28 พฤษภาคม 2550 19:45 น.
ออกญาลับแล
คืนโสมส่องแสงสางสว่างหล้า
แสงจันทราทอประกายฉายรังสี
หมู่เมฆาโบกหัตถ์สวัสดี
ล้อมคีรีเรี่ยบรรพตดูงดงาม
ดาวระยิบระยับประดับฟ้า
เกลื่อนเวหารายเทเวษทั่วเขตขาม
ถักทอแสงอำไพในฟ้าคราม
ยลในยามราตรีที่เงียบงัน
เงียบสงัดไร้เสียงหรีดเจื้อยแจ้ว
มองทิวแถวแมกไม้ในไพรสันต์
สงบเงียบดังต้องมนต์แสงจันทร์
เมื่อไหร่กันสุริยันต์จะมาเยือน
ทอดถอนจิตคิดถึงเจ้าเหงาเหว่ว้า
เปลี่ยวเอกาเดียวดายใครจะเหมือน
นั่งชมฟ้าชมดาราชมดวงเดือน
ยิ่งตอกเตือนตรึงจิตคิดระทม
ฝากแถงแปลภาษาวาจาพี่
ให้น้องนี้รู้ว่าพี่ขื่นขม
ฝากกุดั่นที่ลอยคว้างให้เจ้าชม
ฝากสายลมไปห่มเจ้าเฝ้าข้างกาย
ฝากหมู่เมฆกระซิบว่าข้าคิดถึง
และอนึ่งความรักไม่เหือดหาย
จะเฝ้ารอรอเจ้าจนวางวาย
แม้นมลายก็จะรอเจ้าหวนมา
ติชมบทกลอนกันด้วยนะครับแล้วคราวหน้าจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ครับ
27 พฤษภาคม 2550 18:39 น.
ออกญาลับแล
ภัยเอยภัยจากน้ำ นองดิน
ไหลหลั่งรดธรนินทร์ ถิ่นนี้
พลัดพรากจากชีวิน สุดชีพ สูญนา
ดั่งธรรมชาติชี้ แก่นแท้สัจธรรม
ชลเอยชลเนตรน้ำ นองเนือง
เสียงคร่ำครวญหวนเมือง ร่ำไห้
หทัยไทยหลั่งไหลเรือง ลงซับ สลดเฮย
อีกไม่นานจักได้ รุ่งด้าวดังเดิม
แด่ผู้ประสบอุทกภัยทุกที่เลยครับขอให้มีกำลังใจสู้ๆหน้าผนทุกปีก็มีคนเศร้าทุกปีคนไทยต้องช่วยกัน
ช่วยคอมเมนต์ด้วยนะครับเพิ่งหัดแต่งโคลง
27 พฤษภาคม 2550 13:38 น.
ออกญาลับแล
งามสวรรค์ชั้นฟ้าน่าเพ่งพิศ
ชั้นดุสิตฤาชั้นใดให้ไหลหลง
บานทวารลานแลพิจิตรบรรจง
เทพธิดามาอ่าองค์ทรงสคราญ
งามดวงพักตร์ขนงเนตรทั้งเกศเกล้า
ดูพริ้มเพราเพริศแพร้วเกินกล่าวขาน
เอวองค์อ่อนยามนวยนาตรบาดดวงมาลย์
สุดเปรียบปรานกับงามใดในธานี
เทพบุตรเทวาเทพารักษ์
แลดวงพักตร์เฉิดฉายพรายรังสี
ประกายเนตรคลับคล้ายประกายมณี
สง่าศรีเหมาะสมกับสุรางค์
commentกันด้วยนะครับไม่เพระแต่อยากแต่งครับ
26 พฤษภาคม 2550 19:27 น.
ออกญาลับแล
ใจสองใจเชื่อมโยงด้วยใยรัก
ที่ทอถักรักประสานรสหวานหอม
ใยเชื่อมใยเชื่อมใจไม่แปลกปลอม
ชมพูย้อมเป็นสีใยในใจเรา
เมื่อวันเปลี่ยนแปรไปใยเริ่มขาด
ใจถูกบาดเชือดเฉือนด้วยมือเขา
พิษแห่งรักถูกลอบวางกลางใจเรา
สุดแสนเศร้าเมื่อพิษแทรกชำแรกใจ
ติชมด้วยนะครับเพิ่งหัดแต่ง
25 พฤษภาคม 2550 20:23 น.
ออกญาลับแล
พิรุณพรมพร่างโพรยให้โหยหา
พระพายพาพัดโบกชวนโศกศัลย์
คืนมืดมิดไร้อ้อมกอดแห่งแสงจันทร์
ใจฉันหวั่นนึกถึงเธอเพ้อร่ำไป