14 มิถุนายน 2553 17:36 น.
อัลมิตรา
๏ ขอเชิญชวนมวลมิตร "จิตอาสา"
ร่วมปรึกษาความคิดเห็นประเด็นใหญ่
เนื่องจากสี่ปีก่อนวกย้อนไป
เราร่วมใจพร้อมพรักและสามัคคี
คนละเล็กละน้อยค่อยสืบสาน
ก่อโครงการเพื่อนพ้องและน้องพี่ ฯ
ปีละหนบนเส้นทางสร้างความดี
ตามวิถีของพ่ออย่างพอเพียง
จวบกระทั่ง.. ครั้งนี้ขึ้นปีห้า
บังเอิญว่ากรุงเทพฯ เกิดเหตุเสี่ยง
จนเป็นเหตุเศรษฐกิจพ่นพิษเคียง
ยากหลีกเลี่ยงหมองมัวทั่วทุกคน
แผนโครงการฯ จึงสะดุดหยุดชะงัก
คราวเพื่อนทักถามไถ่ใจสับสน
เริ่มโครงการฯ อีกครั้งยังกังวล
เกรงส่งผลกระทบใครให้ระแวง
แสนว้าวุ่นเพราะจิตคิดไม่ตก
ประดุจพกเพลิงสุมรุ่มอกแฝง
เพราะบางคนบ่นคดีเคืองสีแดง
ขอเว้นแหล่งอิสานสานสัมพันธ์
"จิตอาสา" กลับกลายคล้ายป่วยไข้
จะจัดการสถานใดเพื่อให้ขวัญ
เป็นมิ่งมิตร "จิตอาสา" มาแบ่งปัน
เหมือนก่อนนั้นก่อนเรื่องการเมืองมา
หรือเปลี่ยนเป็นประเด็นปรับดวงจิต
เพื่อส่งเสริมเติมจริต "จิตอาสา"
ปลูกต้นไม้ในแหล่งแล้งนำพา
สร้างบ้านดินถิ่นพนาอาสาทำ
หรือคิดจะชะลอน้ำตามป่าเขา
ฝายจักกั้นบรรเทาคราวไหลต่ำ
น้ำเรื่อยรินดินสมบูรณ์เกื้อกูลนำ
สมค่าคำสุวรรณภูมิภาคภูมิใจ
วอนมิ่งมิตร "จิตอาสา" มาส่งสาส์น
ดำเนินการลงความเห็นประเด็นใหญ่
โดยชัดเจนแจ่มแจ้งยามแถลงนัย
ด้วยเงื่อนไขของความคิด "จิตอาสา" ๚ะ๛
31 พฤษภาคม 2553 20:17 น.
อัลมิตรา
.
๏ เธอเล่าความโศกศัลย์หวังฉันรู้
ทุกเป็นอยู่เฝ้ารำพันเผื่อฉันเห็น
หนึ่งชีวิตวุ่นวายหลายประเด็น
ตัวอย่างเช่นเรื่อง "เขา" เธอเล่ามา
ทุกทุกวันข้อความเขาตามส่ง
คล้ายเจาะจงเอาใจใส่เสน่หา
"คิดถึงมากฝากเพลงบรรเลงมา"
"ร่ายบทกลอนอ้อนหาคราคำนึง"
ช่างลึกล้ำ-ล้ำลึก-เกินนึกคิด
เขาปกปิดภูมิลำเนายากเข้าถึง
แต่เธอเผยชัดแจ้งหลักแหล่งตรึง
แตกต่างซึ่งอุปนิสัยในตัวตน
ฟังเธอเล่าเรื่องราวพอเข้าใจ
แต่คงไม่สืบเลศหาเหตุผล
เขาจะจริงใจไหมหรือใส่กล ?
ป่วยการค้นต้นตอข้อเท็จจริง
ยังคงฟังเรื่อยเรื่อยไม่เมื่อยหู
เพียงรับรู้เรื่องยุ่งปราศสุงสิง
ไม่เคยขัดสักช่วงหรือท้วงติง
เงียบงันยิ่งประหนึ่งซาบซึ้งใจ
เขาคนนั้น .. ฉันไกลไม่ข้องเกี่ยว
พอวกเหลียวเหตุการณ์พาลสงสัย
จริงหรือที่ถ้อยความพร่ำเพ้อนัย
เขามอบให้จากจิตคิดเพียงเธอ ๚ะ๛
เกริ่นเรื่อง :
ทุกถ้อยอักษรที่เลือกหยิบมาประสมจนกลายเป็นกลอนชุดนี้
เกิดจากการกลั่นความคิดหลังจากได้รับฟังคำปรึกษาจากคนหนึ่ง
เธอ .. ผู้ซึ่งอัลมิตราไม่สามารถเอ่ยปากบอกได้ว่า คุ้นเคยมาแต่นาน
เขา .. ผู้ซึ่งอัลมิตรายิ่งไม่อาจขัดต่อข้อตกลงเผยตัวตนได้ว่า คือใคร
จากการที่ถูกวางตำแหน่งให้เป็น "ที่ปรึกษา"
มันเป็นสภาพที่ทำให้อัลมิตรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก น้ำท่วมปาก
จึงได้แต่นั่งนิ่ง รับฟังไปเรื่อย ๆ ไม่กล้าแม้แต่กระทั่งออกความคิดเห็น
ล้นทะลักกับความรู้สึก จนต้องเขียนกลอนระบายออกมาบ้าง
อย่างน้อย อัลมิตราก็พบข้อสรุปที่ตนเองต้องยอมรับอย่างศิโรราบ
เพราะที่นี่คือ "โลกอินเตอร์เน็ต" สถานที่ซึ่งประกอบไปด้วยจริง/เท็จ
เช่นเดียวกับโลกจริงที่อัลมิตรายืนเหยียบอยู่ทุกวี่ทุกวัน .
