3 กันยายน 2551 22:40 น.
อรุโณทัย
ขิงก็รา ข่าก็แรง แสดงเรื่อง
ความขุ่นเคืองในใจใหญ่นักหนา
จึงก่อเกิดเรื่องร้ายติดตามมา
มีการราวีที่ทวีแรง
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมจะหยุดยั้ง
ต่างไม่ฟังกันและกันทำกำแหง
ใช้อารมณ์ร้อนร้อนอย่างรุนแรง
เกิดการแบ่งแย้งความคิดอนิจจา
ขิงก็รา ข่าก็แรง แสดงเหตุ
ทำทุเรศอ้างว่าตนนั้นดีกว่า
ปกป้องอธิปไตยชาวประชา
อีกข้างว่าข้าดีมีเหมือนกัน
แก...ปกครองบ้านเมืองเรื่องจึงวุ่น
แก...เป็นหุ่นเชิดชักรู้ไหมนั่น
แก...โกงกินทุจริตมีโทษทัณฑ์
เพราะฉะนั้น...แก...ควรต้องลาออกไป
อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าข้าไม่ผิด
ข้ามีสิทธิ์ปกครองเอ็งเห็นไหม
มีคนเลือกพวกข้าเข้ามาไง
ใช่หรือไม่ เอ็งก็รู้ อย่าดูแคลน
เอ็ง...ปลุกระดมผู้คนอ้างรักชาติ
เอ็ง...วางมาดผู้นำทำวางแผน
เอ็ง...ประกาศข้านี้ไม่เป็นแมน
หวังทดแทน...เอ็ง...ประท้วงลวงผู้คน
ขิงก็รา ข่าก็แรง สำแดงเดช
ให้เทวษครวญครางร่างหนึ่งหล่น
สิ้นชีวิตสังเวยเลือดวีรชน
คนเขาก่นด่าทอพอหรือยัง
ขิงก็รา ข่าก็แรง แสดงเรื่อง
ทุกมุมเมืองเริ่มวุ่นวายร้ายตามหลัง
หายนะจะรุ่งเรืองบ้านเมืองพัง
รู้หรือยังเอ็งและแกก็แย่เอย ฯ
31 สิงหาคม 2551 23:32 น.
อรุโณทัย
* ชาวไทยใจรุ่มร้อน..............ลนลาน
เพราะแบ่งพรรคพวกหาญ......สู่สู้
เห็นเมืองไม่สำราญ..............ชอบยิ่ง กันนา
ดูข่าวชาวไทยรู้....................ย่อมร้องระอา ฯ
* คราใดไทยด่าวดิ้น.............สิ้นชาติ แล้วนอ
คงไม่มีใครอาจ....................ก่อตั้ง
ฝูงชนเพื่ออำนาจ..................อาจเสื่อม สูญแฮ
หวังว่าคนไทยยั้ง..................ไม่อ้างอีกเอย ฯ
* ไยเลยไทยจึ่งต้อง..............ตีกัน
เอาแต่รุมโรมรัน...................พี่น้อง
เป็นญาติเพื่อนพวกพันธุ์........พงศ์เผ่า ไทยนา
จงอย่าผลาญพวกพ้อง...........พี่น้องคนไทย ฯ
* คนไทยไยต่อสู้..................กันเอง
อวดเก่งเป็นนักเลง...............ท้าทั่ว
ทำตนเบ่งคุยเก่ง..................ข่มขู่ อีกนา
วางท่าทำทีหยั้ว (ยั่ว).............ยุย้ำทำลาย ฯ
* ไทยอายชาติอื่นบ้าง...........ไหมหนอ
เขาอยู่อย่างเพียงพอ..............ปรัชญา
เอาแบบที่เขาขอ..................จากไทย ไปนา
หรือว่าไทยจะบ้า...................ที่ต้องปรองดอง ฯ
* ปรองดองผองพี่น้อง...........ชาวไทย
คงอยู่สุขสบายใจ..................แน่แท้
คนไทยจึ่งจะไม่....................หมองหม่น
หาที่ทางออกแก้..................เพื่อบ้านเมืองเรา ฯ
27 สิงหาคม 2551 23:14 น.
