28 เมษายน 2549 17:48 น.
อนาลัย
สวัสดี..พี่ชาย
ตกใจไหมที่ได้เห็นหน้า
ยืนจ้องมองกันเต็มตา
งงเกินกว่าทีจะหลบไป
สบายดีหรืออย่างไร
ทำไมถึงมาที่นี่
จากกันมาเนิ่นนานปี
ตัวอ้วนพี..นะเรา
กับรอยยิ้มบางบาง
ไม่เหมือนอย่างที่เคยเห็น
แอบหลบหน้าซ่อนเร้น
เป็นอย่างที่เคยเป็นไม่ได้แล้ว
26 มกราคม 2549 01:41 น.
อนาลัย
นานมาแล้วมีใครคนหนึ่งนำบทกลอนมาให้อ่าน
"ถ้าหากว่าจะรัก......."
.........................
ถ้าจะรักฉัน จงรักทุกสิ่งทุกอย่างในตัวฉัน
ทั้งสองมือสองแขน ที่เต็มไปด้วยรอยแผล
ถ้าจะรักฉัน อย่ายึดเหนี่ยวฉันไว้เพียงในอ้อมกอด
ปล่อยให้ฉัน ได้มีโอกาสสูดลมหายใจแห่งเสรีภาพบ้าง
ถ้าจะรักฉัน ขอให้รักในความเป็นฉัน
อย่าได้พยายามเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
เพราะว่ามันฝังลึกอยู่ในสายเลือดและวิญญาณแล้ว
ถ้าจะรักฉัน อย่าได้หวังอะไรมาก
ด้วยบางครั้งฉันอาจทำไม่ได้ ฉันจะเป็นเท่าที่ฉันเป็นเท่านั้น
ถ้าจะรักฉัน ไม่จำเป็นต้องเดินตามหลังหรือนำหน้า
เคียงข้างฉันเถิด แล้วเราจะเริ่มก้าวไปด้วยกัน
ถ้าจะรักฉัน มองขึ้นไปบนแผ่นฟ้าสิ
ฉันอยู่ที่นั่น ทุกหนแห่งที่ไร้ขอบเขต
วันนั้น ยังเด็กนัก อ่านบทความแล้วก็แสนเศร้า เข้าใจว่าคนที่อ่านให้ฟัง (และบอกให้เราเก็บไว้ ) เขาคงรู้แล้วว่าเรารู้สึกอย่างไร และคงไม่อยากจะให้เรามารักเขา
จึงเขียนบทความตอบไป จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเก็บไว้ ไม่กล้าอ่านให้เขาฟัง....คงมีแต่ท้องฟ้าและเพื่อนักกลอนเท่านั้น ที่จะได้รู้
คำบอกเล่า...... ก็เพราะว่า ฉันรักเธอ
เพราะว่าฉันรักเธอ ฉันจึงรักในทุกสิ่ง
ที่ได้มองเห็น
เพราะว่าฉันรักเธอ ฉันจึงโอบกอดเธอไว้ด้วยสองแขน
มิได้ยึดเหนี่ยวผูกพัน ให้เธอสิ้นสิทธิ์อิสระใดๆ
ก็เพราะว่า เธอสร้างความรู้สึกให้ฉัน ...อบอุ่นและคุ้นเคย
ฉันจึงต้องการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง
...เปลี่ยนแปลงหัวใจเธอ ให้มองเห็นฉัน
ฉันจึงรักเธอ รักอย่างที่ฉันหวังอยากจะได้รัก
แต่เป็นรักที่ไม่กล้าอยู่เคียงข้าง
ไม่กล้าอยู่ข้างหน้า ไม่กล้าอยู่ข้างหลัง
ความรักที่ฉันเคยหวัง จึงมิกล้าบอกเล่าให้เธอเข้าใจ
ด้วยเธอนั้นแม้จะอยู่ใกล้
แต่ก็เหมือนอยู่ไกล ....ไกลเกินสุดขอบฟ้า
ฉันจึงยังรักเธอ ได้เท่าที่ฉันเคยรัก
รักที่ฉันปรารถนา อยากบอกเธอว่า...สุดที่รัก...
ฉันรักเธอสุดหัวใจ.....
17 มกราคม 2549 16:57 น.
อนาลัย
เคยชื่นชมความใหม่ที่ใจกล้า
เคยห่วงว่าจะเหนื่อยล้าหรือไม่หนอ
อยู่ท่ามกลางเทือกเถาเหล่าสอพลอ
พวกสอสอที่พูดจ้อรอกอบโกย
ยิ่งเวลาผันผ่านยิ่งงานมาก
ยิ่งเหนื่อยยากยิ่งรู้ซึ้งถึงความหมาย
ภาพที่สร้างงดงามไว้ก็กลับกลาย
ลบความหมายผู้นำดีที่ชื่นชม
เสียงที่สิบเก้าล้านคนหนึ่งจึงตายไป
ถ้าลองนับดูใหม่จะขื่นขม
เสียงที่ซื้อมาอาจเปลี่ยนไปให้ตรอมตรม
ความนิยมอย่างจริงใจหายไปแล้ว
เพียงแค่อยากฝากคำลำนำกลอน
ใช่อยากสอนผู้นำที่ยิ่งใหญ่
น้ำคำที่อ้างถึงผองพี่น้องไทย
สิบเก้าล้านที่เลือกไว้...หายไป..หลายคนแล้ว
1 ธันวาคม 2548 23:06 น.
