17 พฤศจิกายน 2545 16:17 น.
อัลมิตรา
.....วอนนวลควรบ่งแย้ม.........................เฉกจัน- ทราเฮย
ลอยเด่นสกาวพรรณ-.............................เพริศแพร้ว
ปราศหมอกพโยมควัน............................ปักษ์ปก
กระจ่างคคนางค์แคล้ว-...........................เมฆใกล้หมายหมอง ฯ
.....หากไกลหาห่างไร้..............................ไกลกัน นาแม่
หากจิตคิดผูกพันธ์..................................ดุจใกล้
เคียงครองคู่ขับฉันท์...............................โคลงกล่อม กาพย์นา
เสนาะเพราะหมายให้...............................นิ่มน้องหมองคลาย ฯ
.....เกินคำอาจพร่ำพ้อง............................ความนัย แม่เอย
สุดเอ่ยเฉลยใด.......................................อดกลั้น
เพรียกหาใช่เลศนัย.................................หมายหลอก
สุดห่วงดวงจิตนั้น...................................อยู่ใกล้ใจนวล ฯ
.....หลับฝันคืนผ่านพ้น..........................ราตรี แม่เอย
พลันตื่นรื่นฤดี.......................................ชื่นซ้อง
กิจการมั่นสุนทรีย์..................................ปรีด์จิต- เกษมนา
ขอแม่นวลเคียงคล้อง..............................สุขซ้องสราญรมย์ ฯ
17 พฤศจิกายน 2545 16:12 น.
อัลมิตรา
.....มืดสลัวมัวม่านฟ้า..................ราตรี
เพ็ญดับอับแสงศรี......................สลดเศร้า
เพียงแสงแห่งตะเกียงมี..............มาส่อง
อบอุ่นจุนจากเจ้า.........................กระจ่างแจ้งแสดงหน ฯ
.....ชีวิตจึงอย่าร้าง.....................แนวทาง
มืดมิดปานใดยัง.........................สว่างได้
ความหวังหมดเปรียบดัง..............ตะเกียงดับ แสงแล
มีจุดหมายตั้งไว้.........................จึ่งรู้ทางเดิน ฯ
...ต่อด้วยคำสอนของปู่จอมยุทธเมรัย...
ชั่วชีวิตอุปสรรคย่อมมีบ้าง
ทะเลกว้างยังมีที่ตื้นเขิน
ตั้งสติรอเวลากล้าเผชิญ
แล้วจึงเดินหาฝันอย่างมั่นใจ
เมื่อแสงแดดแผดจ้าเริ่มปรากฎ
หมอกที่บดบังทางเริ่มจางใส
เมื่อหนทางทอดยาวให้ก้าวไกล
เมื่อฟ้าใหม่ใสผ่องก็ลองเดิน
17 พฤศจิกายน 2545 15:51 น.
อัลมิตรา
...ย่ำ...เยือนเรือนหยอกเย้า............................ยามคืน
โลก...หลากมากมิตรยืน................................ย่องยิ้ม
ลบ...คราบคร่ำครวญฝืน................................คราวขื่น- ขมนา
รอย...รักจักพราวพริ้ม....................................กริ่มแก้มแซมทรวง ฯ
.....โศก...ศัลย์ผันผ่านพ้น..............................กมลเทอญ
ใน...จิตคิดขวางเขิน......................................ขอดข้อน*
คืน...กลับดับหมางเมิน...................................เพลินเพลิด เถิดนา
สลัว...สลับขยับฟ้อน.......................................อ่อนช้อยพลอยสราญ ฯ
16 พฤศจิกายน 2545 21:57 น.
อัลมิตรา
ยามนิทราคราหลับกับอกพี่
เอื้อนวจีกี่คำที่พร่ำให้
คลายเหน็บหนาวร้าวรานสั่นฤทัย
จะกวัดไกวหมายชื่นระรื่นเคียง
แม้นเสียงนกตกใจให้ไหวหวาด
จงเคลื่อนคลาดปราศน้องพ้องต้องเสียง
สะดุ้งใดไป่ห่างยังมองเมียง
อนงค์เพียงเบี่ยงกายได้นิทรา
จะร่ายรจน์บทใดให้ชื่นจิต
คนึงพิศจิตพ้องคล้องสรรหา
ให้หวานแว่วแนวคำจำนรรจา
กวีพาอย่าหวั่นสะท้านทรวง
จะเคียงเจ้าจนผ่องเรืองรองรุ่ง
สุรีย์พรุ่งรุ่งเช้าพราวแสงสรวง
รัศมีรังสิมันตุ์อันแจ่มดวง
คงโชติช่วงล่วงโศกวิโยคคลาย ฯ
16 พฤศจิกายน 2545 21:51 น.
อัลมิตรา
.....บางไทรไทรซุ้มร่ม......................โศกสยาย
ลมพัดใบกวัดกลาย..........................ยอกย้อน
เปรียบจิตคิดครวญหมาย..................ครองคู่ หทัยเฮย
(กิ่ง)ไทรโยกปานอกซ้อน...................เสียดซ้ำยามถวิล ฯ
.....หัวรอ...ขอย่ำเท้า........................งอแง
ชมตลาดอาจจอแจ...........................อยู่บ้าง
คนมากหากวอแว.............................ฉุกละหุก...?
พันหมื่นเปรียบย่านร้าง....................หากสิ้นนวลเคียง ฯ
.....ขาดความยามเอ่ยเอื้อน................โอษฐ์วจี
สุดพร่ำยามจรลี................................จากร้าง
จักมั่นดั่งพจนีย์.................................ตราบดับ- ขันธ์นา
ขาดแม่ดุจดังคว้าง..............................คร่ำฟ้าครวญดิน ฯ
.....กำสรวลสลดแท้............................นุชนาฏ แม่เอย
พรอดพร่ำลำนำอาจ...........................ร่ำไห้
เดือนดับลับโลกธาตุ...........................คราวรุ่ง สมัยแฮ
ไป่เทียบเปรียบอกไข้..........................จากน้องอนงค์นวล ฯ