15 กรกฎาคม 2553 01:52 น.

รักของฉัน?

ออกญาลับแล

รักของฉันมันยาวหรือว่าสั้น
เส้นขีดกั้นนั้นบางหรือทึบหนา
พรหมลิขิตใหญ่หรือเล็กสุดคณา
รักที่ว่ามันมีจริงหรือสิ่งลวง


กลัวการเริ่มต้นกับรักครั้งใทม่ เพราะเกรงจะเจ็บเหมือนกับรักแบบเก่าๆ
ไม่แน่ใจว่าเขาจะจริงใจกับเราไหม ปวดหัวครับ หาทางระบายทางอักษร				
4 สิงหาคม 2552 00:55 น.

แต่งงานประจานตน

ออกญาลับแล

งานแต่งงานผลาญทรัพย์อัปยศ
เงินสิ้นหมดทองหายมลายสูญ
เกียรติก่อเกิดพร้อมหนี้สินที่พอกพูน
ทวีคูณความสิ้นเปลืองให้เลื่องลือ

ขันหมากแห่แหล่ร้องทำนองรัก
แจ้งประจักษ์หลักประกันอันเชื่อถือ
ทรัพย์สินสอดแสดงไว้ให้ระบือ
ทองเต็มมือเงินเต็มพานตระกาลตา

ร้อยโต๊ะจีนจัดไว้เอาใจแขก
ร่วมกินแหลกแดกไม่หยุดสุดหรรษา
กินทิ้งขว้างทั้งไก่เห็ดเป็ดหมูปลา
เหล้านั้นหนาเหน็บกลับบ้านสราญรมย์

ณ งานหนึ่งซึ่งใช้เงินจนเพลินหมด
กำซาบซดทรัพย์สินอย่างสุขสม
บนผืนหล้ายังขาดไร้ความอุดม
แก่ฝูงชนให้ชื่นชมถ้วนทั่วกัน

เมื่อเสร็จงานสร้างสิ่งใดเอาไว้หรือ
หวังสร้างชื่อฤาเกียรติให้เฉิดฉันท์
ทรัพย์ละลายหายไปเพียงข้ามวัน
ควรหรือนั่นจะจัดงานประจานตน

กลอนแข็งๆจากคนเฉิ่มๆครับ กลับมาเยี่ยมบ้านกลอนหลังไม่ได้เอากลอนลงมานาน คิดถึง
เพื่อนๆในบ้านทุกคนเลยครับ ><

มิได้คัดสรรคำอันล้ำเลิศ
มิได้เพริศพริ้งเพราะเสนาะหู
มิได้หวังเทียบชั้นบรมครู
เพียงหวังชูเชิดเชลงชโลมใจ				
30 พฤศจิกายน 2551 01:45 น.

เล่านิทานให้เพื่อนฟัง

ออกญาลับแล

เป็นกลอนที่แต่งลงวารสารเม็ดเลือดแดง คณะรัฐศาสตร์ฉบับที่10ครับนานแล้วเลยลองเอาลงให้เพื่อนๆอ่านเล่น


กาลครั้งหนึ่งเนิ่นนานนานมาแล้ว
มีเมืองแก้วแพรวเพริศพิสุทธิ์ใส
ชื่อว่ารัฐสยามาธิปไตย
เป็นเขตแคว้นแดนใหญ่ในแหลมทอง

ในอดีตนพปฎลล้นปกหล้า
เหล่าอำมาตเสนาข้าสนอง
ล้วนเป็นใหญ่กินตำแหน่งในกรมกอง
เป็นเจ้าของครองรัฐกันชนชั้นเดียว

ประชาชนคนชั้นล่างต่างถูกย่ำ
ถูกกระทำเช่นไรใช่แลเหลียว
พวกขุนนางแดกงบชาติฉลาดเชียว
เจ้าขอเอี่ยวแบ่งเปอร์เซ็นเป็นกำไร

เกิดทุรยศกลียุคทุกหย่อมหญ้า
จะให้ปวงประชาทำฉไน
จึงได้เกิดผู้มีจิตคิดการไกล
คิดการใหญ่ล้มขุนนางทรชน

คนเหล่านั้นเรียกตนว่าคณารัฐ
ปฏิวัติล้มชนคนฉ้อฉล
เลิกสมบูรณาสามาญอันมืดมน	
ให้ปวงชนอยู่ใต้รัฐประชาธิปไตย

ให้สิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค		
คนหมู่มากในรัฐยังสงสัย
ยังไม่คุ้น ไม่เคย ไม่เข้าใจ
 จึงไม่ใช้สิทธิตนตามที่มี

แม้จะมีธรรมนูญปกครองรัฐ
 มิขจัดพวกสูงยศสูงศักดิ์ศรี
มีสภาก็สภาของผู้ดี				
ประชาธิปไตยย่ำกับที่ไม่ก้าวเดิน

เกิดทหารรัฐประหารทำหาญกล้า
สั่งบูชา สั่งเทิดทูน สั่งสรรเสริญ
โดยผู้นำ เหล่าจอมพล ทำเชื้อเชิญ		
ต่างเพลิดเพลินในอำนาจความเกรียงไกร	

ด้วยยุคมืดทางทหารผลาญเผาชาติ
ชนมุ่งมาดมั่นจิตคิดแก้ไข
วันที่14 ตุลาเรียกคืนอธิปไตย
ชีพสูญเสียครั้งใหญ่จึงได้มา
	
ได้อำนาจของประชาคืนมาแล้ว
ยังไม่แคล้วโดนขโมยไปต่อหน้า
ปืน รถถัง สีเขียว  ดูลายตา
อ้างอาสาขจัดภัยให้ราษฎร


ลศช.  อ้างวิกฤติยึดอำนาจ
วงจรอุบาติ ย้อนมาสร้าง อุทาหรณ์
ตระบัติสัด ขัดสัญญา สันดานมอญ
ประชากรเกิดเลือดล้างพสุธา
	
ชนร่วมใจร่วมสู้ร่วมกู่ก้อง
ร่วมฉลองเลือดโชลมโซมรัฐฐา
ร่วมเรียกร้องอธิปไตยให้คืนมา
ร่วมรักษาอธิปัตย์อยู่คู่เมืองแมน
	
ส่งผลให้รัฐสยามาได้มีสุข
รุกเร่งปลุกสำนึกความหวงแหน
พยายามใช้ประชาธิปไตยให้ทั่วแดน
ทั่วทั้งแคว้นทุกผืนดินสิ้นทุกข์ภัย
	
ความสงบ อยู่ได้เพียงชั่วครู่
ถึงแม้รู้รักษ์อธิปไตยสักแค่ไหน
ร่วมรักษาสิทธิ เสรี ทุกถิ่นไป
จนหมู่มารจัญไรมาครองเมือง

มันกอบโกยโกงกินสิ้นทั้งชาติ
ใช้อำนาจก้าวก่ายไปทุกเรื่อง
มันทุ่มเงินฟาดหัวไม่กลัวเปลือง
ปวงประชาหน้าเหลืองไปตามกัน

ทั้งข้าวของแสนแพงค่าแรงตก
มันหยิบยกยักย้ายตามใจฉัน
ทั้งจาบจ้วงล่วงฟ้าสารพัน
ภาษีเราทั้งนั้นที่มันกิน

มันคิดขายแผ่นดินให้ต่างด้าว
ย้อมจากดำเป็นขาวจนหมดสิ้น
จะมีสักกี่คนที่ยลยิน
ว่ามันกินชาติไปถึงไหนกัน

เรื่องมันเกิดเพราะว่านายกเหลี่ยม
หน้าเหี้ย(ม)เหี้ย(ม)ชื่ออุดรมันกระสัน
อยากจะได้แผ่นดินเป็นของมัน
สุดท้ายฝันสลายกลายทันที

19 กันยาหน้าเหลี่ยมโค่น
เขียวหัวโขนยกทัพมา ผวาหนี
รัฐประหารย้อนวงจรกันอีกที
ประชาชีสยามาธิปไตยไม่ถูกกลืน

ถึงมันออกโดนซักฟอกอย่างหน่วงหนัก
แม้เสียหลัก ยังตั้งจิตคิดขัดขืน
ตัวของมัน ไร้แผ่นดินเป็นถิ่นยืน
พวกก็ถูกกลบกลืนยุบพรรคลง
	
ถึงกระนั้นมันยังตั้งตุ๊กตาเชิด
ชื่อสมัย สุนทรเลิศ ตามประสงค์
ลงสมัคร เลือกนายกเป็นร่างทรง
หวังดำรง ยศฐานะ เพื่อกลับมา

บุญหรือบาปสาปแช่งให้หลงผิด
อุดรได้ ดังที่คิด จิตหรรษา
พอกลับบ้าน ก็กราบพื้น ฟื้นมารยา
มันกลับมาบงการร่างทรงมัน
	
ไอ้สมัยก็ใช่ย่อยคอยจ้องแดก
ซ่อน ซุก แทรก ทรัพย์สิน สิ่งกระสัน
ข้าว น้ำมัน  และสินค้า สารพัน
มันแดกกันอิ่มอร่อย ค่อยแบ่งนาย
	
มันจะแก้ธรรมนูญสูญอำนาจ
สีเหลืองปราด ลุกฮือ มึงอย่าหมาย
กองทัพกรรม ออกต่อต้านต่างกระจาย
เรียนสหายรวมชุมนุม สุมที่สะพาน

