24 ธันวาคม 2552 22:17 น.
อรรธนิศา
เราคบกันมานาน....จนป่านนี้
นานพอที่จะเข้าใจได้หลายอย่าง
รู้ความคิด.....น้ำใจในทุกทาง
ซึ้งกระจ่างเสียยิ่งกว่าสิ่งใด
ฉันมีความจริงใจให้เสมอ
จึงเทิดเธอสูงยิ่งกว่าสิ่งไหน
แม้ความคิดคำนึงถึงใคร..ใคร
ฉันก็ไม่ซาบซึ้ง.....แม้ครึ่งเธอ
ฉันภูมิใจในเธอเสมอมั่น
ซึ้งสัมพันธ์ไมตรีดีเสมอ
จึงทูนค่ารักเทิดไว้เลิศเลอ
หวังให้เธอคนเดียวเหนี่ยวน้าวใจ
แต่ความคิดความหวังเคยตั้งมั่น
ถูกเธอบั่นมันหักซ้ำผลักไส
ไม่ยอมคิดคำนึงถึงจิตใคร
เหมือนจะให้สัมพันธ์ถึงวันวาย
ฉันยอมเสียความภูมิใจในชีวิต
ที่เคยคิดเคยหวังตั้งใจหมาย
เมื่อเธอไม่ยอมรับ.....กลับทำลาย
ถึงเสียดายก็ต้องฝืนกล้ำกลืนทน
เราคบกันมานาน.จนป่านนี้
นานพอที่จะเข้าใจใช้เหตุผล
แต่เมื่อเธอไม่เข้าใจในกมล
ฉันก็จนปัญญาอธิบาย
24 ธันวาคม 2552 21:55 น.
อรรธนิศา
พิษอื่นใดไหนเล่าเท่าพิษรัก
พอสมัครปักใจก็ไหลหลง
เฝ้าละเมอเพ้อพร่ำร่ำพะวง
มิอาจปลงใจห้ามความตราตรึง
เมื่อเริ่มความสัมพันธ์เริ่มมั่นจิต
ยิ่งเพิ่มพิษสะกิดให้ใฝ่คิดถึง
ยิ่งห่างกันฝันใฝ่ใจรำพึง
ยิ่งซาบซึ้งยิ่งทำให้คร่ำครวญ
ครั้นพอรักไม่สมอารมณ์ใฝ่
ยิ่งพาให้อกช้ำเริ่มกำสรวล
พิษความรักปักใจใฝ่รัญจวน
พอนึกหวนยิ่งเศร้าไม่เข้าใจ
ต่อแต่นี้หากแม้จะมีรัก
จะขอปักภักดิ์คนโดนผลักไส
คนที่พลาดรักร้างต้องห่างไกล
เพราะหัวใจเขาเป็นเฉกเช่นเรา
23 ธันวาคม 2552 22:02 น.
อรรธนิศา
จาก บัญชี ถิ่นเก่าเคยเนานาน
เคยร่วมงานกันอยู่ดูสุขสันต์
แม้งานหนักมากน้อยคอยช่วยกัน
ร่วมสร้างสรรค์ผลงานอันเกริกไกร
งานคืองานพวกเราล้วนเข้าจิต
บางครั้งคิดมากล้นทนไม่ไหว
แต่หน้าที่คือสิ่งบันดาลใจ
ทำอย่างไรให้สำเร็จเสร็จได้ทัน
ร่วมกันทำงานนี้เหมือนพี่น้อง
ตามครรลองหน้าที่อย่างสุขสันต์
จะหนักนิดเบาหน่อยคอยช่วยกัน
แล้วงานนั้นก็สำเร็จเสร็จด้วยดี
หลังเสร็จงานพวกเราได้พักผ่อน
เที่ยวตะลอนเบิกบานตามวิถี
ร่วมสนุกสุขสันต์กันทุกปี
เหมือน เพณี เคยทำประจำมา
มาบัดนี้ต้องจาก เพื่อน-น้อง-พี่
แม้นยินดีแต่ใจหายคล้ายกันหนา
เคยร่วมงานด้วยกันทุกวันมา
ต้องจากลากันไปให้อาวรณ์
มีเพียงแต่สิ่งดี...นี้มอบให้
จำเรียงไว้ให้ประจักษ์แทนอักษร
แม้ห่างกันแค่ไหนใจอาทร
แทนสุนทรแทนถ้อยร้อยกำนัล
แม้นวันใดนึกได้อาลัยหา
อักษราบทนี้ที่สร้างสรรค์
จะคอยเตือนใจตรึกนึกถึงกัน
นึกถึงวันเคยผ่านไม่นานมา
ขอให้มีชีวีที่ผาสุข
ไร้สิ่งทุกข์สุขสันต์ทุกวันหนา
อยากทำการสิ่งใดในอุรา
ได้สมค่าสมจินต์ถวิลเอยฯ...
