16 กุมภาพันธ์ 2552 22:33 น.
อรุโณทัย
ความผูกพันคือพันธะแห่งจิต
จะเกาะติดในใจไปทุกแห่งหน
เหมือนโซ่ตรวนผูกติดขาของตน
หนีไม่พ้นแน่นักหนักจริงเชียว
การผูกพันด้วยความรักมักหวงห่วง
ใจทั้งดวงว้าวุ่นจนฉุนเฉียว
กลัวใจตน ใจคนรัก ที่ข้องเกี่ยว
เกิดปีนเกลียวกลางจิตคิดรวนเร
ความผูกพันคือพันธะที่เกี่ยวเกาะ
เกิดจำเพาะดวงจิตติดเสน่ห์
แห่งความรัก ความหลง เข้าปนเป
โกรธ เกลียด เล่ห์ แห่งรัก จากฤดี
การผูกพันกับสิ่งหนึ่งสิ่งใด
หากว่าไม่ปล่อยวางเหินห่างหนี
คงไม่พ้นบ่วงทุกข์ถมทวี
เพราะยังมีความรักความผูกพัน ฯ
14 กุมภาพันธ์ 2552 18:42 น.
อรุโณทัย
ร้อยวันพันปีที่ผ่านมา
ความรักมีค่ามหาศาล
แต่ทำไมจึงให้พ้นผ่าน
ไม่ถือเป็นวารแห่งรักบ้างเลย
ทำไมจึงให้สำคัญนัก
ว่าความรักวันนี้มีเฉลย
เป็นวันบอกรักที่งอกเงย
เพื่อจะเอ่ยความรักจากใจ
วันที่สิบสี่กุมภาพันธ์
มอบดอกไม้ให้กันเสียยกใหญ่
ถึงจะแพงแสนแพงเพียงใด
ก็จะไขว่คว้าหาเงินมาซื้อ
เพียงเพื่อมอบดอกไม้แทนรัก
ให้ประจักษ์ว่ารัก...เช่นนั้นหรือ
หลายวันผ่านมาไม่อออือ
บอกว่านี่คือความรักที่มอบให้
ร้อยวันพันปีที่ผ่านมา
รักไม่มีคุณค่าหรือไฉน
จึงทุ่มเทความรักจากดวงใจ
ในวันวาเลนไทน์เดือนกุมภาฯ...
12 กุมภาพันธ์ 2552 04:27 น.
อรุโณทัย
ในวันวาเลนไทน์
มอบดอกไม้สื่อแห่งรัก
กุหลาบสีประจักษ์
บอกความหมายจากดวงใจ
กุหลาบแดงหนึ่งดอก
แทนคำบอก รักเธอ ไว้
กุหลาบเหลืองสดใส
แทนความรักว่าคือเพื่อน
กุหลาบสีชมพู
ความหมายหรูหาใครเหมือน
เป็นรักคอยย้ำเตือน
แทนความรักโรแมนติก
กุหลาบขาวพราวเสน่ห์
รักทุ่มเทไม่หลุกหลิก
รักมากไม่มีพลิก
รักบริสุทธิ์จากใจ
กุหลาบดำล้ำค่า
บอกรักว่าไม่หวั่นไหว
รักมากจากดวงใจ
ก็คือรักนิรันดร
ดอกไม้สื่อแห่งรัก
ควรตระหนักเอาไว้ก่อน
มอบให้แทนคำวอน
บอกรักวันวาเลนไทน์ ฯ
7 กุมภาพันธ์ 2552 23:03 น.
อรุโณทัย
บทกวีมากมีที่ได้อ่าน
ต่างไขขานตำนานรักประจักษ์ฝัน
วาเลนไทน์บอกรักพร่ำจำนรรจ์
ต่างแบ่งปันความรักจากดวงใจ
บทกวีบางบทบอกประจักษ์
ค่าแห่งรักมิได้อยู่ที่ความใคร่
เมื่อถึงวันความรัก วาเลนไทน์
ขออย่าได้ทำลายรักที่ปักทรวง
บทกวีบางบทบอกรักกัน
เมื่อถึงวันแห่งรัก รักหนักหน่วง
วาเลนไทน์วันรักอย่าหลอกลวง
ให้ช้ำดวงฤดีที่รักจริง
บทกวีบางบทที่ได้อ่าน
บอกรักผ่านสื่อรักตระหนักยิ่ง
มอบดอกไม้แทนใจว่ารักจริง
ทำทุกสิ่งเพื่อรักวันวาเลนไทน์ ฯ
3 กุมภาพันธ์ 2552 22:25 น.
อรุโณทัย
วันวันเฝ้าแต่คิดประดิษฐ์คำ
ร้อยลำนำกลอนกานท์ด้วยอักษร
จรดปากกาลงกระดาษเขียนเป็นกลอน
พร้อมทั้งย้อนทวนคำพิจารณา
เป็นนักคิดนักฝันรำพันพร่ำ
คิดค้นคำคล้องจองเที่ยวเสาะหา
ส่งสัมผัส...นอก...ใน...ตามตำรา
เพียงหวังว่าได้กลอนละมุนละไม
เพราะใจรักการเขียนจึงเพียรคิด
ฝันเป็นสิทธิ์ของฉันที่ฝันใฝ่
เป็นนักเขียนน้อยน้อยนักกลอนไทย
ไม่ยิ่งใหญ่แต่ก็สุขเพราะสมปอง
วันวันเฝ้าแต่คิดลิขิตถ้อย
เขียนบ่อยบ่อยเริ่มสนุก...เมื่อคล่อง
เมื่อนึกคิดไม่ติดขัดท่วงทำนอง
คำทั้งผองไหลหลั่งดั่งจินดา
วันวันเฝ้าแต่คิดประดิษฐ์คำ
ร้อยลำนำกลอนกานท์สื่อภาษา
หากฝันหมั่นคิดหมั่นเขียนเพียรทุกครา
อันคำว่า เขียนไม่ออก บอกไม่มี ฯ