11 พฤศจิกายน 2551 14:11 น.
อรุโณทัย
พระจันทร์แจ่ม คืนเพ็ญ เดือนสิบสอง
แสงนวลผ่อง สาดส่อง งามเฉิดฉาย
ใต้เงาจันทร์ ผู้คน มามากมาย
ต่างมุ่งหมาย ในคืนนี้ มีบูชา
ริมแม่น้ำ ลำคลอง สองฝั่งฟาก
ล้วนหลายหลาก กระทงทำ ที่ล้ำค่า
จากใบตอง ธรรมชาติ วิลาสตา
เตรียมลอยลง คงคา มหานที
ขอขมา บูชามั่น ชลบิตต์
ต่างตั้งจิต อธิษฐาน ในวันนี้
เพื่อสืบสาน ตามโบราณ ประเพณี
เพ็ญเดือนที่ สิบสอง ลอยกระทง
( ชลบิตต์ หมายถึง ดีแห่งน้ำ คือ ไฟ )
6 พฤศจิกายน 2551 22:33 น.
อรุโณทัย
ในวิถีทางเดินของชีวิต
กรรมลิขิตติดไว้ใครจะเห็น
แม้จะบอกเป็นนัยให้รู้เช่น
ชีวีเป็นไปตามแห่งความจริง
จากเด็กน้อยเข้าสู่วัยชรา
กาลเวลาบ่งบอกไม่กลอกกลิ้ง
เมื่อมีเกิดก็มีตายในสรรพสิ่ง
ไม่อาจนิ่งแน่นอนอยู่ยืนยง
เมื่อชีพวายก็ไร้ร่างจางจาก
เพราะถูกพรากด้วยกาลเป็นผุยผง
ความจริงแท้แน่นักจักดำรง
นั่นก็คงคือความจริงอยู่สิ่งเดียว
ในวิถีทางเดินของชีวิต
กรรมลิขิตติดตามมาเก็บเกี่ยว
ผลของการกระทำนำลดเลี้ยว
สร้างความเสียวให้ระวังยังไม่จำ
บ้างต้องพบจุดจบของชีวา
ก็เพราะว่าประมาทประกาศย้ำ
ให้รู้แจ้งเห็นจริงทุกถ้อยคำ
ถ้ากระทำถลำลงคงอับปาง ฯ
4 พฤศจิกายน 2551 22:35 น.
อรุโณทัย
บรรพบุรุษสร้างสมความเป็นชาติ
จากหยดหยาดสายเลือดที่รินไหล
ปกป้องผืนแผ่นดินถิ่นคนไทย
เพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานได้อยู่กัน
กษัตริย์ชาตินักรบต้องกรำศึก
เพื่อผนึกชาติไทยให้คงมั่น
เพื่อดำรงเชื้อสายแห่งพงศ์พันธุ์
จึงบากบั่นสู้รบกับศัตรู
ยามสิ้นศึกนึกฝันสรรค์สร้างศิลป์
ไว้คู่บุรินทร์ถิ่นที่อยู่
รวบรวมศิลปะไว้หมายเชิดชู
ความเลิศหรูศิลปะกรรมที่ล้ำค่า
รวบรวมวรรณศิลป์ที่สูญสิ้น
สร้างศิลปินที่ให้ความหรรษา
เพื่อแสดงความรุ่งเรืองของนครา
แต่ต้นมาจนถึงปัจจุบัน ฯ
2 พฤศจิกายน 2551 21:08 น.
