5 กุมภาพันธ์ 2553 23:05 น.
อรรธนิศา
อยากได้ยินสำเนียงเสียงเสนาะ
ลำนำเพราะจากน้องลองเฉลย
ด้วยมิได้ร่ายคำร่ำภิเปรย
จนล่วงเลยหลายเดือนเหมือนเลือนลา
จึงขอฝากน้ำถ้อยร้อยมาให้
ถึงอยู่ใกล้เหมือนไกลเกินไปหา
ด้วยภาระหน้าที่มินำพา
จึงผ่านมาผ่านไปไม่พบกัน
เกือบครบรอบสองปีที่รู้จัก
ช่างเร็วนักจนจิตคิดว่าฝัน
นึกก็แปลกในจิตมิตรสัมพันธ์
เพียงเจอกันครั้งแรกไม่แปลกใจ
กลับมาได้ร่วมงานการเคหะ
แม้ว่าจะต่างแผนก ช่างแปลกไหม ?
ไม่เคยคิดคาดฝันสัมพันธ์ไกล
เหมือนสายใย จามจุรี มี ยูงทอง
ยังนึกถึงน้ำถ้อยเคยร้อยให้
อยากจะได้รวมกลอนวอนสนอง
เมื่อไหร่ที่เงียบเหงามาเข้าครอง
อ่านทำนองเสียงเสนาะก็เหมาะใจ
เหมือนมีตัวอยู่ใกล้ไว้คุยด้วย
กลอนจะช่วยพาชีวิตจิตสดใส
ถ้าจำได้ไม่ลืมคงปลื้มใจ
เขียนมาให้อ่านบ้างอย่างที่เคย
ก่อนจบคำ ลำนำที่มีมาให้
ขอฝากใจฝากพรวอนเฉลย
ให้น้องพี่มีสุขทุกอย่างเคย
ความทุกข์เลยราร้างให้ห่างกาย
ให้พบมิตรแสนดีในชีวิต
คอยเอาจิตเอาใจไม่ห่างหาย
พี่จะรอข่าวดีที่แย้มพราย
ขอพี่ชายยินดี งานนี้คน
5 กุมภาพันธ์ 2553 22:44 น.
อรรธนิศา
เราพบกันวันนี้ยังมีค่า
มองท้องฟ้าชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝน
หลังจากที่หมอกฝ้ามาปิดปน
ให้กมล คนดี นี้เขวไป
ฉันไม่เคยคิดโกรธโทษใครผิด
เธออาจคิดมากล้นจนหวั่นไหว
เพียงอารมณ์วูบเดียวที่เหนี่ยวใจ
ก็พาให้ลืมคิดผิดชอบตน
ฉันดีใจที่เราได้เข้าจิต
ลืมความคิดที่ใจไร้เหตุผล
หันมารับความจริง-ทิ้งกังวล
จึงกมลสองเราเข้าใจดี
เราพบกันวันนี้มีค่ายิ่ง
เพราะความจริงจากใจย่อมไม่หนี
ศรัทธา ที่เคยซึ้งจึงทวี
เริ่มไมตรีเช่นเก่า เราให้กัน
4 กุมภาพันธ์ 2553 22:19 น.
อรรธนิศา
เธอนั้นเปรียบเสมือนเพื่อนผู้หนึ่ง
เพื่อนผู้ซึ่งซึ้งในไมตรีฉัน
รู้ความคิดน้ำใจให้ต่อกัน
จึงสัมพันธ์มั่นจิตสนิทมา
ฉันภูมิใจในเธอเสมอมาก
แม้ทุกข์ยากเพียงใดยังใฝ่หา
ทุกสิ่งที่คิดช่วยด้วยศรัทธา
และซึ้งค่าเคยให้ไว้ต่อกัน
มีเพื่อนแท้แค่หนึ่งก็ซึ้งจิต
ซึ้งเพราะมิตรเยื่อใยในตัวฉัน
แม้จะมีสิ่งอื่นสักหมื่นพัน
แลกเธอนั้นฉันไม่ใฝ่ยินดี
3 กุมภาพันธ์ 2553 23:10 น.
อรรธนิศา
ฉันรักเธอยิ่งกว่าใครในโลกนี้
เธอคือที่ความหวังตั้งใจหมาย
เป็นทั้งเพื่อนเตือนจิตสนิทกาย
เป็นเพื่อนตายถ่ายแทนแสนเอาใจ
แม้ทุกสิ่งที่ฉันหวั่นพลั้งพลาด
เธอก็วาดศรัทธามาสดใส
ให้ฉันยืนหยัดสู้อยู่ต่อไป
ไม่หวั่นไหวอุปสรรคหักชีวี
แล้วฉันก็พบสิ่งที่ยิ่งใหญ่
ฉันภูมิใจเธอนักสมศักดิ์ศรี
สมกับเป็นแม่พระที่แสนดี
เป็นแม่ศรีแม่เรือนเป็นเพื่อนใจ
3 กุมภาพันธ์ 2553 22:20 น.
อรรธนิศา
เวลาสอบใกล้มาอีกคราแล้ว
ไม่มีแววทีท่าว่าขยัน
หยิบตำรามากางบ้างเหมือนกัน
ก็หน้านั้นอย่างเดิมไม่เพิ่มเลย
สายตาจ้องมองเพ่งเขม็งแน่
ก็ที่แท้หลับในจึงได้เฉย
หยิบตำรามากางเหมือนอย่างเคย
ไม่ลงเอยสิ้นสุดยุติลง
ก็จะให้ท่องบ่นกี่หนเล่า
เมื่อมีเงาของใครชวนไหลหลง
ไม่อาจตั้งจิตใจให้มั่นคง
เพราะพะวงเห็นได้ในตำรา
พยายามพลิกผ่านอ่านหน้าอื่น
ก็ยังตื่นตาเห็นเด่นหนักหนา
จนต้องฝืนดวงจิตปิดดวงตา
อนิจจายังเห็นไม่เว้นวาย