25 พฤศจิกายน 2545 22:57 น.

วันเกิดคุณพ่อ

อัลมิตรา

.....กาลผันวสันต์ปี......................ดรณีทิวาวาย 
ราตรีศศีกลาย.............................วระหมายจะย้ายกาล 
ขวบปีมิยั้งหยุด...........................ศิริชุตติม์กี่วาร 
เรื่องรุ่งผดุงนาน.........................ธุระการสราญใจ ฯ 

.....ชื่นช้องสนองจิต.....................อริคิดพิชิตใด 
จงพ่ายสลายไกล.........................รติได้หทัยครอง 
หลับตื่นระรื่นภักดิ์........................ขณะรักประจักษ์ปอง 
อาพาธมิปราถน์ต้อง.....................จิตะคล้องประคองความ ฯ 

.....แฮปปี้นะแด๊ดดี้.......................ดรุณีฉวีวาม 
ฝากฉันท์ ณ วันยาม.....................กวิพร่ำสิร่ำพร 
อีกคนดีนรีน้อง.............................มิคะนองละจ้องงอน 
ยิ้มแย้มอแร่มวอน........................ปิตุตอนสิย้อนยล ฯ 

.....ศรีสุขผละทุกข์ใจ....................มนะได้วิไลดล 
หวังวัฒนาปน..............................สิริล้นกมลเมียง 
กี่ปีสิเคลื่อนกาล...........................สิสราญสนานเคียง 
ฝากฉันท์ประพันธ์เสียง.................กวิเรียงเผดียงกานท์ ฯ				
25 พฤศจิกายน 2545 22:29 น.

นางแอ่นน้อย

อัลมิตรา

 นางแอ่นน้อยลอยบินบนถิ่นฐาน 
สร้างตำนานมิตรภาพซึมซาบเห็น
มากมายหลายผู้คนหลายประเด็น 
บังเกิดเป็น...มิตรภาพ...อาบต่อใย 

ตราบสิ้นฟ้า...มลาย...คำทายทัก 
มากมายนักคำกวีที่ขานไข 
เหมือนหนึ่งบทความรักประจักษ์ใจ 
สานต่อได้...ด้วยมิตร...นิจกาล 

ประดุจดั่งดอกไม้...ไม่ทิ้งต้น 
แม้นถูกค้นจากภมรชอนความหวาน 
ไม่อับเฉามัวหมองหรือจ้องพาล 
ยังคงบาน...เปล่งปลั่ง...อย่างเช่นเคย 

นางแอ่นน้อยลอยบินบนถิ่นฐาน 
ตำนานสานสร้างต่อรอเฉลย 
แสวงหาไมตรีดีดั่งเคย 
เปิดใจเผย...มิตรภาพ...ตราบนิรันดร์ฯ 

  				
25 พฤศจิกายน 2545 08:17 น.

.....น้ำตาแสงใต้ ภาค ๒.....

อัลมิตรา

  
๑. 

.....เคียงคลอขอกล่อมน้อง.......................ยามหนาว 
ก่อนพรากจากนวลคราว...........................รุ่งหล้า 
รำพันหวั่นจิตราว-...................................ชีพปลิด  แม่เอย 
วันพรุ่งอาจมุ่งหน้า..................................สู่ฟ้าสรวงสวรรค์ ฯ 

๒. 

.....เดือนดาวพราวพร่างแท้.....................แลสะคราญ  แม่เอย 
ลอยเด่นเป็นพยาน................................หยั่งรู้ 
แสงส่องผ่องดวงมาลย์...........................ปานจิต-  พี่นา 
จักมั่นตราบชีพทู้*..................................ท่านท้าวมัจจุ-  ราชา ฯ 

๓. 

.....ไออุ่นหนุนแนบเนื้อ...........................นวลลออ 
ภพพรุ่งอาจเกินรอ..................................ยิ่งแล้ว 
เคยชิดสนิทพะนอ..................................พอพลัด-  พรากเฮย 
จักคร่ำครวญยามแคล้ว...........................คลาดเจ้าเยาวมาลย์ ฯ 

๔. 

.....ใครหนอจักกอดเจ้า...........................คราวคืน 
มดไต่ยุงไรหืน*......................................ดื่นใกล้ 
ใครหนอจักหยัดยืน................................ปัดเป่า 
นวลแม่อาจแลไหม้.................................หม่นแล้วเรียมสงวน ฯ 

๕. 

.....อาหารหวานข้าวอุ่น...........................โอชา 
แกงกับสำรับหา.....................................ค่ำเช้า 
อาจบูดดุจอสุภะพา.................................หมองจิต 
หาเทียบเปรียบจวักเจ้า............................แต่งให้ชิมชม ฯ 

๖. 

.....มองเรือนเหมือนรกร้าง.......................เลือนรา-  ศีนอ 
จักเงียบเปรียบพฤกษ์พณา.......................ปราศช้าง 
เตียงตั่งดั่งโหยหา...................................คนนั่ง-  นอนเฮย 
เงียบเชียบเปรียบพี่ร้าง............................ห่างน้องฤาไฉน ฯ 

๗. 

.....นมแมวโมกแก้วยี่-...............................สุ่นไสว 
จักเหี่ยวเหลียวทางใด...............................ไป่แย้ม 
ราตรีทิวาไย............................................ใบหม่น-  หมองนา 
ซ่อนกลิ่นกลับงามแฉล้ม............................ช่อแย้มแซมงาม ฯ 

๘. 