อรุโณทัย
สิบแปดปีผ่านไปในความจริง
ทุกทุกสิ่งแปรเปลี่ยนเวียนวนว่าย
หนึ่งชีวิตจากไปเพราะชีพวาย
สร้างความหมายให้คนเห็นเป็นอนุสรณ์
ด้วยใจรักผืนป่าบรรดาสัตว์
แต่อึดอัดดวงจิตคิดสังหร
คุ้มครองสัตว์เฝ้าดูแลและอาทร
ใจอาวรณ์เอื้อเฟื้อเหลืออาลัย
เกิดน้อยใจในชีวิตผู้พิทักษ์
อนุรักษ์เหล่าสัตว์ไพรพนาศรัย
ปลิดชีพตนทิ้งร่างกลางป่าอุทัย
ทิ้งวิจัยสัตว์ป่านานาพันธุ์
เปรี้ยงเดียวปืนลั่นสะท้านป่า
หลั่งน้ำตาโศกสลดรันทดนั่น
เสียงผู้คนเพ้อรำพึงรำพัน
ไม่น่าจะคิดสั้นท่านคนดี
วันเวลาผ่านพ้นบนความเศร้า
ป่าบ้านเราก็ถูกตัดเกือบทุกที่
อีกทั้งสัตว์น้อยใหญ่ถูกย่ำยี
คนราวีผลาญพร่าฆ่าสัตว์ป่า
ป่าเอยป่าไม้ใกล้หมดแล้ว
หวังเป็นแนวกั้นน้ำยามไหลบ่า
เมื่อฝนตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา
จะเอาป่าไหนมาป้องผองภัย
สัตว์เอยสัตว์ป่าบางเผ่าพันธุ์
ต้องสูญกันคราวนี้อย่าสงสัย
เมื่อผู้คนเข่นฆ่าไม่อาลัย
สุดวิสัยไม่อาจเหลือเพื่อไว้ดู
สิบแปดปีผ่านไปในความจริง
ทุกทุกสิ่งแปรเปลี่ยนเวียนวนอยู่
หนึ่งชีวิตจากไปใครใครรู้
สืบคือผู้พิทักษ์สัตว์และป่าเอย ฯ
26 สิงหาคม 2551 22:24 น.
อรุโณทัย
๑. คนเอ๋ยคนไทย
เหตุไฉนไม่ปรองดองเพื่อผองชน
เที่ยวระรานหาญแบ่งแฝงเล่ห์กล
อ้างเหตุผลสร้างเสริมเพิ่มบารมี
บ้างยุยงส่งเสริมเพิ่มความเกลียด
สร้างความเครียดให้ผู้คนอย่างเต็มที่
บ้างยั่วยุยั่วเย้าไปทั่วปฐพี
เอ่ยวจีที่คมคายทำลายเอย
๒. ชาวเอ๋ยชาวไทย
ทำอย่างไรจึงจะสุขสโมสร
มีความรักสามัคคีมีอาทร
ไม่รุ่มร้อนอารมณ์ทะเลาะกัน
ถือคติในใจอะไรเล่า
จึงทำเอาบ้านเมืองเสียป่วนปั่น
เฝ้าระแวงแคลงใจอะไรนั่น
จึงห้ำหั่นซึ่งกันและกันเอย
๓. ทางเอ๋ยทางออก
จะขอบอกชี้ช่องช่วยแก้ไข
ให้ความร้าวรานของชาวไทย
หมดสิ้นไปจากใจของผู้คน
แม้แตกต่างทางความคิดสักนิดหนึ่ง
ไตร่ตรองถึงแห่งเหตุและผลิตผล
ใช้ขันติพระธรรมนำใจตน
คืออดทนเพื่อสุขหมดทุกข์เอย
๔. คนเอ๋ยคนไทย
คงจะไม่ร้าวรานถึงปานนี้
เมื่อต่างถอยคนละก้าวเท่าที่มี
เพื่อหลีกลี้ความรุนแรงแห่งบ้านเมือง
ละทิฐิถือตนเป็นคนถูก
ไม่ดูถูกรุกไล่ ให้เกิดเรื่อง
ไม่ด่าทอว่าเขาให้ขุ่นเคือง
คนทั้งเมืองก็จะสุขสมหวังเอย
22 สิงหาคม 2551 23:12 น.
อรุโณทัย
ในนามของคนที่ชอบลิขิต
เขียนความคิดความฝันและความเชื่อ
เขียนจากจินตนาการที่เหลือเฟือ
เขียนทุกเมื่อที่นึกได้ด้วยใจรัก
เขียนหนังสือให้อ่านเป็นงานชอบ
เขียนตามกรอบกฎเกณฑ์ก็ตระหนัก
ทั้งร้อยแก้วร้อยกรองตามฉันทลักษณ์
เพื่อเป็นหลักหรือแบบอย่างทางประพันธ์
ด้วยใจรักงานเขียนจึงเพียรสู้
ขีดเขียนอยู่ด้วยจิตคิดสร้างสรรค์
เพียงให้ได้ผลงานออกมาทัน
คนอ่านนั้นได้อ่านตรงเวลา
เขียนบทความเรื่องสั้นหรือนิยาย
เพื่อมุ่งหมายให้บันเทิงที่ล้ำค่า
มีหลากรส บทรัก และโศกา
เขียนขึ้นมาเพื่อให้ได้สมจริง
เขียนโคลงกลอนกาพย์ฉันท์วรรณศิลป์
เป็นงานจินตนาการที่นานยิ่ง
กว่าจะได้งานเขียนเหมือนความจริง
ช่างเป็นสิ่งแสนยากลำบากจัง
เขียนหนังสือให้อ่านด้วยการแต่ง
เขียนแสดงความคิดจิตก็หวัง
สร้างผลงานให้ดี...แม้ไม่ดัง
เขียนเพื่อสั่งสอนคนบนทางอ้อม
เขียนหนังสือให้อ่านก็อ่านเถอะ
ขอเสนอความเห็นไม่อ้อมค้อม
อ่านเพื่อตัวตนเองเกิดความพร้อม
รู้รอบล้อมรอบรู้เป็นครูตน ฯ