27 มกราคม 2555 22:44 น.

กองร้อยน้ำหวาน

อนงค์นาง

13272248631327224952l.jpg
ตำรวจหญิงกี่เพ้า กองร้อยน้ำหวาน

ตำรวจไทยใจกล้าช่างน่ารัก 
งามสมศักดิ์สตรีไทยในสยาม 
ใช่รูปสวยรวยทรัพย์ประดับนาม 
ทุกเขตคามชื่นชมสมความดี

				
27 มกราคม 2555 21:23 น.

จงรัก

อนงค์นาง


          โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต
     และโปรดอย่าถามว่าอดีตฉันเคยรักใคร
     รู้ไว้อย่างเดียวเดี๋ยวนี้รักเธอและรักตลอดไป
     รักมากเพียงไหนกำหนดวัดได้เท่าดวงใจฉัน

          อย่าเพียรถามว่าฉันจะรักเธอนานเท่าใด
     ฉันตอบไม่ได้ว่าฉันจะรักชั่วกาลนิรันดร์
     เพราะชีวิตฉันคงไม่ยืนยาวไปถึงปานนั้น
     รู้แต่เพียงฉันหมดสิ้นรักเธอเมื่อฉันหมดลม

คำร้อง-ทำนอง    จงรัก จันทร์คณา
     ขับร้อง          สุเทพ วงศ์กำแหง, ทิพย์วัลย์ ปิ่นภิบาล


  ไม่อาจที่จะแต่งกลอนถ่ายทอดความรู้สึกให้สามีได้ ขออนุญาต ถ่ายทอดผ่านบทเพลงนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณที่ห่วงใยและดูแลดิฉันอย่างดีที่สุดในยามที่ป่วยหนัก ขอบคุณที่เป็นพ่อที่ดีของลูก เป็นสามีที่ดีของภรรยา ชีวิตอาจไม่ราบรื่น แต่เราก็ฝ่าฟันร่วมกันมาได้จนทุกวันนี้ ขอบคุณที่เราได้เกิดมาคู่กัน คำมั่นสัญญาของเราคือเราจะครองรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
BGBG
วันจบการศึกษาระดับ High School
BG
วันจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
asyncBGBGBGasync				
27 มกราคม 2555 20:59 น.

ศิลปินแห่งชาติ

อนงค์นาง


ศิลปินแห่งชาติประกาศผล 
รางวัลคนทำดีที่เสาะหา 
ผลงานมีช้านานผ่านเวลา 
สร้างคุณค่าชื่นชมสมศิลปิน 

ผู้คว้ารางวัลศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2554 ในสาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และ สาขาศิลปะการแสดง มีดังต่อไปนี้
 
สาขาทัศนศิลป์ ได้แก่

นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม

นายเมธา บุนนาค สถาปัตยกรรม

นายทองร่วง เอมโอษฐ สาขาทัศนศิลป์ ประณีตศิลป์-ศิลปคนะปูนปั้น

สาขาวรรณศิลป์ ได้แก่

นายประภัสสร เสวิกุล สาขาวรรณศิลป์ นวนิยายและกวีนิพนธ์

นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี สาขาวรรณศิลป์ เรื่องสั้นและกวีนิพนธ์

สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่

นางรัจนา พวงประยงค์ สาขาศิลปะการแสดง นาฏศิลป์ไทย-ละคร

นายนคร ถนอมทรัพย์ สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีสากล-ประพันธ์และขับร้อง

นายเศรษฐา ศิระฉายา สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง 

รศ.สดใส พันธุมโกมล สาขาศิลปะการแสดง ละครเวทีและละครโทรทัศน์

เป็นแฟนเพลงคุณเศรษฐา ตั้งแต่วัยรุ่นค่ะ
 ขอแสดงความยินดีกับศิลปินแห่งชาติทุกท่านที่ได้รับรางวัลค่ะ 
				
13 มกราคม 2555 15:37 น.

ทุ่งกุลาอย่าร้องไห้

อนงค์นาง

11.jpg
ลูกหลานทุ่งกุลาอย่าร้องไห้ 
ข้าวหอมไทยมีชื่อเลื่องลือเสมอ 
อย่าขายที่ให้เขาหูเบาเบลอ 
ขุดดินเจอน้ำมันฝันเลื่อนลอย 

แหล่งปลูกข้าวให้โลกน่าโศกเศร้า 
นายทุนเอาเงินซื้อดื้อไม่ถอย 
ไร่ละสามแสนบาทคาดหวังคอย 
รถใหม่ถอยออกมาน่ายินดี 

คิดให้ดีเสียก่อนอย่าร้ิอนจิต 
เงินเป็นพิษอย่าด่วนม่วนอีหลี 
ไม่รวยมีผืนดินทำกินดี 
ลูกหลานมีมรดกตกทอดนาน  
asyncasync

