21 กรกฎาคม 2552 15:56 น.
อัลมิตรา
๏ แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ
ให้ยืดถือโบราณท่านพร่ำสอน
ฉันทลักษณ์มักเน้นเป็นบทกลอน
อีกวรรคตอนย้อนคำนำใส่ใจ
มีมากนักหากเรียนเพียรศึกษา
เทศนาโวหารครั้นสงสัย
คือบทกลอนสอนสั่งดั่งจูงใจ
ให้ฝักใฝ่ในธรรมหนุนนำตน
ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน
เพื่อให้มั่นให้หมายคลายสับสน
นำคำสอนคำสั่งฝังกมล
พ้นวังวนพ้นเวียนว่ายในมัวเมา
พรรณาโวหารหมั่นศึกษา
ดุจคุณตาปรานีชี้เรื่องเล่า
ให้คลายร้อนผ่อนหนาวเศร้าบรรเทา
นิทานเก่าเราฟังอย่างตั้งใจ
ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน
หากจริงนั้นผสานสิ่งเป็นจริงได้
เสนาะหูรู้แจ้งแฝงความนัย
ฟังครั้งใดคล้ายชมโขนกรมศิลป์
อีกแบบหนึ่งตรึงตราจะหาไหน
อุปมาอุปมัยได้สุขิน
อ้างเรื่องเทียบเปรียบเปรยแผ่เผยจินต์
ยกศัพท์สิ้นส่อความตามโบราณ
แต่ต้องกลั่นจากห้วงของดวงใจ
กฎเกณฑ์ใดไม่หลงตรงอรรถสาส์น
เรื่องใดเหมาะเพราะพริ้งแอบอิงกานท์
ยกตำนานผสานส่งจำนงไป
พึงเพิ่มเติมเสริมแนบแบบฉบับ
ดุจประดับอาภรณ์ตอนสวมใส่
จักงดงามตามฉันท์กาพย์กานท์ไทย
แม้นผู้ใดได้ชมภิรมย์พลัน
แค่เอาถ้อยร้อยเรียงเพียงพอหรือ
ที่จะสื่อจะสานวิญญาณฝัน
ใช่เพียงแค่ถ้อยคำเพ้อรำพัน
ควรกรองกลั่นจากห้วงของดวงใจ
ต้องคำนึงถึงความอันงามเฟื่อง
ก่อนวางเรื่องเรียงพจน์กำหนดไข
ต้องรู้ชอบทุกจารที่สาส์นไป
รู้รับใช้รอบด้านที่กานท์มา
ต้องสำรวจตรวจสอบระบอบศัพท์
รู้ระงับรู้ประกาศปรารถนา
แม่นลำดับบังคับบทพจนา
จึงสมค่าควรชมนิยมกัน
บนเส้นทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์
อันแจ่มจินตนาการวิญญานฝัน
หากเพียงลากอักษรแค่คอนดัน
ป่วยการจะประพันธ์เรื่องอันใด ๚ะ๛
18 กรกฎาคม 2552 16:57 น.
