11 ธันวาคม 2552 22:05 น.

คืนนั้น

อรรธนิศา

เสียงดนตรีบรรเลงเพลงหวิวหวาน
พาดวงมานซ่านซึ้งถึงไหนไหน
ลมหนาวปลิวพลิ้วผ่านสะท้านใจ
หอมกลิ่นไอสายลมที่พรมมา

ในคืนนั้นฉันจำดื่มดำจิต
แรกพบมิตรครั้งแรกแปลกนักหนา
เหมือนดังบุญหนุนนำเคยทำมา
จึงได้พาให้พบสบไมตรี

เราได้ออกลีลาศวาดตามเพลง
เสียงบรรเลงพาใจให้สุขศรี
ฉันยังจำภาพซึ้งตรึงฤดี
เมื่อฉันมีเธอใกล้ได้สัมพันธ์

เป็นครั้งแรกที่ฉันนั้นเป็นสุข
ได้สนุกเมื่อเธออยู่เป็นคู่ฉัน
แม้จะเพิ่งรู้จักมักคุ้นกัน
แต่สัมพันธ์มั่นเหมือนเป็นเดือนปี

ฉันจะจำจดไว้ในชีวิต
ขอลิขิตไว้เป็นเช่นสักขี
คืนแห่งความสุขใจในชีวี
จำคืนนี้ไว้มั่นนิรันดร				
11 ธันวาคม 2552 21:43 น.

แด่ 10 ธันวาคม

อรรธนิศา

จากวันนั้นจนวันนี้หนึ่งปีแล้ว
ฉันยังแน่วใจแน่ไม่แปรผัน
ยังซาบซึ้งตรึงจิตมิตรสัมพันธ์
ตั้งแต่วันแรกเริ่มประเดิมมา

แม้เวลาจะผันวันจะเลื่อน
ยังติดเตือนใจตรึงคะนึงหา
ถึงจะต้องเหินห่างในบางครา
วันเวลาชิดใกล้ยังได้เจอ

แม้ว่าไม่บ่อยครั้งยังฉ่ำชื่น
ยังตันตื้นในจิตคิดเสมอ
วันนี้คล้ายวันแรกรู้จักเธอ
จึงเสนออักษรามากำนัล

เพื่อแสดงน้ำใจไมตรีมิตร
ไม่เคยคิดลืมเลือนแม่เพื่อนขวัญ
แม้อยู่ห่างเพียงไหนไม่สำคัญ
เชื่อใจกัน   เท่านั้นมั่นไมตรี				
11 ธันวาคม 2552 21:29 น.

ท่าพระจันทร์วันนี้

อรรธนิศา

ท่าพระจันทร์วันนี้ซิเงียบเหงา
ไม่มีเงาเพื่อนขวัญจิตหวั่นไหว
แต่ก่อนเคยเดินคลอล้อกันไป
นึกคราใดให้เหงาเศร้าชีวัน

หอมจำปีคลี่บานบนลานกว้าง
ฝันยังค้างเมื่อไปไม่พบขวัญ
สนเอนส่ายไหวลู่กู่รำพัน
คิดถึงวันเคยนั่งฟังคลื่นครวญ

เห็นชงโคแย้มบานละลานทั่ว
ที่ริมรั้วร่วงโรยลมโชยหวน
เห็นยอดโดมเสียดฟ้าพารัญจวน
เราเคยชวนกันเดินเพลิดเพลินใจ

จนตะวันเริ่มคล้อยลอยลับฟ้า
ท้องนภาเริ่มหรี่สีสดใส
เรายังนั่งคุยกันไม่หวั่นใคร
จวบจนได้เวลาพาจากกัน

กลับมาเยือนท่าพระจันทร์ในวันนี้
ไม่เห็นมีแม้เงาคนเฝ้าฝัน
เขาลืมแม้ถ้อยคำเคยรำพัน
ลืมคำมั่นจะไม่พรากไม่จากจร				
11 ธันวาคม 2552 21:14 น.