อ่านข่าวเกี่ยวกับบริษัทขุดน้ำมันกว้านซื้อที่นาที่อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เพราะพบว่ามีน้ำมันใต้ดิน ชาวนาบางคนขึ้นราคาีที่นาไร่ละล้าน บ้านเกิดดิฉันอยู่ในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด อาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และมลภาวะทางอากาศที่เป็นพิษ ไม่อยากให้ทุ่งกุลาเป็นนิคมอุตสาหกรรมเหมือนทางภาคตะวันออกเลยค่ะ เพราะเป็นแหล่งปลูกข้าวให้คนไทยและชาวโลกที่ควรรักษาไว้ ถ้าชาวนาไม่ขายที่ให้นายทุน ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น ปีที่ผ่านมาที่นาของดิฉันและสามีได้ผลผลิตดีกว่าทุกปี บางปีอาจขาดทุนเพราะขาดฝน แต่เป็นที่ของบรรพบุรุษที่ตกทอดต่อกันมา แบ่งกันแล้วไม่มากมาย แต่ถ้าทุกคนไม่ยอมขาย จะไม่มีใครมาบังคับเราได้
async

แม้ชีพวายอย่าหมายจะได้ครอง...... ขอปกป้องปฐพีที่เกิดมา

ที่นาของเรายังมีอยู่เพื่อรุ่นลูกหลานได้ทำกินกันต่อไป แม้ไม่ได้เป็นชาวนาเอง แต่ยังทำประโยชน์ให้ชาวนาที่มีอาชีพทำนาแบ่งปันข้าวจากผลผลิตได้ พอมีพอกินกันมาตลอด




ทุ่งกุลาร้องไห้ มีเนื้อที่ 2,107,681 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ในแนวทิศเหนือนั้นครอบคลุมอำเภอปทุมรัตต์ อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอสุวรรณภูมิ และอำเภอโพนทราย ของจังหวัดร้อยเอ็ด ในแนวทิศใต้มีลำน้ำมูลทอดยาวตลอดพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ในแนวทิศตะวันตกผ่านอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร และอำเภอพยัคฆภูมิพิสัยของจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ประมาณ 3 ใน 5 นั้นอยู่ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด
สาเหตุที่ทุ่งกว้างแห่งนี้ได้ชื่อว่าทุ่งกุลาร้องไห้นั้น มีเรื่องเล่ากันว่า พวกกุลาซึ่งเป็นพวกที่เดินทางค้าขายระหว่างเมืองต่างๆ ในสมัยโบราณได้ชื่อว่าเป็นนักต่อสู้ คือ มีความเข้มแข็งอดทนเป็นเยี่ยม แต่เมื่อพวกกุลาเดินทางมาถึงทุ่งนี้ ได้รับความทุกข์ยากเป็นอันมากถึงกับร้องไห้ เพราะตลอดทุ่งนี้ไม่มีน้ำหรือต้นไม้ใหญ่เลย ฤดูแล้งแผ่นดินก็แห้งแตกระแหง ซึ่งเป็นพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ในอดีต ปัจจุบันเป็นที่ทำการของศูนย์พัฒนาที่ดินทุ่งกุลาร้องไห้ กรมพัฒนาที่ดิน ทุ่งกุลาร้องไห้อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอสุวรรณภูมิ 6 กิโลเมตร เลยกู่พระโกนาไปประมาณ 200 เมตร ตรงข้ามกับโรงเรียนโสภาพิทยาภรณ์

ขอบคุณข้อมูลและภาพจากอินเตอร์เน็ต
				
11 มกราคม 2555 10:06 น.

อย่าด่วนจากไปเลยนะ

อนงค์นาง

async
async
รถคันนี้ Benz ปี 1982  ซื้อต่อจากเพื่อนพี่ชายในราคา 1000 เหรียญค่ะ พี่ชายเป็นช่างซ่อมรถเลยดูแลให้อย่างดี เสียเงินเปลี่ยนอะไหล่มาก็ไม่น้อย ตอนนี้พื้นใต้เบาะที่นั่งข้างคนขับสนิมขึ้น นั่งไปทางไกลไม่ได้ ยิ่งตัวหนักๆแบบดิฉันยิ่งอันตราย อาจร่วงไปกองกับพื้นถนนได้ ถ้าซ่อมใหม่ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นเหรียญ พี่ชายไฟเขียวให้ซื้อรถใหม่ได้เพราะไม่คุ้มค่าซ่อม แต่สามีและดิัฉันรักมาก ใช้มาห้าปีแล้วค่ะ ยังตัดใจไม่ได้เลยค่ะ ปัจจุบันสามียังใช้ขับไปทำงานได้อยู่ค่ะ แต่นั่งข้างคนขับไม่ได้ ไปไหนทั้งบ้านจะใช้รถอีกคัน

asyn
คันนี้ของดิฉัีนค่ะ Nissan Maxima 1992   เปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ใช้ได้ดีีมาก เราไม่อยากเป็นหนี้ด้วยการซื้อรถใหม่ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่อยากจ่ายมาก เก็บเงินไว้ไปตั้งตัวที่บ้านเกิดดีกว่า่ค่ะ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอนงค์นาง
Lovings  อนงค์นาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอนงค์นาง
Lovings  อนงค์นาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอนงค์นาง
Lovings  อนงค์นาง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอนงค์นาง