อัลมิตรา
๏ ท่ามภูผาป่ากว้างเส้นทางโหด
คงคล้ายโจทย์ให้ผจญบนวิถี
ทั้งตัวทากหลากหลายในพงพี
คงหมายเลือดเรานี้บัดพลีมัน
โค้งวกวนถนนผุผิวขรุขระ
มิลดละจุดหมายปลายทางฝัน
ทะเลหมอกหยอกตาทิวาวัน
ดุจม่านควันลอยล่องท่องนภา
เมฆสลับสับหว่างอำพรางแสง
ลมพัดแรงระบัดโบยคล้ายโหยหา
หนาวลม ฤๅ เทียบเท่าหนาวอุรา
เราปวดปร่ากว่าใคร ณ ไพรพง
เพราะรู้สึกลึกล้ำเกินกำหนด
จึงปรากฏบทกลอนสะท้อนส่ง
แต่มิกล้าสาธยายตามนัยตรง
กลั้นใจปลงความรู้สึกที่ลึกร้าว ๚ะ๛
การเดินทางที่ยาวไกล
เดินไปไม่รู้ไม่เห็นไม่คำนึงถึงจุดหมาย
ต่างคนต่างเดินโดดเดี่ยวเดียวดาย
ตามสายทางชีวิตของตน
ขันแข่งแย่งยื้อซื้อขาย
อับอายเอิบอิ่มยิ้มย่องร้องไห้ไปกลับสับสน
สรรพอารมณ์สังขารคลุกเคล้าคละปะปน
วิสัยคน ระคนระคายไม่วายวาง
เราพยายามเดินตามหาความหมาย
กล้าเผชิญดีร้ายสิ่งกีดขวาง
มุ่งมั่นฟันฝ่าผองภัยในหนทาง
หวังใจเราสว่างท่ามกลางความมืดมน
5 กรกฎาคม 2552 23:49 น.
อัลมิตรา
๏ เรียน.. กรรมการกุลีที่ปรึกษา
กรกฏาฤกษ์ยามงามดิถี
บุญระดมสมมาตร "ราชบุรี"
เหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่แสนดีใจ
ร่วมโครงการงานบุญแล้วลุ้นเที่ยว
มาโดดเดี่ยว/เป็นคู่ ย่อมรู้ได้
จิตอาสามาสมัครพรักพร้อมไป
ปราศจากนับนอกในคนใกล้ตัว
"กลุ่มรถบัส" .. จัดหาสันทนาการ
"กลุ่มโฟรวิลล์" .. มดงานวิ่งพล่านทั่ว
"กลุ่มรถตู้" .. รู้คล่องต้องงานครัว
"รถส่วนตัว" .. เตรียมหาสารพัน
เรียน.. กรรมการกุลีที่เคารพ
เรานัดพบพี่น้องเพื่อนพ้องนั่น
โครงการบุญจุนเจือเพื่อแบ่งปัน
กำหนดวันเสาร์นี้นัดที่เดิม
ตรึงเวลาอย่าช้าหน้าเซ็นทรัล
ก่อนพากันขึ้นบัสเคร่งครัดเริ่ม
แจกข้าวกล่องกินอิ่มชิมประเดิม
ใคร่ขอเพิ่มย่อมได้จัดให้ฟรี
เจ็ดโมงเช้าไม่รอเร่งล้อหมุน
สายแล้วไม่แคล้ววุ่นนะคุณพี่
รถบัสเคลื่อนเลื่อนพิกัดนัดพอดี
เพื่อนมากมีอีกโขยงหน้าโรงเรียน
เรียน.. กรรมการกุลีที่น่ารัก
ขนของหนักบางครั้งยังคลื่นเหียน
ปุ๋ยขี้ไก่สิบกระสอบลอบวิงเวียน
ต้องผลัดเปลี่ยนแบกไปใส่รถรอ
ท่วมท้นทั้งถ้วยชามกาละมังมี
กล่องเรียงไว้อย่างดีตามที่ขอ
ตู้สามชั้นปันเสบียงแฟ้มเพียงพอ
มากขนมล่อประดาเด็กใหญ่เล็กปน
อีกอุปกรณ์การเรียนช่วยเขียนอ่าน
ผู้เชี่ยวชาญซื้อให้เราไปขน
ทั้งหยูกยาประเภทเวชศาสตร์กล
สัมฤทธิ์ผลคับคั่งไหลหลั่งมา
เรียน.. กรรมการกุลีที่คิดถึง
เราซาบซึ้ง/ตระหนักเป็นหนักหนา
โครงการฯ นี้สำเร็จได้ในเจตนา
เพราะทุกคนอาสานำพาไป
ลำพังหนึ่งซึ่งเรา ฤๅ เข้าท่า
ที่ประดังมาเทียบคำดุจน้ำไหล
คนละหยดผสมผสานเป็นธารใจ
แหล่งน้ำใหญ่เอื้อเฟื้อเพื่อเจือจาน
แด่.. ทุกคนเพื่อนพ้องและน้องพี่
เรา "กุลี" ขอมุติลิลิตขาน
คิดเขียนคำสิบสองบทร้อยรสกานท์
แล้วจักจารจารึกไว้ในทรงจำ ๚ะ๛
30 มิถุนายน 2552 20:59 น.
