3 เมษายน 2549 12:07 น.
อรุณสุข
ทรงเป็นจอมดวงใจไทยทั้งชาติ
ทรงเป็นเอกนักปราชญ์ชาติสยาม
ทรงเป็นปิ่น นัคเรศ ศรีเขตคาม
ทรงพระนาม สิรินธร ขจรขจาย
ศิลปะ วัฒนธรรม ประจำถิ่น
พระสืบสิ้น บำรุงรักษ์ พิทักษ์หมาย
วรรณคดี สถาปัตยกรรม ก่อกำจาย
ทรงส่งเสริม มิห่างหาย จากเบื้องบรรพ์
วันที่ 2 เมษา มาบรรจบ
ขอน้อมนบ บาทบงส์ จงสุขสันต์
เชิญองค์เทพ เทวา มาร่วมกัน
ถ้วนทุกชั้น ปรากฏกาย ถวายพระพร
พระประสงค์ สิ่งใด ในราชกิจ
ขอสัมฤทธิ์ ถ้วนทุกสิ่ง สโมสร
ทรงพระสุข เกษมสันต์ นิรันดร
พสกนิกร ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ฯ
21 มีนาคม 2549 11:56 น.
อรุณสุข
ใจเอ๋ยใจเหตุไฉนไม่รู้เจ็บ
หนาวก้อหนาวเหนื่อยเหน็บเจ็บกี่หน
รักเอ๋ยรักชอกช้ำกี่จำทน
ทนหนอทนอีกเมื่อไหร่ใจจะพอ
ไหนล่ะไหนรักจริงที่วิ่งหา
บ้าแทบบ้าดั่งคนไข้ที่ไร้หมอ
หยุดจะหยุดได้ไหมอย่าไปรอ
ขอเถิดขอขึ้นจากปลักรักลวงลวง
นะเธอนะละวางห่างเขาเถิด
เปิดเถอะเปิดหัวใจให้พ้นบ่วง
ไปควรไปจากเขาที่เฝ้าลวง
ตวงเถิดตวงสุขสร้างให้พร่างพราย.
21 มีนาคม 2549 11:25 น.
อรุณสุข
" ยืนชะเง้อ คอยเธอ จะกลับมาหา
ไม่รู้ว่า เธอจะมารถ ขบวนไหน
ฉันคอยคนดี อยู่ที่สถานี รถไฟ
โอ้เหตุไฉน ป่านนี้ทำไม เธอยังไม่มา
ชะเง้อ ชะแง้ เบิ่งตาแลเฝ้าแต่รอ
นานแล้วหนอ เธอไม่กลับมาหา
เธอนัดฉันไว้ ทำไมเธอลืมสัญญา
ฉันยืนคอย ที่ชานชลา
ที่รักจ๋า จงมาเสียที
ยืนใจเต้น เมื่อเห็นรถไฟสายด่วน
ฉันยืนรอดู อยู่หลายขบวน
ทำไม ไม่เห็นเธอมี
ฉันยืนรอ เสียเวลา ตั้งหลายนาที
หน้าตาก็ดี ไม่น่าโกหก ตลกกับฉัน
ยืนชะเง้อ ตาเหม่อ คอยเธอกลับมา
ยอดรักจ๋า เธอหลบหน้า ไปไหนกัน
ฉันทนรอ รอด้วยใจไหวหวั่น
ใยเธอกลับ มาแปรผัน
แล้วฉัน จะคอยใคร
ยืนใจเต้น เมื่อเห็นรถไฟสายด่วน
ฉันยืนรอดู อยู่หลายขบวน
ทำไม ไม่เห็น เธอมี
ฉันยืนรอ เสียเวลา ตั้งหลายนาที
หน้าตาก็ดี ไม่น่าโกหก ตลกกับฉัน
ยืนชะเง้อ ตาเหม่อ คอยเธอกลับมา
ยอดรักจ๋า เธอหลบหน้า ไปไหนกัน
ฉันยืนรอ รอด้วยใจไหวหวั่น
ใยเธอกลับ มาแปรผัน
แล้วฉัน จะคอย ใคร..."
...........................
สิ้นเสียงเพลงไพเราะเสนาะหู
เรายืนอยู่สถานีแห่งนี้หนอ
เพลงนั้นเศร้าเล่าถึงคนหนึ่งรอ
เพื่อมาขอพบคนพรากที่จากกัน
ดั่งเช่นเราเฝ้ารอขอพบหน้า
คนที่ลาเขาจะกลับมารับขวัญ
คอยเฝ้าคอยด้วยความหวังคอยทั้งวัน
ย่ำสายัณห์ก้อไม่เห็นแม้นเช่นเงา
หรือเธอลืมเวลารถคลาเคลื่อน
คงจะเลือนเวลาอย่าได้เศร้า
พรุ่งนี้หนอจะรอรับกลับบ้านเรา
อย่าเพิ่งเหงาเปลี่ยวจิตคิดไปไกล
หวนคำนึงถึงบทเพลงให้เกรงกริ่ง
จิตประวิงกลัวคนรักเขาผลักไส
หลอกให้รอพอรักมากแล้วจากไป
ตัดเยื่อใยแห่งรักความภักดี
เข้าวันใหม่ใจละห้อยคอยอีกหน
รอคอยคนลืมเวลามาที่นี่
คอยอีกครั้งรออีกคราที่สถานี
จนสิ้นแสงสุรีย์ที่คอยกัน
เสียงเพลงดังย้ำเตือนในเรือนจิต
ย้อนความคิดอันผิดพลาดที่วาดฝัน
เธอหาใช่ลืมเวลามาหากัน
หากลืมฉันลืมสัญญาไม่มาเยือน.
16 มีนาคม 2549 17:49 น.
อรุณสุข
ได้ฟังคำเอื้อนเอ่ยเฉลยรัก
คงต้องหักจิตตามความของสาว
รักที่ได้คงจะจืดไม่ยืดยาว
แม้นปวดร้าวก้อต้องทนดั่งคนลวง
สาวเจ้าออกบอกชัดปัดให้พ่อ
เราหลงรอจนเดือนหกด้วยอกห่วง
รักแท้แท้หนุ่มบ้านนอกไม่หลอกลวง
ไม่เคยล่วง เกินก้ำ ให้ช้ำใจ
มาแจ้งออกบอกหนุ่มถูกคลุมถุง
จากพ่อแม่ป้าลุงหรือคนไหน
ใยเพิ่งมาบอกเล่าไม่เข้าใจ
ก่อนร้างไกลใยมิกล่าวเล่าแม่คุณ
อย่าเลยโอนโยนผิดให้แม่พ่อ
ว่าคลุมถุงมุ่งจะรอขอเกื้อหนุน
เพราะรักเก่านั้นคงด้อยน้อยต้นทุน
ไม่เหมือนบุญรักใหม่สมใจปอง
เถอะหนาเจ้าเราไม่ขอรอความรัก
ยอมอกหักดีกว่าช้ำเป็นซ้ำสอง
ใช้น้ำตาต่างน้ำสังข์ไม่หวังครอง
ให้สมปองรักใหม่ดั่งใจจินต์
15 มีนาคม 2549 16:53 น.
อรุณสุข
รุ่งอรุณนกร้องอยู่เริงร่า
ดังดนตรีลีลาอันเริงรื่น
เปรียบชีวิตยามนั้นวันและคืน
สดชื่นแลงดงามในยามนั้น
ไม่มีใครจักหยุดดวงตะวันวาด
หรือเปลี่ยนแสงทอสาดที่ผายผัน
เงาสูรย์จึงมิจักชะงักงัน
นกว่ายวันว่อนฟ้าออกหากิน
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าคราแดดร้อน
แดดผ่อนเพลาแรงเมื่อแสงสิ้น
หมดเวลาว่ายฟ้าและโบกบิน
สถิตถิ่นทอดนอนบนคอนน้อย