5 พฤศจิกายน 2545 16:08 น.
อัลมิตรา
.........................ไหลเรือไฟ ( ไหลเฮือไฟ )..........................
.....มหาชนคนหลากล้น...............มากมาย
เอียดเสียดเบียดบังหมาย..............ใฝ่จ้อง
ลูกเด็กเล็กตายาย.........................ชายหนุ่ม- สาวแม่
เช็งแช่แลเหลียวป้อง-....................ปากร้องฮาเฮ ฯ
.....ผันปีมีมากด้วย.........................นันทนา- การเฮย
ขันแข่งแต่งนาวา...........................ใหญ่น้อย
ประทีบรีบผูกดา-............................รดาษเด่น
หลากรูปหลากลักษณ์ร้อย................เร่งเร้ารัดรึงลำเรือ ฯ
.....งานมือปรือจิตสร้าง....................รังสรรค์
วิจิตรพิศดารผัน.............................แผกบ้าง
ประกวดลวดลายกัน........................ขันแข่ง
สมสุขสนุกอ้าง.................................อวดตั้งตระหง่านงาม ฯ
.....มองจากฟากฝั่งน้ำ......................โขงขนาน
โชติช่วงเฉิดชัชวาล.........................ผ่านคล้อย
เพริศพร่างดั่งทิพยยาน....................เจิดจรัส
เกินกว่าพรรณาร้อย........................ร่ายถ้อยรจน์แถลง ฯ
.....เห็นครุฑยุดเหนี่ยวเนื้อ..............นาคี
เห็นนาคศลาฆฤทธี........................ที่น้ำ
พระรถโปรดเมรี..............................เกษมสุข
เห็นแม่กัลยาย้ำ..............................หยอกเย้าสรวลสนาน ฯ
.....เห็นวัดปราสาทสร้าง...................อัศจรรย์
ปานเปรียบเทียบสรวงสวรรค์.............ย่านฟ้า
เห็นกระบี่นารีอัน.............................ผุดผ่อง
เห็นหมู่กินรีหม้า*.............................แช่มช้อยอรชร ฯ
.....เห็นใครเดินไขว่คว้า..................ปืนอา- ก้านอ
ริมฝั่งโขงตรงหา..............................ป่าไม้
งันงกง่วนชายตา..............................ดูดั่ง ลาวน้อง
ปืนลั่นพลันยืนใบ้............................บ่งไซร้บั้งไฟพญานาค ฯ ( นี่เอง )
...นาคศลาฆฤทธี ในที่นี้หมายถึงนาคพ่นไฟ ศลาฆ แปลว่า พ่น..หรือทำให้ออก.
...หม้า แปลว่า สวยงาม งดงาม
ในวันออกพรรษา พระสงฆ์ตามวัดต่างๆ จะจัดทำเฮือไฟ (เรือไฟ) ขึ้นในวัดตรงหน้าโบสถ์ ตกกลางคืน จะนำดอกไม้ธูปเทียนมาจุดบูชา เป็นพุทธบูชา ประเพณีอีกอย่างหนึ่งที่นิยมทำกันมากในวันออกพรรษา คือ การปล่อยเรือไฟ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ไหลเฮือไฟ คือการนำเอาท่อนกล้วยหรือท่อนไม้มาทำเป็นรูปเรือ เวลาประมาณทุ่มเศษก็จะนำมาจุดไฟ โดยใช้ขี้ไต้หรือน้ำมันยาง แล้วปล่อยเรือให้ไหลไปตามน้ำ จะมีการตีฆ้องตีกลอง การละเล่นรื่นเริงพร้อมกันไปด้วย
บางจังหวัดก็มีการประกวดเรือไฟกัน นับว่าเป็นประเพณีที่ควรอนุรักษ์
4 พฤศจิกายน 2545 09:41 น.
อัลมิตรา
...( โคลงกลอน )...
.....พระจันทร์งามอร่ามแท้..........แลสคราญ
รัตติกาลฉายฉาน.......................ผ่านฟ้า
สวยแสงส่องมองกานต์................พรรณพร่าง ละลวยแล
คลายป่วยสลวยหล้า....................แจ่มจ้าราตรี ฯ
.....อนิจจากระต่ายน้อย...............คอยเมียง
มองกว่าจันทร์ผ่องเพียง..............เลี่ยงล้อ
เหลือบสีหลากสรรเคียง................คลอกล่าว
ดาวเด่นดีมิท้อ...........................ที่ง้องอนวอนอ้อนเพ็ญ ฯ
.....ศศธร*บ่งซ้อง.......................สนองคำ
อาจเอ่ยอำความจำ......................พร่ำเพ้อ
เห็นจันทร์งดงามกำ-..................หนดใคร่
หมายใฝ่เป็นชะเง้อ...................เช่นเก้อเห็นเพ็ญเด่นวาม ฯ
.....จำหาญหักรักร้าง....................ยังคนึง
กระต่ายหึงหวงถึง........................จึ่งเย้ย
หยามหยันหวั่นจิตตรึง.................ติดยิ่ง
สิงสู่ทรามวัยเว้ย..........................พล่ามพ้อศศิพินทุ์วิไล ฯ
...( กลอนโคลง )...
พระจันทร์งามอร่ามแท้แลสคราญ
รัตติกาลฉายฉานผ่านฟ้าสวย
แสงส่องมองกานต์พรรณพร่างละลวย
แลคลายป่วย สลวยหล้าแจ่มจ้าราตรี
อนิจจากระต่ายน้อยคอยเมียงมอง
กว่าจันทร์ผ่องเพียงเลี่ยงล้อเหลือบสี
หลากสรรเคียงคลอกล่าวดาวเด่นดี
มิท้อที่ง้องอนวอนอ้อนเพ็ญ
ศศธร*บ่งซ้องสนองคำ
อาจเอ่ยอำความจำพร่ำเพ้อเห็น
จันทร์งดงามกำหนดใคร่หมายใฝ่เป็น
ชะเง้อเช่นเก้อเห็นเพ็ญเด่นวาม
จำหาญหักรักร้างยังคนึง
กระต่ายหึงหวงถึงจึ่งเย้ยหยาม
หยันหวั่นจิตตรึงติดยิ่งสิงสู่ทราม-
วัยเว้ยพล่ามพ้อศศิพินทุ์วิไล ฯ
2 พฤศจิกายน 2545 22:13 น.
อัลมิตรา
...
....เพียร...พิพากย์วากย์ใว้.................หวังคง- ความเฮย
ร่าง...รจน์เรียงบรรจง........................บ่งแล้ว
สร้าง...สรรค์เสกเฉกพงศ์-.................พิชญ์ท่าน
ฐาน...ผงาดอาจเพริศแพร้ว................พร่างถ้อยเธียรถลึง...ฯ
...*พิพากย์...ตัดสินอรรถคดี...การใช้ปัญญาในการตัดสินเนื้อความ...
...*วากย์...คำพูด.....คล้ายกับ...พากย์......เป็นคำสมาส...คือคำหลายคำมารวมกัน...
...*พิชญ์...คงแก่เรียน...
...*เธียรถลึง...นักปราชญ์จับตามอง...
30 ตุลาคม 2545 13:28 น.
อัลมิตรา
.....สวัสดีกี่ครั้ง.....................ยังหวาน
เวียนแวะและสราญ.............รื่นยิ้ม
พานพบครบสตวาร..............ผันล่วง- โคลงแฮ
เยือนเยี่ยมเตรียมมือจิ้ม.......กดแป้นแทนใจ ฯ
.....กรองคำตามท่านผู้-..........ครูโคลง- กานท์เฮย
ฉอเลาะเพราะจรรโลง...........บ่งใว้
ปราศพิษจิตกลโกง...............โยงเล่ห์- กลนา
เพียงพจน์รจน์เรียงให้.........โลกไร้ใจหมอง ฯ
ไว้เจอกันในงานมิตติ้ง
29 ตุลาคม 2545 22:05 น.
อัลมิตรา
เคยมีคน ร่วมเดิน บังเอิญฟ้า
ได้ส่งมา ข้างกาย หมายกับฝัน
เคยจูงมือ ประคองแนบ แอบอุ่นกัน
ไม่นานวัน ผันผ่าน พาลจากไป
มีบางคน เข้ามา เพียงเห็นหน้า
มีแววตา เชื่อมโยง ให้หลงใหล
ก็ไม่นาน เหลือเรา เขาจากไกล
ไม่มีใคร คนไหน ให้รักจริง
จะมีสัก คนไหม ให้รักแน่
มิผันแปร จากร้าง ห่างไกลหญิง
จะมีใคร ไหมเล่า เฝ้าแอบอิง
ไม่ทอดทิ้ง หรือเพียงเจอ แล้วจากกัน
จะมีไหม บ้างใคร ให้เห็นหน้า
ตื่นขึ้นมา ทุกครั้ง ข้างๆฉัน
ได้เจอหน้า ก่อนใครใคร ในทุกวัน
ที่ร่วมฝัน มีไหม ใครสักคน