อนาลัย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขออาศิรวาท
กราบใต้เบื้อง พระบาท องค์ราชันย์
พระมหาราช ผู้ทรง เถลิงถวัลย์
คุ้มครองขวัญ ปกเกล้า เหล่าประชา
ขอพระองค์ ยิ่งทรง พระเจริญ
ทวยเทพซ้อง สรรเสริญ ทุกแหล่งหล้า
ขอพระองค์ ผู้ทรง พระเมตตา
จำเริญยิ่ง พระชันษา..พระปัญญา..พระบารมี
ขอพระองค์ ทรงสำราญ พระราชหฤทัย
เหล่าปวงข้า..ปวงประชา ชาวไทย ทุกถิ่นที่
น้อมรำลึก สำนึกยิ่ง แห่งคุณ พระภูมี
เหงื่อทุกหยด ที่รดหยาด ปฐพี ...คือสิ่งที่ ปณิธานไว้ ถวายพระองค์
ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ขอน้อมกราบ อยู่ใต้เบื้อง พระบาทบงส์
ถวายพระพร..พระภัทร..พระมหา ธำมรงค์
เกริกพระเกียรติ ก้องดำรง คู่แผ่นฟ้า มหานที
ขอพระองค์ พระผู้สถิตย์ เหนือถิ่นไทย
เป็นมิ่งขวัญ อยู่เหนือใจไทยทุกที่
เกล้ากระหม่อม น้อมถวาย กายใจ เป็นชาติพลี
เพื่อดำรงรักษาผืน..แผ่นดินนี้ ..ให้พ่อหลวง ของปวงชน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ผู้ประพันธ์ในนามว่า อนาลัย
ขอน้อมถวายพระพร และให้คำสัตยปณิธาน
เป็นข้าราชการแห่งพระมหาราชาไทย.
1 ธันวาคม 2548 01:28 น.
อนาลัย
ความคิดถึงมีมากมาย ฝากบอกไปกับสายลม
ความเศร้าที่ขื่นขม มิอาจข่มใจให้ลืมเลือน...
ฝากบอกไปกับสายลมหนาว
ฝากบอกไปกับดวงดาวและดวงเดือน
ฝากความคิดถึงไปกระซิบเตือน
หวังว่าความคิดถึงนั้น..คงไม่เลือนหายไป..จากใจเธอ
ก็คงมีเพียงแค่ความคิดถึง ลึกซึ้งอยู่ในหัวใจเสมอ
ก็คงแค่รอวันที่จะได้มาพบเจอ
พูดคุยกันเหมือนเพื่อนเกลอวันเจอกัน
ค่ำคืนนี้มีงานอีกมากมายที่ต้องทำ แต่ความรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานมีมากกว่าความรู้สึกที่คิดถึงใครบางคน คงเป็นเพราะความใกล้ชิด คงเป็นเพราะความเหงา และคงเป็นความรู้สึกที่ต้องการมีใครบางคนทดแทนใครบางคนที่จากไป ความรู้สึกนี้แสนเศร้าจังเลยนะ บอกเล่าให้คนที่รู้จักกันฟังไม่ได้ นอกจากบอกเล่ากับตัวหนังสือและหัวใจของตัวเอง
ใกล้จะตีหนึ่งแล้ว แต่ไม่อยากนอน ดาวหลายดวงบนฟ้าทอแสงจ้ากับกลุ่มเมฆสีขาว ยืนมองเพียงชั่วครู่ ลมหนาวปะทะใบหน้า แต่ความเหงาปะทะเข้ากลางหัวใจ คิดถึง มากเลยนะ คิดถึงคนที่ไม่มีโอกาสจะได้ใกล้ชิดกันมากกว่านี้
น้ำเดือดแล้ว ชงชาใส่แก้วที่เธอซื้อให้ ..ค่ำคืนนี้ฉันนั่งจิบชากับแก้วของเธอ แล้ววันที่เธอจิบชาของฉันในแก้วของเธอที่ซื้อมาพร้อมกัน เธอจะคิดถึงฉันไหม โลกใบนี้ทำไมแสนเศร้านักนะ แต่ฉันคงบอกให้เธอรับรู้ไม่ได้
นั่งจิบชา..แล้วเปิดเพลงกีตาร์ของนักดนตรีชาวเขาเผ่าคะยัน ที่ซื้อมาจาก หมู่บ้านห้วยเสือเฒ่า เมื่อคราวไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนด้วยกัน เหม่อมองดูตุ๊กตาเผ่ากระเหรี่ยงคอยาว ที่ฉันมอบให้เธอเป็นที่ระลึก หวังว่าเธอคงไม่นำไปเก็บซ่อนไว้ อยากให้เธอเปิดเพลงฟังและนั่งดูตุ๊กตาตัวนั้นบ้าง เพราะฉันหวังเหลือเกินว่า ยามใดที่เธอนั่งจิบชา ฟังเสียงกีตาร์และจ้องมองดูตุ๊กตาตัวนั้น เธอคงจะคิดถึงฉัน คิดถึงวันที่เราหัวเราะและนั่งคุยกันอย่างมีความสุข
ความสุขที่ดื่มด่ำ...ฉันแอบจดจำคำพูดของเธอไว้ เพราะฉันคงทำได้แค่นี้ รอจนกว่าวิถีแห่งชีวิตของเราจะเบี่ยงเบนจากกันไปอีก...
ดึกแล้วนะค่ำคืนนี้ ขอให้เธอหลับฝันดี ก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้เช้านั้น ขอให้เธอได้มองเห็นฉันในความฝันบ้างสักนิด เพราะค่ำคืนนี้ฉันคิดถึงเธอมากจริงๆ