5 มกราคม 2546 13:20 น.
อัลมิตรา
.....สายเอย...สายหยุด
สิ้นสุดหอมแล้วฤาไฉน
ไยล่วงพวงโรยโปรยเร็วไว
กลีบใบไยเหี่ยวเหลียวแรมลา
ครั้งบานสคราญงามอร่ามต้น
ชื่นกมลยลชมภิรมย์หา
กลีบเรียวเสี้ยวแซมแย้มงามตา
หลงว่าดรุณน้องผ่องเปรียบเอย ฯ
.....สายเอย...สายหยุด
ผ่องผุดพรรณงามยามเฉลย
กลิ่นหอมดอมดื่นคราคืนเคย
เอื้อนเอ่ยเผยพจน์มิหมดความ
คราวก่อนตอนบานที่ร้านค้าง
เคียงข้างเยาวมาลย์หมั่นคอยถาม
ดอกไหนไยกลิ่นมิสิ้นยาม
ใดงามเลิศล้ำนำมอบเอย ฯ
5 มกราคม 2546 00:01 น.
อัลมิตรา
ทุกทิวาราตรีมีพี่เอื้อน
ดุจคอยเตือนชิดใกล้มิห่างหาย
คอยกล่อมกล่าวราวว่ามาเคียงกาย
ช่วยปัดร้ายเปลื้องปลดให้หมดตรม
ครั้นสุขสันต์พี่นั้นพลันชมชื่น
ยิ้มระรื่นยืนเคียงข้างเพียงสม
มั่นในคำย้ำให้สราญรมย์
ดุจพร่างพรมน้ำใจมาให้กัน
แสนคำนึงถึงพี่ฤดีมั่น
แม้นปีผันเดือนผ่านสมานฉันท์
ขอให้ใจไมตรีนี้นิรันดร์
คำน้องนั้นพลันกล่าวมาเว้าวอน
ยิ้มระรื่นชื่นใจไนคืนค่ำ
ใครกรายกล้ำทำให้ล้าใจอ่อน
เพียรเข้มแข็งแกร่งกล้าทุกคราตอน
แล้วหลับนอนตอนคืนพลันชื่นใจ ฯ
4 มกราคม 2546 22:56 น.
อัลมิตรา
......ศศิมิเคลื่อนคว้าง.......................คลาดมหรรณพ์ แม่เอย
ลอยเด่นพิไลวรรณ..........................หว่างฟ้า
เฉิดฉายแจ่มตระการพรรณ...............เพริศพร่าง
เปรียบนุชนาฏหม้า*.........................ผ่องเพี้ยงเพ็ญงาม ฯ
....หมายจันทร์อันผ่องแพร้ว.............แพรวพราย
ประหนึ่งศศิหมาย...........................ใฝ่จ้อง
ชำเลืองเนื่องรัศมีฉาย......................บรรเจิด
หากแต่จนจิตต้อง...........................ชอกช้ำชมจันทร์ ฯ
หม้า ...สวยงาม
4 มกราคม 2546 13:49 น.
อัลมิตรา
.....สายหยุดสายกลิ่นสิ้น.....................หอมสลาย
สายเสน่หามากมาย.............................ห่างร้าง
กลีบดอกออกเรียงราย.......................สละกลิ่น ฤาแม่
คงหม่นจนมล้าง.................................ร่วงแล้วโรยลา ฯ
.....สายหยุดฉุดเหนี่ยวน้อม..................ถนอมนวล
หากกลิ่นยินยลหวล.............................ห่วงแท้
ดอกโรยโหยกำสรวล...........................โศกสลด
ปราศดอกชอกใจแล้............................หยุดห้อมดอมดม ฯ
4 มกราคม 2546 10:06 น.
อัลมิตรา
กาพย์ฉบัง ๑๖
.....ยกจอกเย้ยฟ้าท้าดิน...........................น้ำตาหลั่งริน
สูญสิ้นยุพินจากไกล
.....มัจจุช่างมุเหลือใจ..............................กลั่นแกล้งแช่งใคร
สาปให้เราเศร้าเหงาทรวง
.....รินเหล้าดวดเข้าลืมลวง.......................ทุกข์รุมสุมห้วง-
จิตห่วงอาลัยเหลือเกิน
.....หัวเราะเยาะฟ้าเขาเขิน........................พรากข้าใยเมิน
ทิ้งให้ร่ำไห้ผู้เดียว ฯ
.....ลมพัดกวัดไกวใจเหี่ยว........................ดวดเหล้าผู้เดียว
สั่นเสียวเหลียวใครไป่มี
.....เพียงหลุมคลุมร่างนารี........................ครวญคร่ำโศกี
ลิ้มซีอิมโอ้จากลา
.....มีดบินถวิลโหยหา...............................ยกจอกสุรา
เพื่อว่ากลัดกลุ้มหายไป
มาเหวยใครเคยช้ำใจ................................มาร่วมวงไว
เมรัยสุราพาเพลิน ฯ