23 ธันวาคม 2552 21:00 น.
อรรธนิศา
อยากร้องไห้-ร้องไปให้สาจิต
น้องมีสิทธิ์ทำได้ถ้าใจหมอง
เมื่อถูกความทุกข์ซ้ำเข้าจำจอง
ความโศกครองจนทั่วห้องหัวใจ
มิใช่สิ่งอับอายน่าขายหน้า
เมื่อน้ำตาเอ่อท้นล้นหลั่งไหล
ปล่อยให้มันหลั่งมาสาสมใจ
ชะล้างให้ความโศกวิโยคคลาย
พี่ไม่เคยคิดยั่วหัวเราะเยาะ
อาจเป็นเพราะเคยช้ำระกำหลาย
เมื่อเห็นน้องหมองหม่นทุรนทุราย
จิตพี่ชายก็เศร้าเฝ้ากังวล
แต่น้องเอ๋ยน้องรัก
ต้องรู้จักหักห้ามตามเหตุผล
แม้ชีวิตผิดพลาดไม่อาจทน
อย่าตีตนต่ำค่าว่าเราทราม
อย่าทำตนอ่อนแอแก่ใครเห็น
เชิดหน้าเด่นอย่าให้ใครมาหยาม
หากอยู่เดียวเปลี่ยวเปล่าทุกข์เศร้าลาม
เชิญคนงามหลั่งน้ำตาให้สาใจ
23 ธันวาคม 2552 20:49 น.
อรรธนิศา
อย่าโศกเศร้าไปใยให้หม่นหมอง
จงหยุดร้องไห้เถิดไม่เกิดผล
เช็ดน้ำตาเสียเถิดนฤมล
คนทุกคนต้องรู้สู้ชะตา
อย่าให้ความผิดหวังขังดวงจิต
จะเป็นพิษกร่อนหนักยากรักษา
ควรขับไล่ความทุกข์รุกอุรา
ลุกขึ้นมาสู้โลกอย่าโศกตรม
เธอยังเยาว์เกินกว่าจะมาคิด
เพียงชีวิตครั้งแรกแทรกขื่นขม
ก็ยอมแพ้ต่อมันหวั่นระทม
ใยมิข่มดวงจิตคิดให้ดี
ชีวิตยังก้าวไกลไปอีกมาก
ต้องทุกข์ยากอีกนานผ่านวิถี
จึงจะพ้นอุปสรรคหักชีวี
ค่อยยินดีแย้มยิ้มพริ้มกับมัน
แล้วเธอจะพบสิ่งใสพิสุทธิ์
ถ้าเร่งรุดก้าวไปไม่เหหัน
ทางข้างหน้าที่ดีมีอนันต์
หากฝ่าฟันต่อไปคงได้มา
มวลความหวังทั้งหลายที่ในโลก
หากรอโชคช่วยให้ไม่อาจหา
มือของเรา เท้าของเราเท่านั้นนา
ที่ใช้ฝ่าความหวังได้ดังจินต์