26 พฤษภาคม 2552 23:15 น.
อักษราสังคีตนิติ์
สีซ้ำเสนาะโสตซ้ำ สามสาย
ช่วงชักชเวงชาย แช่มช้อย
พะพริ้วพะพลิกพราย พราวเพริศ
ล้ำเลิศราวเรียงร้อย รับร้องลีลา
ระนาดรัวราวรวดร้าว ถี่ถ้วน
กรอสะบัดขยี้กระบวน สะเดาะข้ำ
กังวานโสตรัวล้วน เป็นเอก
โผนโลดโดดเด่นล้ำ เพื่อนพ้องชาววง
ือู้นุ่มต่ำลึกทุ้ม โศกเศร้า
ซอเสียดเสมือนเรา ยิ่งล้า
สะอึกสะอื้นเคล้า ครวญคร่ำ
บรรเลงร้อยเชื่องช้า ่โอดให้จิตตรม
คอยคละคลอคู่เคล้า ขลุ่ยครวญ
นวลนุ่มทำนองยวน สอดสร้อย
หะโหยแหบให้หวน หลบต่ำ
สอดพลิกพลิ้วชดช้อย ยั่วเย้ามารยา
ด้วงออดเอียดเบียดกร้าว ถี่แหลม
สูงสอดเสียดสีแซม สุดสู้
ห้าวแหบแสบใสแกม รับสอด
ร่ายท่วงทำนองรู้ สอดคล้องพันกัน
กรกระกรายกรีดแก้ว กลั้วเสียง
กรกดจะเข้เรียง สนั่นก้อง
กรหนึ่งเสกสร้างเสียง ไม้ผูก ดีดนา
เสนาะโสดยิ่งสรรซ้อง ถี่แล้วกระทบพรึง
ทิงเนงเนงเท่งเท้ง ทุ้มใส
ห่างห่างระวางไป แม่นล้วน
ฆ้องวงดั่งหลักชัย คือแก่น
ประเลงท่วงทำนองถ้วน แต่แท้เพลงไทย