30 เมษายน 2553 02:59 น.
อรุโณทัย
จำต้องทนโศกตรมระทมทุกข์
นิราศสุขปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
น้ำตาตกทรวงในทุกคืนวัน
เพราะบ้านฉันคนไม่รักสามัคคี
นึกอนาจยิ่งนักรักเหินห่าง
เกิดบาดหมางใจกันอย่างเต็มที่
แบ่งแยกฝ่ายก่ายกองจ้องราวี
แบ่งเป็นสีเลือกข้างอย่างชัดเจน
โอ้ว่าอนิจจาชะตาชาติ
ไม่นับญาติร่วมพงศ์คงได้เห็น
แตกเป็นไทย เหนือ-ใต้ ตามเกณฑ์
ความพิเรนเพราะคนไทยไม่รักกัน
สุดขื่นขมตรอมตรมระทมจิต
ไม่คาดคิดไทยฆ่าไทยนั่น
ช่างไม่นึกถึงสายสัมพันธ์
ทุกคนนั้นมีสายเลือดชาติเชื้อไทย
จำต้องทนเศร้าโศกโศกสุดสุด
หากมิหยุดยินยอมพร้อมกันได้
เราคงเห็นน้ำตาของคนไทย
เมื่อคิดได้ภายหลังของเหตุการณ์
อรุโณทัย
๓๐ เมษายน ๒๕๕๓
26 เมษายน 2553 02:01 น.
อรุโณทัย
ประเทศไทยแดนดินเป็นเมืองพุทธ
ไยเร่งรุทธยุทธศาสตร์ประกาศกร้าว
แบ่งแยกฝ่ายต่อกรก่อเรื่องราว
เกิดรอยร้าวลงลึกกลางจิตใจ
ณ เมืองไทยมีมนุษย์ที่ป่าเถื่อน
ยังกล่นเกลื่อนหยาบกร้านรุกรานใหญ่
หากคิดต่างอย่างสุดโต่งไม่ว่าใคร
คงจะได้เห็นดีด้วยบีฑา
โอ้อนิจจาสยามเมืองยิ้ม
ไล่แทงทิ่มต่อยตีหมายเข่นฆ่า
ชาวต่างชาติเห็นก็แสนจะระอา
กับทีท่าที่ขัดแย้งแห่งเหตุการณ์
ใช้อาวุธร้ายแรงยิงถล่ม
ให้สาสมแก่ใจอย่างเหี้ยมหาญ
ช่างโหดร้ายยิ่งนักจิตเหมือนมาร
เที่ยวล้างผลาญชีพผู้อื่นให้วางวาย
ณ เมืองไทยเมืองแห่งพุทธศาสน์
หรือว่าขาดศีลธรรมทั้งหลาย
หิริโอตัปปะความละอาย
ฤๅเลือนหายจากใจปุถุชน
อรุโณทัย
๒๖ เมษายน ๒๕๕๓
6 เมษายน 2553 23:22 น.
อรุโณทัย
เมื่อแรกเกิดมาตัวเปล่าบริสุทธิ์
เป็นมนุษย์น่ารักน่าถนอม
เมื่อเติบโตเปลี่ยนตามสิ่งแวดล้อม
เพื่อรอมชอมต่อวิถีความเป็นคน
เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคา
เฝ้ารักษาแก้ไขหมายหลุดพ้น
เมื่อแก่เฒ่าวัยชราไม่น่ายล
หนังเหี่ยวย่นเรี่ยวแรงแทบไม่มี
ถึงวันตายร่างกายก็สิ้นสุญญ์
กลายเป็นฝุ่นผงเถ้ามาแทนที่
ถูกนำไปทิ้งในมหานที
ก็เท่านี้ มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ฯ
อรุโณทัย
๖ เมษายน ๒๕๕๓