองดอง ผู้เกี่ยวข้องนั้นหนอจะขอขมา แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเกินคาด กลายทิฎฐิวิปลาสประหลาดภาษา อ้างแม่น้ำหมื่นสายหลายแหล่งพา แลเหลี่ยมเล่ห์เจรจามาบิดเบือน กลับตาลปัตรคนผิดมากมิตรอุ้ม เจ้าของแท้โดนรุมกลุ้มไหมเพื่อน เมื่อคนกลางปล่อยไว้ไม่ติงเตือน เส้นทางเถื่อนควรไหมไปแวะเวียน ๚ะ๛
๏ เราแค่เขียนหนังสือสื่อความหมาย วาดลวดลายละเลงบ้างระหว่างฝัน เขียนเล่นเล่นปราศเน้นเค้นรางวัล งานสร้างสรรค์บอกได้อาจไม่มี เพราะตีบตันปัญญาไกลค่าปราชญ์ เรา ฤๅ หาญกระวีกระวาดปราชญ์วิถี เขียนกลอนแล้วแล้วไปสิ้นไยดี อ่านอีกทีแทบขย้อนหนอกลอนเรา แปลกพิกลคนบ้ายังกล้าลอก แถมปากบอกไม่รู้ดูสติเขลา กลอนดีเด่นเป็นกระตั๊กไม่ยักเอา กลอนน้ำเน่าท่วมหนองอ้างของตัว เมื่อทักท้วงทวงถามติดตามกฏ เขาประชดถ้อยหมิ่นพลิกลิ้นมั่ว เราจึงถอยพลอยขยาดด้วยขลาดกลัว เกรงสิ่งชั่วเข้าแทรกไม่แลกความ จำปล่อยให้ใครใครใคร่ครวญคิด "..ถูกหรือผิด.." แล้วแต่เราแค่ถาม ผู้ฝึกฝนลิขิตควรจิตงาม หรือซ่อนทรามลักลอบลอกงานใคร ๚ะ๛
๏ เมื่อนักลอกมือทองคอยจ้องฉก เหมือนเข้ารกเข้าพงหลงทางสื่อ คว้าโน่นนิดนี่หน่อยพลอยติดมือ ปัญญาบื้องานลอกบอกตัวทำ แท้นักลอกมือทองช่ำชองฉก เรื่องสกปรกกลับปลื้มดุจดื่มด่ำ มิสำนึกตรึกตรองร่องรอยกรรม แถมเพ้อพร่ำทั้งมวลโลกส่วนตัว เมื่อนักเขียนหงุดหงิดจิตเบื่อหน่าย บ้างเสียหายเพราะนักลอกออกข่าวมั่ว งานเขาเขียนเพี้ยนคว้ามาหมองมัว อ้างซี้ซั้วเป็นเจ้าของทำนองโจร หากนักลอกป้วนเปี้ยนสังเวียนเวป นักเขียนเก็บความสามารถมิผาดโผน ศิลปะเปรอะเปื้อนเหมือนจมโคลน เขียนฤๅโดนกระแทกกระทุ้งใจ เราอ้างถึงกฏหมายหมายเพื่อปกป้อง แม้นเจ้าของลิขสิทธิ์คิดรุกไล่ นักลอกเอยเคยตัวอย่ากลัวใด องอาจไว้ยามตำรวจมาตรวจการณ์ อย่าอ้างว่าเพื่อนให้ตอบไม่รู้ หรือเที่ยวตู่นั่งเทียนเขียนที่บ้าน ถ้ายกอ้างเยี่ยงนั้นเพราะสันดาน เรื่องลอกงานความเห็นใจคงไม่มี หากนักลอกเลวกร่างหลงทางผิด คงความคิดประพฤติตนคนบัดสี เมื่อนักเขียนติเตือนกลับต่อยตี โทษฑัณฑ์คนเยี่ยงนี้.. "คดีความ" ๚ะ๛ .................................................
ใจเย็นนะน้องชาย จะรีบตายทำไมกัน คว้ามีดดาบไล่ฟัน ควักปืนนั้นมาไล่ยิง ร่ำเรียนถึงไหนเล่า โคตรโง่เง่าเต่าตุ่นยิ่ง พ่อแม่ใคร่พักพิง เจ้ากลับทิ้งอุดมการ ชีวิตทั้งชีวิต เจ้าวิปริต ฤๅ สันดาน ประพฤติเยี่ยงอันธพาล เที่ยวระรานท้าต่อยตี ฤๅ เพราะเป็นผู้ชาย ยอมไม่ได้ในศักดิ์ศรี ใครเหยียบถิ่นราวี มันต้องพลีเลือดละเลง เชื่อผิดติดต่อมา หลงคิดว่า "กูเก๋าเก่ง" สถาบันปั้นนักเลง เบ้าหลอมเจ๋งอาชีวะ ฤๅ ว่าอารมณ์แล่น เจ้าจึงแค่นความกักขฬะ ล่าไล่ไม่ลดละ เที่ยวปะทะด้วยความแค้น ฤๅ จิตสำนึกหาย เรียนเปล่าดายไม่ถึงแก่น อนาคตไร้แบบแปลน นี่หรือแผนการเรียนรู้ ฤๅ รักพ่อแม่มี เปรียบแค่"ขี้"ให้หดหู่ กับเพื่อนช่างเชิดชู เพื่อนบอกสู้เจ้าร่วมทัพ นักเรียนใจนักเลง ต่อให้เก่งก็ต้องดับ จำไว้ใช่แค่ "ครับ" ลองนั่งนับศพกันไหม ? ตีกันให้ตายไม่ต้องเสียดายชีวิต ถ้าไม่ได้ใช้สมองคิด ก็อย่ามัวห่วงชีวิตนั่น ไปโรงเรียน ไปเรียนหนังสือ ทำไมกัน ครูไม่ได้สอนให้ฆ่าฟัน ถ้าคิดจะทำอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปเรียน