14 กุมภาพันธ์ 2549 18:17 น.
อรุณสุข
เนื่องในวัน สากล คนมีรัก
ต่างทอถัก รักแท้ เป็นแพรผืน
แล้วเขียนสี แพรสวย ด้วยจุดยืน
อบแพรผืน สีใส ด้วยไอรัก
รักมีค่า เกินคำ จำนรรจ์หมด
เกินกว่าบท กวีบอก ออกประจักษ์
ไม่มีคำ นิยาม ในความรัก
ที่สลัก เป็นอักษร กลอนกวี
รักนั้นไซร้ บริสุทธิ์ สุดสะอาด
ไม่มีธาตุ ใดเทียบ เปรียบศักดิ์ศรี
รักนั้นขาว สดใส ด้วยไมตรี
รักจึงมี คุณงาม แห่งความรัก
มาเถิดมา ทอรัก ถักด้วยจิต
ด้วยน้ำมิตร น้ำใจ ให้ประจักษ์
ให้โลกนี้ งดงาม ด้วยความรัก
สมานสมัคร สามัคคี ด้วยดีเอย
14 กุมภาพันธ์ 2549 15:02 น.
อรุณสุข
ดอกกุหลาบ แดงชัด จัดเป็นช่อ
บรรจงห่อ โบว์รัด มัดใจสาว
หนุ่มส่งให้ สาวรับ คอยนับดาว
จะถึงคราว สมฝัน วันนี้นา
วาเลนไทน์ นั้นหนอ เป็นข้ออ้าง
หนุ่มสาวพราง รักเล่ห์ สเน่หา
เสียทั้งสาว เสียศักดิ์ รักอัปรา
เหลือน้ำตา ต่างเครื่องเซ่น วาเลนไทน์
ว่าสีแดง นั้นดี สีแห่งรัก
หลายคนนัก รักมาก รักหลากหลาย
สีแดงเกลื่อน กล่นทาง วางเรียงราย
ทั้งรักขาย รักขอ มารอลวง
ควรเปลี่ยน วาเลนไทน์ ใช้สีเหลือง
เพื่อสืบเนื่อง รักแน่น ถึงแดนสรวง
สีเหลืองคือ มิตรภาพ ที่ซาบทรวง
ที่ใหญ่หลวง คงมั่น นิรันดร
10 กุมภาพันธ์ 2549 15:33 น.
อรุณสุข
จำเรียงรส จดจาร งานวรรณศิลป์
ให้รื่นริน รสธรรม นำกุศล
งามศิลป์สืบ วัฒนธรรม นำมวลชน
ถ้วนสกนธ์ สดับสุต พุทธธรรม์
มาฆวาร ดิถี อีกปีแล้ว
ขอจิตแผ้ว ชี้ทาง ร่วมสร้างสรรค์
มาเถิดมา พุทธศาส์ นิกรนันท์
บำเพ็ญบุญ หนุนธรรม์ ให้พรรณราย
มาร่วมก่อ ต่อสาน งานพระศาสน์
ให้เรืองรุจน์ มนุษยชาติ ที่คาดหมาย
ขจัดทุกข์ สุขสร้าง ตัดทางอบาย
ร่วมสืบสาย พระชินวงศ์ องค์ศาสดา
มาฆมา บูชา ด้วยจิตสุทธิ์
องค์พระพุทธ พระธรรม นำศาสนา
อีกพระสงฆ์ ทายาท องค์ศาสดา
ถ้วนวันทา มโนนบ เคารพคุณ
9 กุมภาพันธ์ 2549 16:08 น.
