26 มีนาคม 2548 01:37 น.
อนาลัย
..เหมือนดังกับว่า นานแสนนานที่ผ่านมา เคยได้เดินตามหลังใครบางคน ที่วัดพระธาตุไชยา เสียงระฆังดังเหง่งหง่าง เหง่งหง่าง ใกล้ๆหู แต่เสียงใครบางคนแจ่มชัดยิ่งกว่า
เคยฟังเพลงนี้ไหม... เสียงเพลงที่เหมือนเคยร้องคลอเจื้อยแจ้วอยู่ในความทรงจำ วันนั้นที่พี่ชายอาจไม่ได้ตั้งใจร้อง แต่เจ้าน้องสาวจอมเฮ้วก็แอบจดจำไว้ เหมือนกับค่ำคืนนี้ ที่เหมือนยังคงจะได้ยิน....
....จึงอยากฝากบทเพลงนี้มากับสายลม...
..ยินแผ่วแว่วหวาน เสียงระฆังดังจากใจฉัน
บอกสัญญาณว่าฉันรักเธอเข้าแล้ว
เสียงแผ่วๆไกล แต่มีความหมายอันเพริศแพร้ว
จำเรียงแจ้ว..แว่วๆสั่งระฆังใจ
..แฝงด้วยมนต์ขลัง เร้าอารมณ์ปนกลิ่นมาลา
ปลุกหัวใจความรักพริ้วมา..อ่อนไหว
ฉันฝากความรักกับระฆังขาน ดังซ่านซึมใจ
จงซึมซึ้งทรวงใน จงสั่นระฆังใจเธอได้ยินถึงกัน
แม้วันนี้เสียงระฆังยังดังอยู่
แต่ก็รู้ความหมายใหม่ในใจว่า
เป็นสัญญาณเรียกปลุกทุกเวลา
ตื่นเถิดหนามาทำวัตร..หัดสวดมนต์..
....ตีสามครั้งก่อนรุ่งเช้าเข้าครัวก่อน
ตีอีกตอนจ็ดนาฬิกาเตรียมอาหาร
ถวายสำรับครูบาพระอาจารย์
แปดโมงอ่านคำสวดมนต์จนขึ้นใจ...
..............
....
ไม่มีแล้วเสียงระฆังดังจากใจฉัน
ไม่มีแล้วเสียงสัญญาณในวันเก่า
มีแต่เสียงเตือนตัวว่าอย่ามัวเมา
อย่าหลงเอาภาพเก่าเก่ามาเฝ้าชม
24 มีนาคม 2548 18:37 น.
อนาลัย
ยามเหนื่อยล้าอ่อนแรงเหมือนแกล้งเศร้า
อยากมีเธอมาเข้าใจเหมือนวันก่อน
แต่ไม่มีหรอกหนามาตัดรอน
มีแต่เพียงคำกลอนสอนตัวเอง
ค่ำคืนนี้ฉันเองก็อยากรู้
เธอเป็นอยู่อย่างไรหนอคนเก่ง
ฉันนั้นอยู่กับความเหงาเศร้าวังเวง
กับเสียงเพลงเก่าเก่าที่เราฟัง
เพียงแค่เหนื่อยอ่อนล้ากับงานยาก
เพียงแค่อยากหลับตาหาความหวัง
เพียงแค่อยากหยุดนิ่งอย่างจริงจัง
เพียงแค่อยากนั่งร้องไห้ใกล้ใกล้เธอ
คิดถึงนะแต่ว่าไม่นานหรอก
ฉันยังหลอกตัวเองได้เสมอ
เพียงแค่อยากฝากกลอนไปให้ถึงเธอ
ฉันนั้นคิดถึงเธอเสมอไม่เคยลืม