สุดท้ายกับคำว่า "มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า"
14 พฤษภาคม 2553 09:08 น.
อัลมิตรา
๏ อากาศร้อนตอนนี้มีแต่เครียด
ชักขี้เกียจทำงานพาลเบื่อหน่าย
อยากหลบร้อนนอนเย็นเว้นวุ่นวาย
กรุงเทพฯ ร้ายเรื่องม็อบไม่ชอบเลย
เที่ยวทะเลเร่ร่อนนอนบ้านสวน
ปะเหมาะชวนก๊วนลิงเจ๋งจริงเหวย
สัปดาห์หน้ารวมพลคนคุ้นเคย
พรรคพวกเว้ย ! ไปกัน "จันทบุรี"
จะชวนบุกบ้านสวนชวนท่องป่า
ยี่สิบสองเสาร์หน้าหอบผ้าหนี
เที่ยวน้ำตกโตรกกระทิงอิงวารี
ข้าวปลามีรับรองไม่ต้องกลัว
หากใครใคร่สมัครใจไปร่วมแก๊งค์
หรือปลอมแปลงไปประสมชมรมมั่ว
หรือใครใคร่คบฉันหมายพันพัว
แม้นว่าชัวร์อย่าช้ามาเจอกัน
ยี่สิบสองพฤษภาจักพาเที่ยว
ใครโดดเดี่ยวอกหักเชิญพักขวัญ
ใครโศกเศร้าเสียใจไห้จาบัลย์
วางทุกข์พลันแล้วเที่ยวเดี๋ยวดีเอง
เที่ยวบ้านสวนชวนชมชิมผลไม้
ร้อยกว่าไร่ไม้บรรทัดวัดเหมาะเหม็ง
"สวนมุกดา" ดาษผลคนครื้นเครง
ฟังเสียงเพลงกล่อมไพรใต้เดือนดาว
เปิดประเด็นเป็นทางการ ณ บ้านกลอนฯ
เชิญหลบร้อนปลดเปลื้องเรื่องอื้อฉาว
เลี่ยงการเมืองเรื่องระอุคุบางคราว
เชิญเจี๊ยวจ๊าวสนุกสนานสำราญใจ
มัดมือชกหกนาฬิกามาตามนัด
ทริปเร่งรัดเฉพาะกิจติดนิสัย
สายเดินป่าหากหย่อนอาจร้อนไป
ยามเย็นได้ล้อมวงชงน้ำชา
ออกแต่เช้าสักนิดโปรดคิดตาม
ขับรถข้ามทางด่วนล้วนเร็วกว่า
ถึงเส้นทาง "มอเตอร์เวย์" เร่นัดมา
ก่อนบ่ายหน้าพร้อมเพรียงขับเคียงกัน
เข้าเส้นทางบางประกงไม่งงแน่
ชายตาแล" หนองปรือ" ชื่อขบขัน
ขับตรงตรงเรื่อยไปหมายเมืองจันทน์
ถึง "แยกเขาไร่ยา"นั้นให้หันซ้าย
(เข้าทางหลวงหมายเลข ๓๒๔๙ ไปเขาคิชกูฎ)
พบเส้นทางคดเคี้ยวลัดเลี้ยวเลาะ
ขับเหยาะเหยาะตาเขม็งเล็งจุดหมาย
ผ่านสะพาน "บ้านกระทิง" ทิ้งชื่อควาย
แดดเริ่มพรายส่องสาด "ราชมงคล"
ไปเรื่อยเรื่อยราวสามสี่กิโลเมตร
ให้สังเกตุ "คลองกระสือ" ถือเป็นผล
"กระสือน้อย" คอยท่าท้าให้ผจญ
ควรร่ายมนตร์ก่อนกล้าเลี้ยวขวามือ
ผ่านซอย ๖ วกจ้อง "วัดคลองไพบูลย์"
สองมือทูนประนมไหว้ใจนับถือ
สู่เส้นทาง "ตะเคียนทอง" ต้องตาปรือ
เบื้องหน้าคือปลายทางราดยางรอ (เข้า ซอย ๗)
กิโลเดียวถนนยางช่างดีแท้
นอกนั้นแย่ฝุ่นกระจายขายหน้าหนอ
โค้งอีกสองศอกหักชักเมื่อยคอ
อย่าหน้างอหน้าบึ้งเพราะถึงแล้ว ๚ะ๛