29 ตุลาคม 2545 15:59 น.
อัลมิตรา
.....เถาวัลย์พันตรึงต้น........................โอนเอน
กวัดเกาะเลาะบังเบน..........................เบี่ยงต้น
ระยางโยงยลโงนเงน..........................เป็นหนึ่ง ไทรงาม
หาใช่หลายแผกพ้น.............................ต่างต้นปนเป ฯ
.....บดบังยังมืดแม้น...........................แทนไทร ไสวนา
รากรึงขึงชอนไช................................ไขว่คุ้ม
เปลือกปิดมิดโยงใย............................เครือข่าย ขยายเฮย
เปรียบกลองทำนองทุ้ม.......................สดับถ้วนสรวลสนน ฯ
.....โคลงงามยามร่ายเพี้ยง....................เสียงไทร ไสวเฮย
พรายแผ่วแนวเสียดใบ........................บ่ายย้อย
ระบัดกวัดตวัดไกว...............................ปลายกิ่ง อิงเอย
เสียงเพราะเสนาะคล้อย........................ปล่อยให้ใจสราญ ฯ
.....หลากรจน์ลีลาร้อย.........................เรียงราย หลายฤา
ผันพจน์พากย์สาธยาย.........................ร่ายร้อง
ตามกฏบทครูกราย-............................กรีดกล่าว
โสตสรวลชวนชมช้อง...........................ชื่นแฉล้มแซมทรวง ฯ
28 ตุลาคม 2545 09:03 น.
อัลมิตรา
.....ลมพัดกวัดแกว่งต้น.....................โอนเอียง
ผ่านแผ่วมะพร้าวเรียง........................ลู่แล้ว
ใบกวัดแกว่งแปลงเสียง.....................สดับดั่ง เพลงนา
หวิวแว่วแถวหาดแพร้ว.......................เพรียกพร้อมเพลินเพลง ฯ
.....ยืนหยุดดุจมุ่งสร้าง......................เสกสรรค์
ปราสาททรายอาจฝัน.........................ใฝ่ได้
จากเม็ดเกร็ดทรายอัน........................ผุดผ่อง
มือกอบปราการใกล้...........................ก่อคล้ายจินตนา- การตน ฯ
.....เวียงวังดังเทพไท้........................เหลื่อมสวรรค์
ปราสาทอัศจรรย์...............................แต่งแต้ม
ทวารมั่นเคียงกัน...............................เจริดจรัศ
ปรากฏลดหลั่นแฉล้ม.........................ยั่งฟ้าตระการ ฯ
.....เพียงเพลินเดินรอบรั้ว..................เวียงวัง
ปราสาททรายไป่หวัง.........................ดั่งนั้น
คลื่นซัดอาจผุพัง.............................สลายล่ม
ดังจิตคิดสกัดกั้น.............................สุขเศร้าโศกแสลง ฯ
28 ตุลาคม 2545 08:59 น.
อัลมิตรา
.....ลอยเรือเหนือย่านน้ำ.................มหา- สมุทรเฮย
เยกโยกวิตกครา...........................คลื่นซ้ำ
ลมโบกกระโชกพา........................จิตหวั่น
โดดเดี่ยวเหลียวเพียงน้ำ...............ใหญ่คว้างกลางสกล ฯ
.....ลอยเรือเพียงเพื่อให้...............ใจคลาย
สู่เกาะสมุยหมาย..........................ใคร่ค้าง
ปลอดเปลี่ยวเดี่ยวใจกาย..............กรายย่าง หาดนอ
ลมล่องมองหาดกว้าง..................ดั่งแก้วแวววาว ฯ
.....ลัดเลาะเกาะแก่งข้าง...............โขดหิน
คลื่นซัดกระเซ็นยิน......................หยั่งน้ำ
นางนวลง่วนโบยบิน....................ถิ่นทั่ว- ธารเฮย
หมายใขว่มัสยาขย้ำ.....................จิกเนื้อเจือตน ฯ
.....ปูปลาดารดาษท้อง................ธารงาม
หอยอวดทรวดทรงหวาม.............เลื่อมแล้
เสฉวนง่วนเดินตาม....................ไต่ติด
คลอคลื่นชรมื่นแท้......................ปราศแสร้งสาธยาย ฯ
27 ตุลาคม 2545 14:39 น.
อัลมิตรา
แตงโมแตะปลายลิ้นยังรู้รส
ไม่ทันหมดเกินคำรู้ฉ่ำหวาน
สับปะรดเคี้ยวไปมิได้นาน
ก็ทราบกันเปรี้ยวหวานสักปานใด
สุนัขรู้จักสอนมันก่อนเอ๋ย
มันไม่เคยเปลี่ยนกันแม้วันไหน
ยกเว้นบ้ากันแล้วก็แล้วไป
มันรู้ใจอยู่กับคนจนตายลา
ไม่ว่าหมาว่าแมวแม้โคเขื่อง
ให้ขัดเคืองอย่างไรจริงใจหนา
ไม่เคยแสร้งกลบระยำทำหลอกตา
ที่ปิดหน้าด้วยหน้ากากลำบากดู
หน้ากากเนื้อแนบหน้ามาหลอกแกล้ง
ทำเสแสร้งแปลงหน้าว่าสวยหรู
ปิดหน้ากากกั้นไว้ข้างในงู
เปิดออกดูเมื่อนั้นมันฉกตาย
26 ตุลาคม 2545 22:26 น.
อัลมิตรา
.....มิว่ากระไรเลย............................กวิเอ่ยเฉลยคำ
พธูสุลักษณ์ย้ำ...................................อุระส่ำพิร่ำวอน
ตระหนักประจักษ์มั่น........................รตินั้นมิสั่นคลอน
ดรุณ ฤ ขุ่นค้อน.................................ขณะอ้อน ฤ งอนใด ฯ
.....ระทดระทวยแท้............................ตละแม่สิแปรไป
ระทึกสะอึกใจ....................................ผิว์จะไร้หทัยตน
ระกำกระหน่ำนัก...............................ศศลักษณ์มิอยากยล
ศศีพิลาสพ้น.....................................ละกมลและพ้นตา ฯ
.....กวีสิพร่ำเพ้อ................................และละเมอชะเง้อหา
พระจันทร์ตระหง่านฟ้า......................ดุจ ว่าจะรัญจวน
นิยามพิร่ำสิ้น....................................อนุจินต์ถวิลครวญ
ประสงค์อนงค์สรวล...........................กวิถ้วนมิลวนลาม ฯ
.....ชม้ายวิไลนัก................................สิริลักขณางาม
ตระหง่านมหรรณพ์วาม.......................สิอร่ามและล้ำลักษณ์
หทัยสิใคร่น้อม..................................จะถนอมประนอมศักดิ์
พระจันทร์กระนั้นจัก..........................สละรักกระต่ายดง ฯ