28 กรกฎาคม 2551 21:29 น.

คุณค่าภาษาชาติ

อรุโณทัย

ภาษาชาตินั้นคือภาษาไทย
ศิวิไลซ์ในอักขระภาษาศิลป์
ก่อกำเนิดกลอนกานท์ทั่วแผ่นดิน
ไทยไม่สิ้นกวีแท้อย่างแน่นอน

เห็นกลอนกานท์วรรณกรรมที่ล้ำค่า
งามสง่าร้อยลำนำเรียงอักษร
เป็นบทกวีที่ไพเราะทุกคำกลอน
และสะท้อนความเป็นไทยตลอดมา

ทุกยุคทุกสมัยไทยหมายมุ่ง
หวังผดุงวงศ์กวีศรีภาษา
จึงพากเพียรเขียนแต่งตลอดมา
เพียงหวังว่าเป็นต้นกล้าแห่งวงศ์วาน

ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาชาติ
ยังองอาจในค่ามหาศาล
ทั้งลายลักษณ์อักษรกลอนกานท์
นั่นคืองานของกวีที่แต่งเติม

ภาษาชาตินั้นคือภาษาไทย
คนยุคใหม่รู้ค่าควรส่งเสริม
เพื่ออนุรักษ์ภาษาศิลป์ถิ่นไทยเดิม
เป็นการเพิ่มคุณค่าภาษาไทย ฯ				
27 กรกฎาคม 2551 12:01 น.

คุณค่าภาษาไทย

อรุโณทัย

เป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
รักษาไว้ให้อยู่ได้เนานานหนอ
อย่าทำร้ายลายลักษณ์ที่ถักทอ
ที่แม่พ่ออนุรักษ์ตระหนักคุณ

ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาชาติ
อย่าประมาทใช้ผิดให้เคืองขุ่น
ครูท่านสอนสั่งไว้เลยนะคุณ
ความว้าวุ่นแห่งภาษาจะมากมี

ถ้าเมื่อใดไร้ภาษาที่มีอยู่
คงอดสูอายเขาไปทุกที่
และอาจสิ้นชาติไทยไปด้วยซี
เพราะวิถีชีวีที่เปลี่ยนไป

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีค่า
มากยิ่งกว่านพรัตน์เป็นไหน ไหน
มวลหมู่แก้วถึงมีค่ากว่าสิ่งใด
คงมีได้แค่เพียงค่าราคาเงิน

แต่คุณค่าของภาษามีสูงส่ง
ช่วยดำรงความเป็นชาติไม่ขัดเขิน
เพราะภาษาแสดงลักษณ์จำหลักเกิน
กว่าค่าเงินตรา...แต่สง่าอยู่ที่ใจ

เป็นคนไทยต้องรักภาษาไทย
รักษาให้อยู่นานนานจะได้ไหม
อย่าทำลายภาพลักษณ์ความเป็นไทย
โดยที่ไม่รู้ค่าภาษาเอย ฯ				
25 กรกฎาคม 2551 21:28 น.

น้ำตา

อรุโณทัย

น้ำตา...น้ำตารินไหลได้ทุกเมื่อ
มีเหลือเฟือมากมายคล้ายหยาดฝน
ตกลงมาจากตาของผู้คน
และล่วงหล่นลงมาคราเสียใจ

ในบางครั้งน้ำตาก็รินไหล
ไม่ว่าใครจะสุขสักเพียงไหน
เป็นน้ำตาที่ซาบซึ้งจากภายใน
เมื่อหัวใจตื้นตันวันได้ดี

บางคราน้ำตาก็ไหลริน
ไม่เหือดสิ้นจากตาพาหมองศรี
เป็นน้ำตาจากความเศร้าเหงาชีวิ
เมื่อฤดีช้ำชอกถูกหลอกลวง

น้ำตา...น้ำตา...น้ำตาไหลอาบแก้ม
หยดใสแซมหยดแหมะแย่เต็มทรวง
ใครจะซับน้ำตาด้วยความห่วง
หรือทักท้วงถามว่าร้องเพื่อใคร ฯ				
24 กรกฎาคม 2551 20:58 น.