อรุณสุข
นิราศร้าง ห่างไกล ใจช่างเหงา
ทุกวันเฝ้า รำพึง คะนึงหา
วัดเกาะย่าน บ้านเรา ที่เนาว์มา
มิได้มาเยือนเหย้าเรานี้นาน
จากกรุงเทพ รถรอ มาหมอชิต
รถทัวร์ติด เร่งสตาร์ท ใจอาจหาญ
กรุงเทพ ปทุม อยุธยา รถพาพาน
อ่างทอง สิงห์ ชัยนาทย่าน รถผ่านไป
นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก
ไม่วิโยค รถผ่าน นานไฉน
รถพาเลี้ยว ซ้ายผ่าน บ้านกงไกร
สุโขทัย เขตบ้านสวน ไม่รวนเร
จากบ้านสวน ด่วนจี๋ ถึงศรีสำโรง
ผ่านหลายโค้ง อันตราย ไม่หันเห
ลงจากรถ ทัวร์ลา หารถเมล์
ดูโก้เก๋ สามล้อ พอจะชม
สามล้อพา ลาตลาด ศรีสำโรง
สะพานโค้ง น้ำยมข้าม ดูงามสม
ประชาอุทิศ พิศผ่าน พานมาชม
ช่างนานนม แลดูเก่า น่าเศร้าใจ
สามล้อพา มาถึง สี่แยกหลัก
มิต้องพัก เลี้ยวขวา ยาไสว
ถ้ายาดี บ้านเรา ก็เนาว์ไกล
คงรวยใหญ่ ชาวยา น่านิยม
สามล้อผ่าน หนองแหน ไม่แปรผัน
คิดทุกวัน ไม่เห็นแหน แลเหมาะสม
รถวิ่งผ่าน อนามัย ไม่ระทม
ยามต้องลม เขตย่าน บ้านหนองทอง
บ้านหนองทอง เคยอยู่ เป็นอู่ข้าว
ทั้งเรือนเหย้า พ่อแม่ แลสิ่งของ
ช่างเจริญ งดงาม ตามครรลอง
ตามลบอง แห่งระบอบ อันชอบธรรม์
จากหนองทอง เลี้ยวขวา มาใต้วัด
เห็นถนัด ชาวบ้าน ย่านขยัน
ช่างแปลกตา บ้านช่อง มองดูพลัน
ไม่กี่วัน เปลี่ยนไป ใจรำพึง
จากใต้วัด ขึ้นมา ถึงหน้าวัด
ก็แจ้งจัด เห็นจริง ทุกสิ่งซึ่ง
เห็นโรงเรียน เราหนา พาคะนึง
อดีตซึ่ง เคยเพียร ได้เรียนมา
จากวัดเข้า นมัสการ พ่อพุทโธ
ขอให้โต เติบใหญ่ หลายพรรษา
แล้วเวียนไหว้ หลวงปู่มี ที่บูชา
ให้ก้าวหน้า การงาน ทั้งการเงิน
ท่านพระครู เจ้าวัด จัดว่ายอด
ถ้วนตลอด ทุกคน ชนสรรเสริญ
พัฒนา วัดให้ ได้เจริญ
ทั้งชวนเชิญ ชาวเรา ให้เข้าธรรม
จากวัดเกาะ เลาะผ่าน บ้านกลางคลอง
ช่างน่ามอง สาวใส ใจถลำ
ถึงสาวอื่น หมื่นที่ ไม่มีนำ
ทั้งงามน้ำ จิตน้อง พี่มองเพลิน
แล้วดั้นด้น ก้นคลอง มองดูบ้าน
ช่างเนิ่นนาน ร้างลา มาห่างเหิน
บ้านกำนัน ตั้งอยู่ ดูเจริญ
ให้เพลิดเพลิน ยามมาเยือน ถึงเรือนชาน
ร่ำนิราศ เลยรา มาหลายที่
หิวแล้วซี ที่ไหนเล่า มีคาวหวาน
ร้านตาพุธ ก๋วยเตี๋ยว เชี่ยวชำนาญ
เมื่อยามผ่าน แวะชิม คงอิ่มดี
ฝากทุกท่าน ทุกชน คนวัดเกาะ
ที่จำเพาะ หากิน พลัดถิ่นที่
กลับไปบ้าน บ้างหนอ ที่พอมี
คงจะดี ถ้าได้เห็น เช่นก่อนมา
ฝากอรรถรส บทกลอน วอนเอาไว้
ก้อด้วยใจ คิดถึง และห่วงหา
ทั้งพ่อแม่ ที่จาก จำพรากมา
ก้อจงอย่า ทิ้งเที่ยว ให้เดียวดาย
ขอให้ย่าน บ้านเรา ได้เนาว์สุข
เจริญทุก ครอบครัว ทั่วทุกสาย
ที่จนยาก ให้โชคช่วย รวยสบาย
สุขทั้งกาย สุขทั้งจิต เป็นมิตรกัน.
"บ้านหนองทอง ตำบลวัดเกาะ สุโขทัย"