จากยูงทองถึงจามจุรี (2)

อรรธนิศา

ได้แจ้งในคำตอบชื่นชอบจิต
น้ำคำมิตรคิดถ้อยร้อยคำขวัญ
ยินดีที่น้องตอบชอบสัมพันธ์
เพียงแค่นั้นก็ตรึงซึ้งอุรา

ทั้งคารมคมคำช่างฉ่ำชื่น
หวานระรื่นสนิทใจในภาษา
เข้าใจเปรียบเทียบคำจำนรรจา
ใครจะกล้า ริดใบงาม จามจุรี

น้องบอกพี่ จามจุรี ไม่มีพิษ
มอบแต่มิตรไร้อิจฉา พาสุขศรี
พี่ดีใจได้กิ่งงามจามจุรี
จะปรานีถนอมไว้ในกมล

พร้อมทั้งอยากฟังเสียงสำเนียงแผ่ว
จากน้องแก้วเอ่ยกระซิบสักสิบหน
จากปากของน้องนั้นมั่นใจตน
ความกังวลพี่คงคลายมลายไป

และขอให้หทัยนี้เป็นที่รัก
เมื่อพบพักตร์แย้มยิ้มพริ้มสดใส
ถึงมีบ้างรอยหมองของหัวใจ
ช่วยเก็บไว้รักษาเยียวยาที

ไม่เคยหวังอันดับใดในดวงจิต
เพียงมอบมิตรให้เป็นเช่นสักขี
ถึงเพียงที่สุดท้ายในชีวี
หากพอมีที่ว่างวางดวงใจ

พี่อยู่ไหนใจระลึกนึกถึงขวัญ
ไม่มีวันเลือนลืมปลื้มคำไข
ถึงจะอยู่แห่งหนตำบลใด
จะส่งใจคำนึงถึงแต่เธอ

และขอให้มิตรภาพเราราบรื่น
และยั่งยืนสดใสใหม่เสมอ
ถึงอยู่ห่างต่างฟ้าอาจมาเจอ
แล้วอย่าเผลอลืมทักสมัครกัน

หากคำนึงถึงกันในวันไหน
เขียนส่งไปถึงบ้างเพื่อสังสันทน์
พี่จะรอรับถ้อยร้อยรำพัน	
คิดว่าขวัญคงตอบให้ชอบใจ

แม้จะไม่กี่คำที่ถามถึง
พี่ก็ซึ้งใจยิ่งกว่าสิ่งไหน
ถึงอักษรที่ฝากมาจากใคร
ก็คงไม่หวานซึ้งตรึงอุรา

 
ป.ล. คนสวยสวยอาจพบประสบได้
คนถูกใจอยากนักที่จักหา		
ต่อให้งามสะพรั่งทั้งกายา
หรือจักมาเทียมท้นคนถูกใจ
				
24 พฤศจิกายน 2552 10:56 น.

เหมือนจะบดหัวใจให้เป็นแผล

อรรธนิศา

ได้พบเธอวันนี้...........ฤดีเศร้า
มันร้อนเร่ารุมจิตไม่คิดฝัน
คนเคยรัก ภักดี  มีสัมพันธ์
ใยต้องหันหลบหน้าเมื่อมาเจอ

เหมือนดังไฟไหม้รานผลาญดวงจิต
ไม่เคยคิดคาดฝันหวั่นเสมอ
คนที่ได้พบเห็นจะเป็นเธอ
ทำเมินเหม่อหนีหน้ามาจากกัน

หากเป็นเธอพบเห็น เช่นฉันบ้าง
ด้วยท่าทางเธอแสดงแสร้งสร้าง สรร
สภาพที่เธอเห็นเช่นเดียวกัน
ใจเธอนั้นจักร้าวสักเท่าใด ?

มันเหมือนกับความหวังเริ่มพังสูญ
คงอาดูรหมองหม่นสุดทนไหว
รักคงเลื่อนเลือน ลางยิ่งห่างไกล
และคงไม่มีวันหันมาแล

ความผิดหวังครั้งนี้ที่ได้รับ
มันเหมือนกับบดหัวใจให้เป็นแผล
จะยอมอยู่อย่างเหงาเปล่าดวงแด
รับความแพ้พ่ายไว้กับใจตน				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟอรรธนิศา
Lovings  อรรธนิศา เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอรรธนิศา
Lovings  อรรธนิศา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอรรธนิศา
Lovings  อรรธนิศา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอรรธนิศา