9 สิงหาคม 2551 19:06 น.
อรุโณทัย
คนคนนี้มีความหมายในความรัก
และแน่นหนักในรักนั้นเสมอเสมอ
รักหมดใจรักตลอดเลยนะเธอ
แม้ไม่เจอรักบ้าง...ก็ไม่แคร์
คนคนนี้มีแขนไว้โอบอุ้ม
มือเกาะกุมเพราะห่วงใยในใจแน่
สายตาเฝ้าห่วงหวงคอยดูแล
ถึงจะแพ้รักบ้าง...ก็ช่างมัน
คนคนนี้มีใจใสบริสุทธิ์
เปรียบประดุจน้ำทิพย์จากสวรรค์
มีเมตตากรุณาทุกคืนวัน
ในใจนั้นทั้งอาทร...อาวรณ์จริง
คนคนนี้เขาเปรียบเป็นเช่นมะลิ
ดอกไม้ที่หอมงาม...งามเหมือนหญิง
มีรักที่บริสุทธิ์จากใจจริง
แม้ถูกทิ้งก็ยังรักและอาลัย
คนคนนี้เฝ้าอบรมบ่มด้วยรัก
หวังเพียงจักสั่งสอนตามวิสัย
ด้วยหวังดีหวังเห็นความปลอดภัย
ด้วยหัวใจเต็มรักที่ปักทรวง
คนคนนี้ชนทั่วไปได้ไออุ่น
เมื่อนอนหนุนตักนางที่เคยหวง
เพราะว่ารักรักยิ่งกว่าทั้งปวง
เป็นรักห่วงบ่วงรักคล้องปองนิรันดร์
คนคนนี้จะเป็นใครไม่ได้แล้ว
เป็นดวงแก้วยอดดวงใจของพ่อฉัน
เธอรักลูกรักมั่นรักผูกพัน
คนคนนั้นก็คือ แม่ ของฉันเอง ฯ
6 สิงหาคม 2551 23:28 น.
อรุโณทัย
ตัวฉันนี้เป็นเช่นไรฉันก็รู้
ความเป็นอยู่อย่างใดฉันก็เห็น
เธอนั้นคือกิ่งฟ้าดั่งเธอเป็น
เธอสูงเด่นกว่าฉัน ฉันรู้ดี
แต่ความรักที่ปักใจใครรู้บ้าง
รักมิจางจากจิตติดวิถี
เพราะว่ารักของฉันครั้งนี้
ฉันก็มีเพียงรักจากใจให้เธอ
แต่ทำไมรักแล้วถึงถูกพราก
ให้ต้องจากกันไกลไปด้วยเหรอ
ผิดด้วยหรือที่ฉันจะรักเธอ
ฉันมันเซ่อเซอะซะหรือว่าไร
ตัวฉันเป็นเช่นไรฉันย่อมรู้
เกิดมาอยู่อย่างคนจนผิดตรงไหน
เธอเป็นกิ่งฟ้าจากฟ้าไกล
ฉันจึงได้แลดูเธออยู่คนเดียว ฯ
5 สิงหาคม 2551 21:33 น.
อรุโณทัย
กลัว...เธอเห็นฉันเป็นสนามอารมณ์
กลัว...จะตรมเพราะลมหลอกให้หลง
กลัว...รักจะทำให้ฉันพะวง
กลัว...ที่ตรงใจฉันไม่จำ
แกล้ง...ฝากรักด้วยรักที่ปักทรวง
แกล้ง...ฝากดวงใจให้ใจฉันถลำ
แกล้ง...บอกรักว่าแสนรักทุกคำ
แกล้ง...ครวญคร่ำรำพันเพ้อว่ารักจริง
อย่า...เห็นฉันเป็นสนามประลอง
อย่า...ทดลองฝากรัก ว่ารักยิ่ง
อย่า...บอกรัก เมื่อรักไม่จริง
อย่า...มัวนิ่งประวิงไว้ให้รัญจวน
รัก...ความรักที่เธอเคยให้
รัก...จากใจฝากจองปองสงวน
รัก...รอรักกลับมาทบทวน
รัก...ชี้ชวนชมชื่นทุกคืนวัน
กลัวฉันกลัวแล้วเอยความรัก
แกล้งประจักษ์พบรักฝากไว้กับฉัน
รักเอยรักแล้วต้องช้ำจาบัลย์
จึงไหวหวั่นรักฉันกับเธอจริงเอย ฯ
4 สิงหาคม 2551 00:06 น.
