28 มีนาคม 2546 16:04 น.
อัลมิตรา
อิทิสังฉันท์..
.....โอ้วิสัยมนุษย์มิสุดมิสิ้น
แสดงนิทัศน์ประกาส ณ จินต์...........อภิญญ์ความ
.....ช่างเสมือนมล้างระหว่างประณาม
เขม่นขมีขมันคะคร้าม.....................และย่ำยี
.....โอ้ไฉนมิใคร่ประสานฤดี
สมัครสมานเสมือนนที.....................พิสุทธิ์ใส
.....ร่วมประพันธ์กวีฉะนี้วิไล
ผสานพิทักษ์บุราณมิให้...................มลายลง
.....เหตุไฉนอุราขณะทะนง
ประจักษ์ประจานและผลาญกระชง......พ วงกัน
.....แสนเฉลียวฉลาดพิลาสกระนั้น
อนงค์ประสงค์เผดียง ณ ฉันท์...........สราญรมย์
.....คลายกระฟัดกระเฟียดระทวยระทม
เฉลิมฉลองสนองนิยม......................วิกรมพจน์
.....สาธยายกวีนิพนธ์ ณ บท
หทัยกระยิ้มกระย่องประณต..............มโนชญ์เทอญ
28 มีนาคม 2546 13:38 น.
อัลมิตรา
...จันทร์คืนแรม
...วับแวมอยู่บนปลายฟ้า
...คงล้าอ่อนแรง ทอแสงแหว่งเว้าครึ่งดวง
...คืนเหงามันเศร้ามันซึมในทรวง
...จันทร์เพียงครึ่งดวง คล้ายจันทร์เจ้ารอใคร
...จันทร์คืนแรม
...วับแวมมีเพียงครึ่งใบ
...คงดังกับใจ ฉันที่มีเพียงครึ่งดวง
...คอยรักที่จะเติมเต็มในทรวง
...โอ้ใจครึ่งดวง เฝ้ารอมาเนิ่นนาน
...จันทร์เอ๋ยจันทร์ที่ลอยเด่นฟ้า
...จะมีน้ำตาหลั่งมาเหมือนฉันบ้างไหม
...ความรักมันช่างห่างไกลแสนไกล
...ไม่รู้วันไหน หัวใจถึงจะเต็มดวง
...คงมีวันที่จันทร์เจ้าจะเต็มใบ
...แต่ว่าหัวใจ ฉันจะมีไหมวันนั้น
...ฤา รักฉันจะเป็นเพียงความฝัน
...ไม่มีวันนั้นวันที่ใจเต็มดวง
...ฤารักฉันจะเป็นเพียงความฝัน ...
...ไม่มีวันนั้น วันที่ใจเต็มดวง ...
+.*~*+::~..*~**~* ..**~.+*~*+.
คืนเดือนแรมแวมวับเดือนดับหาย
ดาวพร่างพรายวาวแววคลาดแคล้วหลง
หลบเหลื่อมฟ้าราตรีฤดีปลง
จิตน้องคงลาลับกับเดือนดาว
ทอแสงอ่อนสะท้อนว่าอุราน้อง
คงลอยล่องตามแสงแห่งห้วงหาว
สิ้นราศีฉวีผ่องละอองดาว
คร่ำครวญคราวเดือนดับลอยลับตา
จัทร์ข้างแรมแกมหมองลมล่องเรื่อย
พัดเอื่อยเอื่อยเทียบใจคงคล้ายว่า
เหลือเพียงเสี้ยวเศษน้อยคลาดคล้อยลา
โอ้ใจข้า..ไฉนพ้องเช่นผองดาว
จันทร์เอ๋ยจันทร์วันแรมแซมซ่อนโศก
จิตวิโยคอกหวั่นรำพันหนาว
น้ำตารินไหลร่วงทวงถามดาว
อีกกี่คราวราตรีเดือนจะเหมือนเดิม
โสมสะคราญพรรณรายชม้ายหมาย
จักผ่อนคลายฤทัยหม่นกมลเสริม
ยังใฝ่ฝันวันคืนระรื่นเดิม
ใครจะเติมแต่งต่อคลายท้อใจ
26 มีนาคม 2546 09:23 น.
อัลมิตรา
กลบท... ตรีประดับ
ท่านเจ้าขาข่าข้าปลูกหน้าขนำ
คนระยำย่ำย้ำจนหักป่นปี้
แต่ฟองฟ่องฟ้องว่าปลาหมอมี
จับตานี่ได้เพราะแกแก่แก้ตัว
เทียบราคาค่าค้าขายขอไหมปรับ
ตอนไปจับก็โดนเขาเข่าเข้าหัว
โทษเรียงรายร่ายร้ายนั้นมันไม่กลัว
มันชั้วชั่วชัวร์ค่ะท่านประหารเลย
ขอเชิญเพื่อนๆสมาชิกบ้านกลอนไทย ลองกลอนกลบทนี้นะคะ
สามัญ- เอก- โท ไล่เรียงกันในแต่ละวรรค
ใครจะเล่นย้อนทางก็ได้นะคะ .. ไม่จำกัดจำนวนบทค่ะ
25 มีนาคม 2546 23:27 น.
อัลมิตรา
..ห่าง..กันพลันเหือดแห้ง..............อันตรธาน
กันย์..แม่สรวลสราญ....................ยิ่งแล้ว
สาม..ศกศักราชกาล.....................เป็นอื่น ฤาแม่
ปี..เปลี่ยนเปรียบแม่แคล้ว............จากให้ใจหมอง ฯ
...นา..นาทัศน์อาจพ้อง..................แผนกันย์ แม่เอย
ลี...ลาศอาจขมำพลัน.....................หม่นไข้
เป็น..ไปหน่ายแหนงกัน...............ลืมสวาท ฤาแม่
อื่น...อาจปราศจิตใกล้...................นิ่มน้องไยเหมือน ฯ
25 มีนาคม 2546 10:01 น.
อัลมิตรา
บนเส้นทางสร้างสรรค์วรรณศิลป์
มิสูญสิ้นแนวทางการสร้างสรรค์
ใช่เพียงแค่ถ้อยคำคอยรำพัน
แต่ควรกลั่นจากห้วงของดวงใจ
คำนึงต่อข้อความต้องงามสวย
วางเรื่องช่วยเรียงงานก่อนขานไข
พึงสำรวจตรวจสอบรอบด้านไป
ธำรงไว้รูปลักษณ์หลักวิชา
ทั้งสัมผัสจัดส่งตรงจริต
ร่ายลิลิตโคลงฉันท์หมั่นศึกษา
กาพย์กลอนกลบทพจนา
ให้สมค่าควรชมนิยมจริง
ฉันทลักษณ์หลักการในงานศิลป์
ประทับจินต์เจตนามีค่ายิ่ง
เป็นรากฐานแนวทางไว้อ้างอิง
โดยไม่ทิ้งครรลองลืมของไทย
ขอเพียงคิดนิดหนึ่งแล้วพึงสร้าง
ว่าเกิดอย่างมีค่าดีกว่าไหม
เพื่อภาพพจน์งดงามติดตามไป
จักทุ่มใจในจารการประพันธ์
มอบแก่นสารผ่านธรรมนำชีวิต
มอบความคิดไกลกว้างอย่างสร้างสรรค์
มอบความจริงสิ่งสร้างต่างกำนัล
ให้วงวรรณสดสวยเกิดด้วยใจ.