อัลมิตรา
๏ ใช่โดดเด่นเช่นปราชญ์ราชบัณฑิต
ฉันแอบพ่วงดวงจิตใคร่สนิทสนม
กว่าช่ำชองพ้องภาษาพร่างอารมณ์
ที่แล้งลมพูดพร่ำพลอยร่ำเรียน
ทั้งโคลงกาพย์กลอนฉันท์สารพันคิด
สู้มุ่งมั่นหมั่นประดิษฐ์หัดขีดเขียน
เรียงประโยคโยกความจนงามเนียน
ฉันพากเพียรเพื่อใครหวังใดกัน
แท้บุคคลคนเดียวหมายเกี่ยวข้อง
แค่เขาเหลือบแลมองร้อยกรองฉัน
หลากคำชมบนลานกลอนค่อนกำนัล
ฤๅ เทียบขวัญหนึ่งเขาอ่านเข้าใจ
ที่พร่ำเพ้อเสมอมาคราหงอยเหงา
ฉันหวังอ้อมอกเขาบรรเทาให้
ร่ายอรรถรสปลดเปลื้องเรื่องราวไป
วางอักษรซ่อนนัยแฝงใจความ
เขียนทุกอย่างเพื่อให้บางใครแล
สร้างกระแสบางหนคล้ายคนพล่าม
เคยมีคนแค่นแคลนว่าแสนทราม
กลอนห่วยห่ามผิดเหง้าเหล่ากวี
ยังยิ้มรื่นยืนยันรังสรรค์ถ้อย
แม้ฤทธิ์น้อยก็ตระหนักในศักดิ์ศรี
เจตนาเขียนให้ใครใจรู้ดี
คนเดียวที่พิเศษสาเหตุกลอน
แล้วบรรเลงลงความตามรู้สึก
จากส่วนลึกบึ้งใจนัยอักษร
ด้วยสายใยเสน่หาแสนอาทร
ทุกวรรคตอนทุกวลียินดีทำ ๚ะ๛
29 มิถุนายน 2552 22:12 น.
อัลมิตรา
๏ ขอเรียงร้อยถ้อยฝากถึงฟากฟ้า
บรรจงเขียนคำว่า"ห่วงหาเสมอ"
บนเส้นทางห่างไกลยังใฝ่ละเมอ
โอกาสเจอมีไหม.. ฉันไม่รู้
ทุกสิ่งสรรพ์บรรยายจากใจฉัน
บรรจงกลั่นร้อยเรียงใช่เพียงครู่
อยากให้คนแสนไกลได้เหลียวดู
แล้วอุ้มชูเหมือนครั้งเมื่อยังเยาว์
ภาพเด็กหญิงวิ่งหาบิดากอด
ฝันเห็นตลอดคล้ายว่าอุราเหงา
สองแก้มเปื้อนน้ำตามาลางเลา
หลับยังเศร้าครั้นตื่นสะอื้นแล
อ่าน"รอยจูบ"วูบไหวหัวใจสั่น
เขารังสรรค์เพราะจิตสนิทแม่
อ่าน"สัญญา" บางนัยเขาไม่แปร
ซาบซึ้งแท้พระคุณหนออุ่นไอ
แสนคิดถึงเสมอมาแม้คราฝัน
ซ้ำบางวันเพ้อว่าพ่อมาใกล้
คนพิเศษพิสุทธิ์สุดหัวใจ
สถิต ณ ฟากฟ้าไหนไม่รู้เลย ๚ะ๛