อรุโณทัย
สีแดงเป็นสีแห่งความมั่งคั่ง
มีพลังอำนาจสุดปรารถนา
อาจหมายถึงความโชคดีแห่งชีวา
เมื่อกายาโลหิตไหลหล่อเลี้ยงตน
ชนชาวจีนนับถือเป็นสีแห่งโชค
ถูกโฉลกสีแดงทุกแห่งหน
งานแต่งงานงานนี้เป็นมงคล
สุขเหลือล้นบนความเชื่อเหนืออื่นใด
สีเหลืองมักถูกอ้างถึงความเจิดจ้า
เปรียบเหมือนอาทิตย์ส่องแสงสว่างไสว
สีเหลืองเป็นสีแห่งชีวิตใหม่
ที่นำไปสู่ความอุดมสมบูรณ์
สีแดงคือสื่อแห่งความรัก
จึงตระหนักในค่าไม่เสื่อมสูญ
และประจักษ์แจ้งใจหมายเพิ่มพูน
หนุ่ม...สาว...ทูนเทิดค่า กุหลาบแดง
สัญลักษณ์แห่งสีนำมาอ้าง
เพื่อปูทางอุดมการณ์ที่แอบแฝง
มีมุมมองต่างมุมประชุมแจง
เพื่อแสดงความคิดทุกทิศทาง
สีส้มผสมสีจากเหลืองกับแดง
เป็นสีแห่งความหวังเปลี่ยนแปลงบ้าง
รวมเป็นสีแสนสวยช่วยเจือจาง
บนความต่างของสีเหลืองกับสีแดง
ต่างสีต่างความหมายใครกำหนด
ช่วยจำจดทดแทนภาพเพื่อแถลง
สิ่งที่เห็นสิ่งที่รู้อย่างแจ่มแจ้ง
โดยการแต่งความหมายให้ยลยิน
ต่างใจต่างความคิดจึงต่างแตก
มีแบ่งแยกพรรคพวกให้ถวิล
ต่างความคิดต่างความเห็นเป็นอาจินต์
จึงอยู่ถิ่นเดียวกันไม่ได้เลย
อยากเห็นความสมานฉันท์ในวันหนึ่ง
วันที่ซึ่งต่างคิดต่างเฉลย
พูดความจริง นิ่งฟัง อย่างจำเลย
ฟังคำเอ่ยจากศาลบนบัลลังก์
อยากให้รับความจริงที่เป็นอยู่
อยากให้รู้รับผิดที่พลาดพลั้ง
อยากห่างเหินความเกลียดความชิงชัง
อยากเห็นจังความสามัคคี
อยากให้เหมือนสีผสมที่กลมกลืน
โดยการยื่นมือมาจับนับน้องพี่
อยากเห็นความรักความปรารถนาดี
ต่างก็มีให้กันและกัน
สีแดงคือสื่อแห่งความรัก
สีเหลืองร่วมถักทอก่อสัมพันธ์
แดงเหลืองเปลี่ยนแปลงโดยผกผัน
ผูกสัมพันธ์เป็นสีส้มอย่างกลมกลืน ฯ
19 ตุลาคม 2551 22:43 น.
อรุโณทัย
@ อันเรือนร่างของเราก็เท่านี้
ประกอบที่สี่ธาตุมาปรุงแต่ง
ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้สำแดง
ต่างก็แบ่งแรงร่วมรวมเป็นคน
@ นี่คือความจริงแห่งสังขาร
มีมานานเกิดขึ้นทุกแห่งหน
แต่ก็อยู่ไม่ยืนยาวไม่คงทน
เดี๋ยวก็หล่นเดี๋ยวก็ล่มสลายไป
@ สิ้นชีวิตสิ้นสุดการหลอมรวม
ดินก็หลวมน้ำก็แยกทั้งลมไฟ
สิ่งที่เหลือคือนามธรรมนั่นไง
จงรู้ไว้คือความชั่วและความดี
@ อันเรือนกาย ตาย อยู่ ดูก็ออก
มีสิ่งบอกมากมายตั้งหลายที่
เมื่อตายแล้ว เอาไฟเผาเป็นธุลี
เพราะโชคดีมีคนพบเมื่อตายไป
@ อันดีชั่วตัวตายใครก็รู้
ชื่อยังอยู่ชั่วดีเป็นไฉน
ใครทำดีชื่อดีมีฝากไว้
และถ้าใครทำชั่วชื่อชั่วตาม
@ อันเรือนร่างของเราก็เท่านี้
เกิดจากสี่ธาตุหลักอย่างล้นหลาม
ที่หลอมรวมร่วมอยู่ทุกโมงยาม
เรือนร่างงามก็ยังเห็นว่าเป็นคน
@ นี่คือสัจธรรมของชีวิต
ถูกลิขิตสรรค์สร้างอย่าสับสน
เมื่อมีเกิดก็มีตายว่ายเวียนวน
จิตหลุดพ้นจากกายตายทันที
@ อันเรือนกายตายจากฝากอะไรไว้
เพื่อจะให้รับรู้เมื่อเป็นผี
จะฝากความชั่วหรือความดี
ก็อยู่ที่การกระทำเมื่อชีพยัง (อยู่) ฯ