30 เมษายน 2552 20:55 น.
อรุโณทัย
กวีเรียงร้อยถ้อยคำเป็นบทกลอน
ด้วยอักษรร้อยเรียงเพียงใจรัก
จากธรรมชาติที่งดงามเมื่อประจักษ์
แล้วทอถักถ้อยคำเป็นบทกวี
กวีเรียบเรียงถ้อยคำเป็นกลอนกานท์
เมื่อได้ผ่านความรักเป็นสักขี
ไม่ว่ารักจะทุกข์หรือสุขทวี
ทุกกวีก็จะเขียนเป็นกลอนกานท์
บทกวี ความรัก ธรรมชาติ
ไม่อาจขาดสัมพันธ์สอดประสาน
ที่กวีเก็บมาเขียนเป็นกลอนกานท์
เก็บไว้ในลานอักษรศิลป์ถิ่นกวี ฯ
26 เมษายน 2552 20:00 น.
อรุโณทัย
วิกฤตชาติผ่านพ้นบนขันติ
สมาธิแน่วแน่มุ่งแก้ไข
ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อของชาวไทย
แตกหักไม่รุนแรงแห่งจลาจล
เห็นผู้นำใช้ธรรมปกครองชาติ
ยึดคำสอนของปราชญ์เพื่อหวังผล
ให้ชาติพ้นภัยพิบัติทั่วมณฑล
เสียงผู้คนสรรเสริญผู้นำไทย
จราจร จลาจล บนความต่าง
เพราะหนทางความคิดแบ่งแยกได้
ฝ่ายหนึ่งรับกฎเกณฑ์ที่วางไว้
ฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับกติกา
จึงเกิดเรื่องวุ่นวายให้เราพบ
แต่ก็จบลงได้อย่างที่ว่า
ใช้ขันติ สร้างสันติด้วยปัญญา
แก้ปัญหาวิกฤตชาติวิลาศเมือง
วิกฤตชาติผ่านพ้นบนธรรมะ
เสียสละส่วนตนเพื่อหนุนเนื่อง
ในประโยชน์ส่วนรวมให้รุ่งเรือง
จึงไม่เปลืองเลือดเนื้อ...เมื่อแก้ปัญหา ฯ
24 เมษายน 2552 12:01 น.
อรุโณทัย
เพราะต่างคนต่างคิดยึดติดแน่น
อยู่บนแก่นความถูกต้องของใจนั่น
ไม่รับฟังเหตุผลของกันและกัน
จึงไร้วันปรองดองครองความสุข
เพราะต่างคนต่างมองคนละมุม
ความร้าวจึงรุมเข้าลามลุก
แห่งความโกรธเกลียดกัน...ปั่นปลุก
จึงเกิดยุคแตกแยกอย่างชัดเจน
เพราะต่างคนต่างไร้เมตตา
เที่ยวเสาะหาสาเหตุอ้างให้เห็น
ว่าตนถูกไม่ผิดซึ่งประเด็น
เที่ยวกะเกนหาข้อเท็จจริง
เพราะต่างคนต่างคิดเช่นนี้
จึงได้มีเรื่องราวที่ฉาวยิ่ง
ไทยต่อไทยต่อสู้ช่วงชิง
โดยทอดทิ้ง...หิริโอตตัปปะ ฯ
12 เมษายน 2552 22:32 น.
อรุโณทัย
ฤาเข้าสู่กลียุคของประเทศ
จึงเกิดเหตุขัดแย้งแห่งสยาม
ไร้ไพรีภายนอกมาคุกคาม
แต่ว่ามีสงครามขึ้นกลางเมือง
ไทยต่อไทยต่อสู้ด้วยกลศึก
เพราะตกผลึกแตกต่างอย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายหนึ่งรับฝ่ายหนึ่งรุกอยู่เนืองเนือง
จึงเกิดเรื่องวุ่นวายไปทั้งปฐพี
ฤาเข้าสู่กลียุคของประเทศ
ทั่วทุกเขตแคว้นไทยแห่งนี้
คนชั่วกร่างวางอำนาจมากมี
คนดีดีหลบหลีกเพราะกลัวภัย
โอ้อนาจคนไทยใครชนะ
สงสารประเทศชาติบ้างหรือไม่
เศรษฐกิจย่อยยับอับปางลงไป
ฤาจะให้สิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน ฯ
7 เมษายน 2552 16:52 น.
อรุโณทัย
* เห็นเหตุการณ์บ้านเมืองที่วุ่นวาย
เหมือนผีร้ายจากป่ามาหลอกหลอน
เที่ยวยั่วยวนชาวไทยให้รุ่มร้อน
ออกมานอนกลางดินกินกลางเมือง
ผีบ้านผีเมืองก็ไม่ช่วย
แต่...เอื้ออำนวยผีป่ามาก่อเรื่อง
ไม่ทำบุญปัดเป่าอยู่เนืองเนือง
หรือกลัวเปลืองทรัพย์สินซึ่งเงินทอง
ปล่อยให้ผีป่ามาหลอนหลอก
แปลงกายมาบอกคนทั้งผอง
ที่ตนตายไปจากถิ่นเคยครอง
อำนาจต้องสูญสิ้นจากเมืองไทย
* เหตุการณ์บ้านเมืองเรื่องจึงวุ่น
ความคุกรุ่นเกิดจากความหลงใหล
ของผู้คนที่ไม่คิดครวญใคร่
สิ่งที่ได้ฟังนั้นสักนิดเดียว
บ้างเห็นเงินนั่นหรือคือพระเจ้า
รีบรับเอาค่าจ้างไม่เฉลียว
ว่าจะเป็นเหยื่อ...ให้เขาหลอก ท่าเดียว
อ่อนใจจริงเชียว พวกเห็นแก่เงิน
วันที่ แปด เก้า สิบ เดือนเมษา
เหล่าประชาเสื้อแดงฤทธิ์แรงเกิน
นัดชุมนุมครั้งใหญ่ ไม่บังเอิญ
เพียงเพื่อเดินเกมไล่ล่าความจริง
* เหตุการณ์บ้านเมืองอาจร้อนรุ่ม
ถ้าชุมนุมใช้กำลังเหนือทุกสิ่ง
ไม่ใช้ปัญญาแก้ปัญหาความจริง
และทอดทิ้งคุณธรรมนำทาง