21 มกราคม 2553 18:56 น.
อนงค์นาง
ขอเชิญทุกท่านที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผ้าพันคอคนละหนึ่งผืนให้เด็กชาวเขา บนดอยสะเมิง เชียงใหม่ อนงค์นางจะเดินทางไปแจกระหว่างวันที่ 24-25 ก พค่ะ ท่านใดอยากร่วมไปด้วยกัน หรือไปเองได้จะยินดีเป็นอย่างยิ่งนะคะ ติดต่อได้ที่อีเมล์ของอนงค์นางนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
6 มกราคม 2553 09:03 น.
อนงค์นาง
ไม่อยากเชื่อว่าเข้ามาในบ้านกลอนทีไร ต้องหวั่นไหวไปกับกลอนทุกที มีใครเป็นเหมือนกันบ้างมั้ยคะ ชอบแอบรักกลอน แล้วก็ต้องอกหักทุกที ทั้งที่ในชีวิตจริง ค่อนข้างจะต่างกันมาก เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่พอได้เข้ามาบ้านกลอนที่ไร เป็นอีกคนหนึ่งที่มีโลกของตัวเอง เป็นคนช่างฝัน เป็นคนเจ้าน้ำตา สงสัยจะอ่านนวนิยายมากไปตอนวัยรุ่น เลยสร้างวิมานในอากาศ แต่พอตอนเช้าตื่นขึ้นมา ก็เป็นอีกคนที่ต้องทำงาน ทำหน้าที่ตามปกติ ยุ่งทั้งวัน
อยากรู้จังเลยค่ะว่าเพื่อนๆ เวลาแต่งกลอนนั้น แต่งออกมาจากใจจริงที่คิดในขณะนั้น หรือ ตรงกันข้ามกับกลอนที่แต่ง เป็นคนละคนกับกลอน เป็นมายา หรือเป็นความจริงกันแน่ค่ะ จะได้รู้ว่าใครจริงใจ ใครจิงโจ้ ไม่ไปหลงรักกลอนอีก แหะๆ แต่ตัวเองแล้ว เขียนออกมาจากใจจริงทุกครั้งเลยค่ะ เกิดขึ้นและดับไป ตามกาลเวลา
ถ้าใครพบรักแท้จากกลอนได้ นับว่าโชคดีมากนะคะ ก็ได้แต่ภาวนาขอให้เป็นเช่นนั้น เพราะเพื่อนในบ้านกลอนนี้ ก็นิสัยดี น่ารักกันทั้งนั้น เลยอดหวั่นไหวไม่ได้ ขอสารภาพ เพราะยังเป็นปุถุชนธรรมดาที่ยังตัดกิเลสไม่ได้จนถึงขั้นนิพพาน แค่รักษาศีลห้า โดยเฉพาะข้อสี่ สำคัญมากๆนะคะ
25 ตุลาคม 2552 21:28 น.
อนงค์นาง
1. ถ้ากลับเมืองไทยตอนนี้ ควรมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะอยู่ได้คะ ทำงานโรงเรียนเอกชน เงินเดือนหนึ่งหมื่นบาท อยู่ได้มั้ยคะ หมายถึงตัวคนเดียว ถ้ายังไม่อยากแต่งงานมีครอบครัวเหมือนเดิม แต่อยากเรียนต่อโททางการสอนอังกฤษ พอมีเงินเก็บเป็นค่าเล่าเรียนให้ตัวเอง โรงเรียนเก่าที่เคยสอนเป็นโรงเรียนคาทอลิคในกรุงเทพฯ มีหอพักให้ครูอยู่ฟรี
2. ถ้าไปทำงานกับพี่สาวที่โรงเรียนเอกชน ที่ชลบุรี เงินเดือนเท่ากัน พักอยู่กับพี่ฟรี เรียนต่อที่ม.บูรพา บางแสน
3. ถ้าเป็นครูอาสาสมัครไปอยู่บนดอย เงินเดือนคงไม่มี ต้องใช้ทุนเดิม ไปอยู่กับชาวเขาบนดอยสเมิง เชียงใหม่ เป็นญาติของญาติค่ะ
4. ถ้าแต่งงานอีก อยู่ที่เหมือนเดิม ทำงานไปรษณีย์ เงินเดือนก็ดีพอเลี้ยงตัวได้ค่ะ ได้ดูแลลูกคนเล็กต่อไปจนจบตรี ได้อยู่กับสามีต่อไปจนกว่าจะตายจากกัน
ถ้าถามลูกคนโต ลุกบอกว่าไม่อยากให้แม่แต่งงานอีก จะดูแลน้องให้เอง น้องโตแล้ว อยากให้แม่มีอิสระ หลังจากเหนื่อยมานาน รู้ว่าแม่อยากเรียนต่อ อยากขึ้นดอยตามฝัน
ถามแม่ ก็ตอบเหมือนกับลูกบอกว่าไม่ต้องห่วงแม่ อยากทำอะไรให้รีบทำก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะส่งลูกจนจะจบแล้ว
ถ้าถามใจตัวเอง คงอยากทำตามฝัน เพราะทำหน้าที่แม่และแม่บ้านมานาน อยากลองยืนบนขาของตัวเองดูบ้าง ไม่ใช่เพราะอยากรอใครหรอกค่ะ เรื่องนั้นเป็นเรื่องของกรรม และพรหมลิขิต อยากเดินทาง อยากเรียนต่อ อยากทำงานสักพัก คิดว่าตัวเองยังไม่แก่ชราเกินไป ยังไม่ถึงวัยเกษียณอายุ ยังต่อสู้ได้อีกเป็นสิบปี
ถ้าเพื่อนเป็นอนงค์นางจะตัดสินใจยังไงดีคะ มีแต่เพื่อนในบ้านนี้ที่ให้กำลังใจเสมอมา ช่วยกันออกความเห็นหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