.....รัตติกาลพลันเคลื่อนคล้อย....................ยามเลย-  ล่วงนอ 
ดาวเด่นเดือนเดี่ยวเผย..............................อ่อนล้า 
อาจดับลับมหรรณพ์เปรย..........................เปรียบพี่ 
จำจากดุจโสมหม้า....................................พรากหล้าคราอรุณ ฯ 

๙. 

.....พรุ่งเพรียกจักจากเจ้า.........................เยาวมาลย์  แม่เอย 
ครวญคร่ำวรรณกรรมขาน........................ผ่านถ้อย 
อาลัยบ่ายนงคราญ..................................พลันสลด 
เกินพร่ำคำสรรค์สร้อย.............................เฉกไร้จินตนาการ ฯ 

๑๐. 

.....เกล็ดแกมแวมแห่งไต้..........................กระจ่างตา 
ปานเพ็ชรเกล็ดประภา..............................พร่างแพร้ว 
วับวาวเยี่ยงจันทรา..................................คราเพ่ง-  พิศม์นอ 
แน่แน่วแววคลาดแคล้ว...........................ฟากฟ้าสุราลัย ฯ 

๑๑. 

.....ระทมแสงใต้เรื่อ-...............................เรืองฉาย 
จำห่างดังชีพวาย....................................ดับแล้ 
แสงใต้ดับดุจมลาย.................................ตายจาก-  แม่นา 
มิอาจปราถน์เคียงแม้...............................จิตใกล้อนงค์นวล ฯ 

๑๒. 

.....เคียงคลอรอใต้พล่า...........................เพลิงผลาญ 
พลอดพร่ำรำพันผสาน............................โอบเนื้อ 
น้ำตาดั่งวสันตกาล.................................เยี่ยมโลก 
กานท์กล่อมกาพย์กล่าวเกื้อ.......................เผื่อเจ้าคลายครวญ ฯ 

๑๓. 

.....เสร็จกิจพี่จักย้อน.............................กลับเรือน 
นวลแม่ยามแลเบือน..............................บ่ายหน้า 
ขอชมชื่นเปรียบเสมือน..........................คราวก่อน-  เถิดแม่ 
กายห่างจิตยังคว้า.................................ไขว่เจ้าเคียงใจ ฯ 

๑๔. 

.....ไก่ขันพลันเศร้ายิ่ง............................นุชนาฏ  แม่เอย 
ปานดาบของเพชฌฆาต.........................บั่นแล้ว 
แสนสลดพจน์มิอาจ...............................เรียงร่าย 
ขอกอดหอมก่อนแคล้ว...........................คลาดเจ้าคราวอรุณ ฯ 

๑๕. 

.....เอกชัยหมายจ้ำคัด...........................ชลยาน 
เรือพระที่นั่งทะยาน..............................แหวกน้ำ 
งามเด่นเช่นรัศมิมาน............................โปรดโลก-  ธาตุแฮ 
หมายมุ่งผดุงค้ำ...................................กิจยั้งเกียรติภูมิ ฯ 



หืน ในที่นี้หมายถึง.....นั้นมันเลวทรามต่ำช้ายิ่งนัก...
ทู้.....แปลว่ายอมอยู่ในอำนาจ..				
24 พฤศจิกายน 2545 21:12 น.

คำสัญญา

อัลมิตรา

สุริยา  อ่อนแรง  แสงเพียงน้อย
ประหนึ่งคอย  ล่วงลับ  แลดับหาย
คำสัญญา  เคยให้  เกรงจะวาย
กลัวลับหาย ..คลายเคลื่อน ..เหมือนตะวัน

ขอเพียงคำ  สัญญา  อย่าลาลับ
ไปแล้วกลับ  มาพะนอ  สานต่อฝัน
มาแต่งแต้ม เติมใจ ให้แก่กัน
ร่วมผูกพัน ..มั่นหมาย ..มิคลายคืน

  				
24 พฤศจิกายน 2545 14:45 น.

ผ้าพันคอผืนน้อย

อัลมิตรา

ผ้าพันคอที่คุณให้ผมมา คนดีของผมรู้ไหมครับว่า...
อยู่ข้างกายเสมอเธอรู้ไหม 
ไม่ห่างไกลแม้นเพียงน้อยให้หงอยเหงา 
ได้หยิบยื่นชื่นชมทุกค่ำเช้า 
ผ้าพันคอผืนเก่า...เจ้าให้มา 
ทีละนิดทีละน้อยค่อยค่อยก่อ 
สายใยทอผูกพันอันล้ำค่า
บังเกิดเกื้อกูลจิต...ติดอุรา 
สานเป็นผ้า...พันคอ...ขอพันใจ 

...อบอุ่นนัก...อบอุ่น...ความคุ้นเคย ...เหมือนดั่งเกยตักหนุน...อุ่นไม่หาย 
...แม้นลมหนาวมาเยือนสะท้านกาย ...แต่ภายใน...อบอุ่น...มุนละไม 
...ผ้าพันคอผืนน้อยจะคอยเตือน ...ไม่ลางเลือนลับห่างแม้นทางไกล 
...ถักจากพรมทอด้วยมือสื่อจากใจ ...จะเก็บรักษ์ชิดกาย...ไม่ห่างเลย				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา