เมืองวุ่นขุ่นยามสงครามนั้น ใน นอก บั่นสุขสงบที่พบเห็น อยู่ชายขอบ ใต้ อีสาน พานลำเค็ญ ยากหลีกเร้นทุกข์ถ้วนหน้าประชาชี รบเขมรเรื่องเก่าเอาไม่อยู่ ร้อยศกสู้แสนหนักศึกศักดิ์ศรี เศรษฐกิจวอดวายมาหลายปี หาได้มีใครจะชนะจริง ใต้ยังร้อนห่อนเรื้อให้เบื่อนัก ยังจมปลักสงครามสูญความนิ่ง ประชาชนไร้ซึ่งที่พึ่งพิง ดังถูกทิ้งทอดวางบนทางโจร แลมาดูเมืองกรุงก็ยุ่งย้อน ศึกสีเสื้อยังมิผ่อนยังผาดโผน รัฐกับม็อบเต็มเปี่ยมเหลี่ยมโชกโชน รอจังหวะจะโคนมาประจัญ ต่างหมายมุ่งรุ่งเรืองเฟื่องอำนาจ หานำหลักนักปราชญ์มาสร้างสรรค์ ร้างลาธรรมาภิบาลอยู่นานวัน ขาดหลักมั่นอุดมการณ์บรรหารรัฐ ฤาวิวัฒน์จรจากพรากไปแล้ว ไร้คนดีจะถางแผ้วโพยภัยผลัด ฤาจะสิ้นบุรุษกล้าผู้สามรรถ มาภิวัฒน์การเมืองประเทืองไทย ฤาจะถึงเวลาประชาเชิด ก่อกำเนิดยุคเฟื่องการเมืองใหม่ เริ่มจากที่ ศรัทธา ประชาธิปไตย ยังสิทธิ์ให้สมค่า"ประชาชน" ภาพ : จากอินเตอร์เนต