14 ธันวาคม 2554 11:54 น.
อนงค์นาง
แม่พาลูกเข้าวัดดัดนิสัย
ฝึกจิตใจให้ทานการกุศล
ประเพณีงดงามตามบรรพชน
ไทยทุกคนอนุรักษ์ตระหนักดี
ศีลห้ารักษาไว้ให้พ้นทุกข์
ไม่สนุกตามใจให้หมองศรี
อบายมุขตัดไปอย่าไยดี
หน้าที่มีทำเถิดเกิดเป็นคน
ตั้งใจเรียนให้ดีไม่มีท้อ
หนักเบาต่อสู้ได้่ไม่สับสน
ทำดีได้ดีจริงมิ่งขวัญตน
เยาวชนรุ่นหลังควรชั่งใจ
สิ่งใดที่ไม่ดีจงหนีห่าง
อย่าเปิดทางเข้าตัวมัวหวั่นไหว
ใจมั่นคงความดีมีปลอดภัย
ชีวิตไม่ตกอับเพราะรับธรรม
ขอบพระคุณพ่อแม่ที่ให้ชีวิต ให้การเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีของสังคม ลูกได้ดำเนินรอยตามเลี้ยงดูลูกๆให้เป็นคนดีของสังคมเพราะพระคุณของพ่อแม่
11 ธันวาคม 2554 19:41 น.
อนงค์นาง
เมื่อถึงวัยชราน่าพิศวง
ความมั่นคงทางใจใช่ทรัพย์สิน
มองโลกไม่สับสนไม่ยลยิน
เกียรติกามสิ้นสมมุติสุดผ่อนคลาย
เราต่างมาลำพังรักชังชอบ
คิดต่างตอบปัญหามีมาหลาย
ต่างวิถีเลือกเดินเพลินใจกาย
บทสุดท้ายลาลับกับกองฟอน
เหลือความชั่วความดีที่ทำไว้
ตายเมื่อไหร่โผล่ผุดดุจสิงขร
ยังคงอยู่คู่ฟ้าน่าอาทร
ลูกหลานอ่อนเยาว์วัยสนใจมอง
ขออยู่อย่างเข้าใจไปกับโลก
ขอมองโศกสุขมีที่หม่นหมอง
ปล่อยวางไม่ยึดติดคิดครอบครอง
ไม่ร่ำร้องสุขสันต์นิรันดร
11 ธันวาคม 2554 15:15 น.
อนงค์นาง
ตื่นเช้าแต่ละวันฉันตั้งจิต
ว่าชีวิตวันนี้ยังมีหวัง
กำลังใจต่อสู้คู่พลัง
กายใจยังสัมพันธ์กันด้วยดี
คิดพูดทำกรรมใดใจผ่องแผ้ว
คงไม่แคล้วสุขจริงทุกข์วิ่งหนี
ศีลห้านั้นทำเถิดประเสริฐดี
ทุกชีวีปลอดภัยไม่ร้อนรน
มีปัญหาอะไรแก้ไขก่อน
อย่าใจร้อนวู่วามถามเหตุผล
ไม่เข้าข้างตนเองข่มเหงคน
นิ่งอดทนไว้บ้างอย่างเมตตา
ไม่คิดร้ายต่อชาติศาสน์กษัตริย์
จงยืนหยัดกตัญญูรู้ศึกษา
ทำการงานให้ดีมีวิชา
ผู้ด้อยกว่าช่วยเขาเราได้บุญ
6 ธันวาคม 2554 10:12 น.
อนงค์นาง
ขอปลดบ่วงจากใครให้คลายเศร้า
ทำใจเราให้ว่างห่างไกลหนี
เพราะว่าใจอึดอัดขัดฤดี
ติดยึดมีความรักปักอุรา
คลายจากบ่วงห่วงหาพาสงบ
ไม่ต้องหลบหน้าใครสุขใจหนา
แค่ปล่อยวางอารมณ์ข่มใจลา
โล่งใจกว่ายึดมั่นฝันกลางวัน
เป็นตัวของตัวเราไม่เหงาหรอก
ไม่ช้ำชอกชีวาน่าสุขสันต์
รักมากไปไม่ดีมีจากกัน
ใจว่างพลันหมดเศร้าเข้าใจธรรม
จากนี้ไปไร้บ่วงความหวงหึง
ไม่โกรธขึ้งเกลียดใครไม่ถลำ
ทำใจตนให้ว่างสว่างนำ
มีแสงธรรมส่องทางอย่างคนดี
ความรัก ความหลง เป็นบ่วงที่คนพากันแบกไว้ให้หนักจิตใจ
ถ้าปล่อยบ่วงได้เมื่อไหร่ ใจก็เบาสบาย