อรุโณทัย
แม่...มีสองมือถือความรัก
แม่...ปกปักป้องภัยให้ลูกน้อย
แม่...พร่ำสอนย้ำเตือนอยู่บ่อยบ่อย
แม่...รักร้อยความรักก็เพื่อใคร
ลูก...ยังเล็กแม่ถนอมเฝ้ากล่อมเห่
ลูก...นอนเปลแม่ทำงานอยู่ใกล้ใกล้
ลูก...โตแล้วแม่นั้นยังห่วงใย
ลูก...อยู่ไกลแม่เฝ้ารอลูกกลับมา
ความผูกพัน...ลูก..แม่...มีมานาน
เพราะประสาน...ด้วยรัก...ตระหนักค่า
ด้วยหัวใจ...เปี่ยมรัก...ตลอดเวลา
คุณมารดา...ลูกรำลึก...นึกถึงคุณ
ลูก...เติบใหญ่ไกลบ้านมานานนัก
ลูก...ประจักษ์ในความรักและไออุ่น
ลูก...ซึ้งแล้วคำว่ารักและการุณย์
ลูก...มาคุ้นคุณความรัก จากลูกตน
แม่...มีสองมือถือความรัก
แม่...เป็นหลักให้ยึดด้วยเหตุผล
แม่...ให้รักด้วยรักตั้งหลายคน
แม่...เหมือนฝนจากฟ้ามาสู่ดิน
แม่ลูกผูกพันต่อกันสัมพันธ์มี
เริ่มตรงที่แม่ท้องต้องถวิล
รักและหวงห่วงกังวลทนทั้งสิ้น
ไม่อยากกินอยากนอนจนอ่อนแรง
ลูกในครรภ์เรียนรู้อยู่กับแม่
ไม่ท้อแท้ก่อร่างสร้างความแกร่ง
เริ่มจากเลือดก้อนน้อยสีแดง
โดยการแบ่งจากเซลล์เป็นร่างกาย
เมื่อลูกดิ้นแม่เจ็บเก็บมายิ้ม
ดูเอมอิ่มจิตใจไม่เหือดหาย
ครั้นผัวถามก็ตอบอย่างเอียงอาย
หญิงหรือชายฉันก็รักลูกของเรา
ถึงวันคลอดแม่เจ็บใจแทบขาด
นึกอนาถในชีวิตใครเจ็บเท่า
ลูกร้องจ้าออกมาจึงทุเลา
แม่ลูกเขาจึงพันผูกสัมพันธ์เอย ฯ
28 กรกฎาคม 2551 21:29 น.
อรุโณทัย
ภาษาชาตินั้นคือภาษาไทย
ศิวิไลซ์ในอักขระภาษาศิลป์
ก่อกำเนิดกลอนกานท์ทั่วแผ่นดิน
ไทยไม่สิ้นกวีแท้อย่างแน่นอน
เห็นกลอนกานท์วรรณกรรมที่ล้ำค่า
งามสง่าร้อยลำนำเรียงอักษร
เป็นบทกวีที่ไพเราะทุกคำกลอน
และสะท้อนความเป็นไทยตลอดมา
ทุกยุคทุกสมัยไทยหมายมุ่ง
หวังผดุงวงศ์กวีศรีภาษา
จึงพากเพียรเขียนแต่งตลอดมา
เพียงหวังว่าเป็นต้นกล้าแห่งวงศ์วาน
ภาษาไทยนั้นเป็นภาษาชาติ
ยังองอาจในค่ามหาศาล
ทั้งลายลักษณ์อักษรกลอนกานท์
นั่นคืองานของกวีที่แต่งเติม
ภาษาชาตินั้นคือภาษาไทย
คนยุคใหม่รู้ค่าควรส่งเสริม
เพื่ออนุรักษ์ภาษาศิลป์ถิ่นไทยเดิม
เป็นการเพิ่มคุณค่าภาษาไทย ฯ