12 ตุลาคม 2545 11:33 น.
อัลมิตรา
...ช้องนางนางอยู่ใกล้...................ดวงใจ
ช้องม่วงควงทรามวัย...................แนบข้าง
เครือพันธ์มั่นชูใบ........................เคียงดอก- บานแฮ
นวลชิดสนิทข้าง..........................ดั่งช้องนางชม ฯ
.....จำปีแทนพี่นี้.........................แทนกาย
มอบแด่สาวพริ้มพราย................แน่รัก
กลีบงามย่ามใจกราย..................กอบเก็บ ดอมเฮย
ขาวเรื่อเหลือใจนัก.....................จักน้อมหอมนวล ฯ
.....ชบาแดงแต่งแต้ม..................นวลอนงค์
ดังชาดงามบรรจง......................วาดให้
งามสมข่มไหลหลง......................ตรงดอก- งามเฮย
ขอพี่สิเคียงใกล้..........................ไขว่คว้าชบา มาชม ฯ
....ชุมเห็ดเด็ดพี่แล้ว....................หทัยวาง
มอบรักแด่อนงค์นาง....................แน่แท้
งามอร่ามยามคัคคนางค์................แนบคู่- หูแม่
ชมช่อพนอแล้.............................แค่นั้นพลันเกษม ฯ
....ดาวเรืองเหมือนรักนี้.................เรืองใจ
ต่อรักปักษ์ดวงหทัย.....................พี่นี้
เหลืองดอกออกเรียงไบ................ชมชื่น
หมายเด็ดใจน้องนี้........................หากไร้ใครเคียง ฯ
...เห็นอโศกช่างโศกแท้...................งามงอน
ใยน้องจึงตัดรอน.........................พี่ได้
คงโศกวิตกตอน...........................ดอกร่วง- โรยนา
คงหน่ายหมายผลักให้....................บ่ายร้างรียมฤา ฯ
...อังกาบซึมซาบรัก.......................ปักแน่น
ชีพวายไม่คลายแคลน.....................เกลื่อนได้
ยลดอกออกทดแทน.......................แสนชื่น- สราญเฮย
พันะธ์ผูกสุขใจใว้...........................ไป่ร้างดังอัง- กาบเทอญ ฯ
...ดอกม่วงพวงร่ายร้อย................เรียงราย
งามดั่งดาวพร่างพราย..................แต่งสร้าง
ประหนึ่งดั่งโฉมฉาย......................ชิดพี่ นี้เฮย
เคยเอ่ยเปรียบเทียบอ้าง................รักน้องนางเดียว ฯ
...ซ่อนกลิ่นกลิ่นติดคล้าย...............เยาวมาลย์
เผยแอบปองนงคราญ..................เกี่ยวก้อย
สลวยระรวยหวาน.........................หอมกลิ่น กายแม่
ตรึงจิตไม่คิดคล้อย......................ใช่น้อยเต็มทรวงฯ
11 ตุลาคม 2545 07:56 น.
อัลมิตรา
ด้วยจิตวิญญาณอันเปี่ยมสุข
ทุกครั้งที่ฉันให้ ก็หมายถึง ฉันได้รับ
ฉันไม่ได้หมายความว่า
มีคนคนหนึ่งได้ให้สิ่งหนี่งสิ่งใดแก่ฉัน
แต่ฉันหมายถึง ฉันได้รับในสิ่งที่ฉันให้ต่างหาก
เพราะว่า
ความยินดีของฉันจากการที่ฉันได้ให้
มันมีไม่น้อยไปกว่าความสุขใจของผู้ที่มารับไป
10 ตุลาคม 2545 10:17 น.
อัลมิตรา
(๑)
.....แปลกจริงสิงซ่อนเร้น.............เหลือบมอง
เปื้อนสิ่งปฏิกูลกอง.......................กลิ่นคลุ้ง
เปลี่ยนไปใหม่อาจนอง.................จิตเจิ่ง จมนา
ปนพิษจิตเฟือนฟุ้ง.......................ยุ่งย้อนนอนขม ฯ
(๒)
.....แปลกประหลาดอาจซ้อน...........คมหลาว
เปื้อนหม่นอาจผ่องราว..................เพชรแพร้ว
เปลี่ยนทัศน์เพ่งจริงขาว................ฤาขุ่น
ปนป่ายใครพิศม์แล้ว.....................แน่วรู้สิ่งหลอน ฯ
(๓)
.....แปลกตาหาใช่ปลิ้น-................ปลอกใคร
เปลื้อนเปรอะเลอะเทอะไป...........ไป่เหี้ยม
เปลี่ยนบทสบถใด........................หมายกล่อม- เห่นา
ปนจิตจริตเพรี้ยม........................เยี่ยมเย้าสราญรมย์ ฯ
(๔)
.....แปลกใจใยหยาดเยิ้ม.............จริงหนอ
เปื้อนอย่างเราคงรอ.....................จิตค้าง
เปลี่ยนใจใหม่เถิดหนอ................ติงพ่อ
ปนจิตสนิทข้าง.............................อย่าขว้างใจจริง ฯ
..
9 ตุลาคม 2545 08:34 น.
อัลมิตรา
เมื่อพี่ชายทายทักให้หักจิต
จรดจริตพิศซ้ำถึงความหมอง
ให้รักษาจิตใจใฝ่ประคอง
หลายทำนองรุมเร้าให้เศร้าใจ
หากว่าชายหมายจิตพินิจถึง
หมดความซึ้งหม่นหวานรอนราญให้
เพียงประสงค์พรรณาคราคิดไป
ปลอบฤทัยที่หมองไหม้ให้ยินดี
มิมีใครใดล้ำทำให้หม่น
มิมีใครกร่นคำให้ช้ำที่
มิมีใครเผยกล้ามาราวี
มิมีใครเผยวจีชี้ลงตัว
สะบัดกานท์สะท้านเรียงเคียงในจิต
สะท้อนคิดยากยับยั้งพลั้งสลัว
สะเทือนเอยเผยว่าเศร้าใจสั่นรัว
สะทกทั่วให้หวาดกลัวมัวในนวล
ย้อนดูคำพร่ำพาในคิดนึก
ย้อนดูตรึกตรองแน่นจากแก่นหวล
ย้อนความหลังครั้งเย้าให้เฝ้าครวญ
ย้อนดูถ้วนทวนย้ำให้ช้ำตน
ระวังใจใสแน่วพี่แก้วบอก
ระวังความอย่าให้ชอกบอกอีกหน
ระวังนะเกรงน้องจะช้ำกมล
ระวังคนใจร้ายทำลายเรา ...
8 ตุลาคม 2545 21:01 น.
อัลมิตรา
(๑)
รัตติกาลผ่านมาอุราต้อง
เฝ้าเหม่อมองท้องฟ้าใจยังเหลียว
ไม่พานพบสบใครสักคนเดียว
ใจยังเที่ยวถามจันทร์ฝันเลื่อนลอย
(๒)
จันทร์ตอบว่าคราใดใจสะอื้น
ด้วยว่าฝืนรอคนหนึ่งคิดถดถอย
ฝากกระซิบกับสายลมว่ายังคอย
ใจอย่าลอยไปไหนให้กลับมา
(๓)
พรรณมาลาคราคืนสะอื้นไห้
ชายผู้เป็นเจ้าหัวใจไม่มาหา
แก้วราตรีที่ปลูกไว้ในอุรา
คงโรยราครายืนฝืนระทม
(๔)
โอ้สายหยุดหยุดใจได้ไหมนี่
ดวงใจที่เฝ้าเพ้อและขื่นขม
กลิ่นระเรื่ออาจจะเจือไปตามลม
มิอาจสมจมคำที่สัญญา
(๕)
ด้วยว่าใจดวงนี้มิหลับใหล
เหม่อมองไปนอกระเบียงรำพันว่า
ในยามนี้ไม่มีกาพย์กล่อมอุรา
ไม่มีฉันท์คอยมาให้อุ่นใจ
(๖)
ยามราตรีเคยมีคนพนอชิด
ร้อยดวงจิตส่งขวัญยามฝันใฝ่
ผ่านกี่คืนกี่เดือนเลื่อนผ่านไป
ยังคงซึ้งตรึงใจมิลืมเลือน
(๗)
ดอกไม้หอมพี่บรรจงเก็บน้อง
จะนำคล้องใส่ฤทัยไว้เสมือน
สนนว่าเคียงกันชมดวงเดือน
เหมือนดั่งเพื่อนใกล้ชิดจิตนิรันดร์
(๘)
กลิ่นลำดวนชวนใจให้ชื่นจิต
นฤมิตจินตนาคราหลับฝัน
รำพันกลอนเพ้อฝันผ่านคืนวาน
เป็นกลอนกานท์ตัดพ้อหนอบางคน