ค่าของคน

อรุโณทัย

จากอดีตมาสู่ปัจจุบัน
เดี๋ยวผกผันไปถึงอนาคต
วิถีชีวิตใครกันที่กำหนด
ช่างเลี้ยวลดแปรเปลี่ยนวนเวียนไป

ในโลกนี้มีอะไรที่เที่ยงแท้
ตั้งแน่วแน่เนาว์นานถึงอสงไขย
ไม่เห็นมีใครหรือสิ่งใด
ที่อยู่ได้ปานนั้นอย่างแน่นอน

แสงอาทิตย์ที่เคลื่อนคล้อยลอยกลางฟ้า
ยังต้องราแสงลงมาก่อน
จากแสงจ้าก็ผ่อนให้อ่อนอ่อน
จากที่ร้อนก็ผ่อนคลายกลายเป็นเย็น

ยามค่ำคืนพระจันทร์ส่องแสงนวล
ตามกระบวนธรรมชาติที่แลเห็น
เริ่มวันใหม่แสงผ่องต้องหลีกเร้น
และก็เป็นเช่นนี้อยู่เรื่อยมา

การเปลี่ยนแปลงแฝงคติธรรม
มนุษย์นำมาใช้อย่างด้อยค่า
ไม่เล็งเห็นประโยชน์ของเวลา
เที่ยวผลาญพร่านาทีทองไปวันวัน

ทุกชนชั้นมีเวลาที่สมดุล
วันคืนหมุนเปลี่ยนไปใช้เท่ากัน
ยี่สิบสี่ชั่วโมงมีเท่านั้น
ใครแบ่งปันใช้เป็นนับว่าดี


จากอดีตมาถึงปัจจุบัน
แล้วแปรผันผ่านไปไม่อยู่ที่
วิถีชีวิตของคนก็เท่านี้
ตาย...เกิด...มีทดแทนตลอดมา

เป็นมนุษย์สุดประเสริฐเลิศตรงไหน
ถ้าไม่ใช่ความดีมีคุณค่า
ความเป็นคนของคนที่เกิดมา
ตายจักหาสิ่งใดบอกค่าของตน ฯ				
23 กรกฎาคม 2551 00:11 น.

ฝนใหม่

อรุโณทัย

ฝนแรกเริ่มโปรยปรายจากปลายฟ้า
หลั่งลงมาสู่พื้นแผ่นดินนั่น
ต่างเริงรื่นชื่นสุขทุกสิ่งสรรพ์
ต่างพากันแย้มยิ้มอิ่มเอมใจ

เสียงกบเขียดแซ่ซ้องร้องระงม
ต่างภิรมย์ชมชื่นในฝนใหม่
เหล่าพฤกษาแลชอุ่มทุกพุ่มใบ
ขจีใสสวยสดหมดราคี

หมู่มัจฉาเริงรื่นชื่นน้ำฝน
ว่ายเวียนวนกลางสายชลอย่างสุขี
คล้ายจะบอกฝนจ๋าตกอีกที
ชุบชีวีมวลหมู่ผู้รอคอย

ฝนพรำพรมจากฟ้าลงสู่ดิน
ทั่วธรนินทร์ชุ่มฉ่ำมิใช่น้อย
สิ้นสายฝนหล่นมาฟ้าสูงลอย
สีฟ้าพลอยฉ่ำน้ำฟ้าดูน่าชม

ฝนแรกเริ่มโปรยโรยลงพื้น
สร้างความชื้นทั่วไปได้เหมาะสม
ต่างชื่นสุขสมหวังในอารมณ์
เพราะชื่นชมน้ำฝนใหม่ไอความเย็น ฯ				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟอรุโณทัย
Lovings  อรุโณทัย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอรุโณทัย
Lovings  อรุโณทัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอรุโณทัย
Lovings  อรุโณทัย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอรุโณทัย