30 พฤษภาคม 2552 16:38 น.
อรุโณทัย
จะโทษใครที่ไหนกันในวันนี้
ในวันที่เจ็บป่วยด้วยโรคปอด
ไอคุกคุกทุกวันคงไม่รอด
จึงต้องทอดอาลัยให้ตัวเอง
จะโทษใครที่ไหนเล่าเมื่อเขาบอก
กลับสำรอกถ้อยคำซ้ำข่มเหง
พ่อแม่เฝ้าย้ำเตือนไม่กลัวเกรง
ทำอวดเก่งวางท่าทำก๋ากั่น
สูบบุหรี่ไม่ดีพ่อแม่สอน
ยังซุกซ่อนแอบเสพอย่างสุขสันต์
อีกทั้งเหล้ากัญชาอย่าลองมัน
แต่ตัวฉันก็ไม่เชื่อขอลองดี
จะโทษใครที่ไหนกันในวันนี้
เมื่อชีวีเจ็บป่วยอย่างเต็มที่
ไอเป็นเลือดออกมาก็หลายที
เพราะถือดีอยากลองของมึนเมา
ก่อนชีพดับสูญสิ้นไปจากโลก
ขอหมดโศกสร้างบุญล้างความเขลา
จึงขอเตือนทุกท่านผ่านเพื่อนเรา
จงรับเอาคำฝากจากดวงใจ
อันบุหรี่กัญชายาเสพติด
อย่าได้คิดริลองจะได้ไหม
หากยังเสพขอจงเลิกตลอดไป
เพื่อชีวิตใหม่มีสุขทุกคืนวัน...
อรุโณทัย
๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๒
23 พฤษภาคม 2552 23:36 น.
อรุโณทัย
ห้วงคำนึงในจินตนาการ
มุ่งสื่อสารงานศิลป์ถิ่นอักษร
เพ้อรำพึงรำพันเป็นบทกลอน
ในห้องนอน ณ มุมหนึ่งข้างเตียง
ห้วงคำนึงในจินตนาการ
อยู่หลังม่านความฝันที่หล่อเลี้ยง
เกิดลำนำคำกานท์เมื่อเรียบเรียง
เสนาะเสียงคล้ายดนตรีบรรเลง
ห้วงคำนึงในจินตนาการ
ทอฝันผ่านจารึกอย่างคร่ำเคร่ง
เมื่อตกผลึกความคิดคล้ายบทเพลง
จึงรีบเร่งบันทึกเป็นกานท์กลอน
ห้วงคำนึงในจินตนาการ
เพียงจดจารความคิดเป็นอักษร
เรียบเรียงร้อยสัมผัสจัดเป็นกลอน
เพื่อสะท้อนในห้วงจินตนาการ...
20 พฤษภาคม 2552 20:16 น.
อรุโณทัย
เสียงฟ้าครวญครืนครืนยืนร้องไห้
น้ำตาไหลรินหลั่งเป็นน้ำฝน
เพราะฟ้าโศกซ้ำใจสุดเกินทน
ของผู้คนบนพิภพบัดซบจริง
ฟ้าร้องไห้ใครเล่าเคยล่วงรู้
น้ำตาพรูไหลหลั่งมิใช่ถูกทิ้ง
เพราะฟ้าเศร้าเสียใจในความจริง
ด้วยทุกสิ่งถูกทำลายให้ยับเยิน
มนุษย์เกิดมาเพื่อสร้างหรือทำลาย
ช่วยผ่อนคลายความสงสัยอย่าเคอะเขิน
บอกให้รู้ด้วยเถอะ...พ่อจำเริญ
ช่วยดำเนินความกระจ่างอย่างอาจอง
บอกได้ไหมป่าไม้ไยถากถาง
ตัดไปบ้างเผาบ้างทิ้งขว้างส่ง
อันภูเขาน้อยใหญ่แหล่งป่าพง
ไยต้องลงมือระเบิดให้เป็นจุล
รู้บ้างไหมต้นไม้ให้ประโยชน์
ไยไม่โปรดอยู่กับป่าเพื่อเกื้อหนุน
ความเป็นไปในธรรมชาติอย่างสมดุล
เรื่องวุ่นวุ่นปัจจุบันคงไม่มี
ถึงหน้าร้อนคงไม่ร้อนจนอ่อนจิต
อากาศเป็นพิษคงไม่มากขนาดนี้
สภาวะเรือนกระจกคงไม่มี
ให้เป็นที่หวาดหวั่นสะท้านสะทก
ฟ้าร้องไห้ใครเล่าเคยรับรู้
เพียงคิดว่าเป็นฤดูฝนต้องตก
เสียงฟ้าครวญครืนครางอยู่งันงก
เพราะตระหนกการกระทำของมนุษย์
14 พฤษภาคม 2552 19:35 น.
อรุโณทัย
สายฝนพรำฉ่ำเย็น
สุขได้เห็นรอยยิ้มให้
จากญาติมิตรทั่วไทย
ตามผืนไร่และท้องนา
สายฝนพรมทั่วถิ่น
สร้างแผ่นดินให้สูงค่า
แหล่งปลูกพืชนานา
ของบรรดาเกษตรกร
สายฝนหลั่งครั้งแรก
ยิ้มเริ่มแจกให้กันก่อน
ฟ้าท่านเอื้ออาทร
ช่วยดับร้อนให้เย็นสบาย
ชาวนาเริ่มไถหว่าน
ธัญญาหารพืชทั้งหลาย
ไว้เลี้ยงคนมากมาย
ด้วยแรงกายคนทำงาน
ชาวไร่เริ่มไถปลูก
พืชพันธุ์ถูกหยอดและหว่าน
ฝนตกใจเบิกบาน
เห็นผลงานพืชงอกงาม
สายฝนพรำฉ่ำเย็น
สุขได้เห็นรอยยิ้มสยาม
ที่สุขใจในนาม
ชาวสยามคือครัวของโลก...
11 พฤษภาคม 2552 18:28 น.
อรุโณทัย
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินในถิ่นตน
เฝ้าอดทนตรากตรำทำงานหนัก
เพื่อชีวีที่ดีจึงไม่พัก
โดยยึดหลักพากเพียรประจำใจ
เหมือนหมู่มดหาอาหารไว้กิน
ไม่เคยสิ้นพยายามให้ขานไข
พยายามสู้สิ่งเย้ายวนใจ
เพื่อให้ได้อาหารเก็บไว้กิน
เมื่อฝนแรกเริ่มหลั่งมายังพื้น
พันธุ์พืชดาษดื่นก็หว่านสิ้น
เริ่มเพาะปลูกพันธุ์พืชไว้บนดิน
ที่ท้องถิ่นของตนคนไร่นา
ถึงพิธีมงคลด้านเกษตร
ทุกคามเขตหมายมุ่งเพียงรู้ว่า
พระโคเสี่ยงทายได้อะไรมา
ปีนี้ฝนฟ้าน้ำดีเป็นอย่างไร
พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
วันสำคัญเกษตรกรที่ยิ่งใหญ่
พิธีพืชมงคลช่วยดลใจ
จึงทำให้แกร่งกล้ามีแรงต้าน
พลิกฟื้นผืนนาและพื้นไร่
เพื่อให้ได้พืชพันธุ์ธัญญาหาร
ไว้เลี้ยงชีพของตนให้ยืนนาน
พร้อมลูกหลานให้สุขสราญกาย
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินถวิลหวัง
ฝนฟ้าหลั่งละอองลงโปรยปราย
รดน้ำชุ่มไร่นาไม่เหือดหาย
ไม่กลับกลายทิ้งช่วงให้แล้งนาน
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินในถิ่นตน
เพียงอดทนตรากตรำมุ่งทำงาน
เพื่อชีวีมีสุขทุกสถาน
ยึดหลักการเหนื่อยก่อนจึ่งสบาย ฯ