ไอ้สมัยเห็นไม่ไหวเลยสั่งถอย
มิฉะนั้น ไอ้สนถ่อย จะหักหาญ
สมัยถอยไม่สุดซอยตามสันดาน
ไอ้สนถ่อยเลยกล่าวขานอ้างชอบธรรม

ไอ้สนถ่อยอ้างสีเหลืองเรืองธรรมะ
กล่าววาทะเงื่อนเพิ่มเติมช่างหน้าขำ
ไอ้สมัยจงออกไปไอ้ระยำ
ฉันจะทำแกไร้สุขทุกข์ชีวา
	
การชุมนุมลุกลามตามถนน
ประชาชนวุ่นวายหน่ายหนักหนา
มันแบ่งสี แบ่งฝักฝ่าย แบ่งพารา
ทำมูลค่าเศรษฐกิจติดลบลง
	
ฝ่ายสมัยสีแดงก็แรงฤทธิ์
อ้างในสิทธิเขาเลือกมา ข้าคือหงส์
กองทัพกรรม สีเหลือง จงปลดปลง
ข้าจะส่ง กำลังไป สลายแก
	
ฝ่ายสีขาวออกมาว่าข้าขอ
ทำอ้อล้อสร้างตนสร้างกระแส
ขาวออกมาบอกสองสีอย่าตอแย
แต่ทางแก้ เสือกไม่บอก หลอกให้งง
	
คนชั้นดีมีปัญญาเห็นหน้าเบื่อ
หากว่าเชื่อสีไหนไปคงพาหลง
เอาปัญญาตั้งสติหาทางลง
คงจะส่งรัฐไปให้เจริญ
	
จบนิทานที่เล่าแล้วเพื่อนแก้วเอ๋ย
จงอย่าเฉยฟังนิทานอย่างผิวเผิน
ถึงจะเป็นนิทานฟังเพลิดเพลิน
แต่สักวันอาจเผชิญกับเรื่องจริง



นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งสิ้น  ชื่อตัวละคร สถานที่ เมือง ล้วนสมมุติขึ้นมาไม่ได้มีเจตนา พาดพึงถึงผู้ใด
ข้าพเจ้าแต่งกลอนด้วยความด้อยประสบการณ์หากผิดพลาดประกาลใดขอ อภัย ณ ที่นี้ด้วย

มิได้คัดสรรคำอันล้ำเลศ
มิได้เพริศพริ้งเพราะเสนาะหู
มิได้หวังเทียบชั้นบรมครู
เพียงหวังชูเชิดเชลงโชลมใจ

ออกญาลับแล ประพันธ์				
10 ตุลาคม 2550 11:55 น.

ครบรอบรักร้าง

ออกญาลับแล


ครบรอบปีหนึ่งแล้ว      ไกลกัน
เหตุว่าเธอหนีฉัน         หลบลี้
ถึงผันผ่านคืนวัน          กาลล่วง  มานาน
ใจไป่ลืมเธอนี้               ตราบฟ้าดินสลาย

เหตุไฉนจึงหักล้าง         ไมตรี
ใยไม่แถลงวจี               กล่าวอ้าง
ทำไมจึ่งรีบจรรี              มิล่ำ  ลากัน
หนีห่างลับแรมร้าง         ทอดทิ้งฉันไป

ภาพเธอขอเก็บไว้          ตลอดไป
ถึงอยู่ไกลแสนไกล         เหว่ว้า
จะเป็นหนึ่งในฤทัย        ทุกช่วง  ชีวัน
หวังแค่เพียงเห็นหน้า    อีกครั้งก็พอ

อาจเป็นโคลงสี่ที่ไม่ได้ไพเราะอะไรเลยนะครับเพราะเพียงแต่งระบายอามณ์เศร้าในวันพิเศษของผมเอง

มิได้คัดสรรคำอันล้ำเลิศ
มิได้เพริศพริ้งเพราะเสนาะหู
มิได้หวังเทียบชั้นบรมครู
เพียงหวังชูเชิดเชลงชโลมใจ

ขอบคุรที่สละเวลามาอ่านครับ				
4 ตุลาคม 2550 10:37 น.

ใครไม่เคย

ออกญาลับแล

ใครไม่เคยลิ้มรสรักหรือจะรู้
ใครไม่เคยมีคู่จะรู้ไหม
ใครไม่เคยพลัดพรากยากเข้าใจ
ใครไม่เคยรักใครใจเย็นชา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟออกญาลับแล
Lovings  ออกญาลับแล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟออกญาลับแล
Lovings  ออกญาลับแล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟออกญาลับแล
Lovings  ออกญาลับแล เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงออกญาลับแล