9 กันยายน 2555 16:19 น.
อนงค์...นาง
อุษาสวรรค์
นภาเรื่อแสงนวลชวนใจฝัน
ม่านฟ้าพลันเบิกทางกลางอุษา
พาความคิดจิตใจให้ตรึงตรา
ดั่งวิญญาลอยล่องท่องเมืองแมน
แสนตื่นตาตื่นใจในธานี
ดวงฤดีหรรษาพาหวงแหน
แดนสวรรค์ไขว่คว้ามาทดแทน
ความจริงแสนห่างไกลในโลกันต์
หันทางไหนผู้คนสนใจธรรม
ดื่มด่ำนำทางใจใฝ่สุขสันต์
อันเงินตรามาลวงบ่วงสัมพันธ์
ไม่พบพลันปล่อยวางอย่างเข้าใจ
ในคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อย่าปล่อยเศร้าครองใจให้หวั่นไหว
ไม่ตระหนกอกสั่นพรั่นพรึงไป
แม้อยู่ในวิบากพลันภยันตราย
กายอาจดับลับลาอย่าอาวรณ์
ปลงวางก่อนปล่อยไปใจมุ่งหมาย
คลายเศร้าโศกห่วงหาพามลาย
จิตสบายดับขันธ์นิรันดร
3 กันยายน 2555 14:22 น.
อนงค์...นาง
อยากได้รถคันใหม่ถูกใจสาว(แก่)
ไม่ต้องดาวน์จ่ายสดปลดหนี้ใหม่
ได้สีแดงถูกโฉลกโชคอวยชัย
สามีไฟเขียวให้ซื้อไปเลย
ยี่ห้อดีบีเอ็มเอ๊กซ์ดูเซ็กซี่
ลมโกรกดีไร้แอร์แม้ร้อนเฉย
เผยจากใจถูกแท้แม่ทรามเชย
ซื้อได้เลยไม่ต่อขอสักคัน
ทุบกระปุกออมสินอดกินขนม
นั่งตากลมวาดไปในความฝัน
น้ำมันไม่ต้องเติมเพิ่มพิษควัน
ยางแตกนั้นซ่อมได้อย่ากังวล
จะยกรถไปเจิมเสริมราศี
อนงค์มีวาสนาอย่าหมองหม่น
บนถนนปลอดภัยไม่ทุกข์ทน
ไม่สับสนทนสู้อยู่ต่อไป
เนื่องจากที่ทำงานไปรษณีย์อยู่ใกล้บ้านพักขับรถไปแค่ 10นาที
พี่ชายจะยกรถไครส์เลอร์มินิแวนที่ได้มาฟรี เอามาซ่อมให้น้องเขยใช้
เพราะเบนซ์ปี 1982 นั้นซ่อมไปก็ไม่คุ้ม อพาร์ทเมนท์ให้ที่จอดรถฟรีได้แค่สองคันค่ะต้องเอาเบนซ์เก่าออกไป เลยจะเอาไปบริจาคตามที่ลงในหน้าหนังสือพิมพ์
น้ำมันก็แพงขึ้น ตัดสินใจถอยรถใหม่ยี่ห้อบีเอ็มเอ๊กซ์สีแดง
เพราะเกิดวันอาทิตย์ ข้อมูลจากน้องน้ำตาลหวานต้องเป็นสีเขียว
แต่ขอใช้หมวกกันน้อคสีเขียวแทนนะคะน้องพิมคนงาม
รถประจำตำแหน่งคันนี้ใช้ได้เฉพาะวันที่อากาศดี ปราศจากฟ้าฝน หรือหิมะตกค่ะ
เลขทะเบียนไม่ต้องมี แต่ขอยกไปให้หลวงพ่อให้ช่วยเจิมให้
ขี่ตามถนนที่นี่มีเลนจักรยานต่างหากค่อนข้างปลอดภัยถ้าไม่ใจลอยกินลมชมวิิิวสองข้างทางที่เป็นไร่องุ่นริมถนนจนเพลิน อาจตกเลนไปได้
เมืองที่อยู่เป็นเมืองเล็กๆมีมิตรมากมายที่เป็นลูกค้าไปรษณีย์
ทั้งตำรวจ แพทย์ ทนายความ ผู้พิพากษา ชาวไร่ชาวสวน
มีทุกอาชีพ ที่รู้จักกันมาห้าปี มีน้ำใจไมตรีให้กัน เราให้บริการที่ดีทุกระดับประทับใจ หัวหน้าคนใหม่เป็นสตรี ใจดีสอนงานให้ทุกอย่าง วันเสาร์หน้าอนงค์นางจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Supervisor ทำงานแทนหัวหน้าค่ะ
ได้เงินเพิ่มอีกระดับหนึ่ง เลยต้องถอยรถใหม่ต้อนรับตำแหน่งใหม่
เอาใจช่่วยคนแก่ให้เป็นนักป่ันมือใหม่ด้วยนะคะ ปั่นจักรยานน่าจะดีกว่าปั่นหุ้นหรือปั่นที่ดิน อยู่แบบจนแต่พอเพียงก็มีความสุขตามอัตภาพแล้วค่ะ
2 กันยายน 2555 07:55 น.
อนงค์...นาง
ฉันงุนงงหลงทางท่ามกลางฝัน
ศรัทธาอันสวยสดหมดความหมาย
คำหลอกลวงอ่อนหวานซ่านมิวาย
มากลับกลายได้พบประสบจริง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดลจนได้เห็น
ความซ่อนเร้นหลบลี้หนีทุกสิ่ง
ความซื่อสัตย์อยู่ไหนไม่ประวิง
ดั่งน้ำกลิ้งใบบอนหลอนมายา
ไม่มีอะไรจะกล่าวได้ไปมากกว่าคำว่า เสียใจค่ะ
ไม่มีที่มาและไม่มีที่ไป ขอให้ทุกอย่างเลือนหายไปเหมือนฝันร้าย
ขอเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ด้วยพรหมวิหารสี่
ความหมายของพรหมวิหาร 4
- พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่ พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์ หลักธรรมนี้ได้แก่
เมตตา ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
กรุณา ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
มุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา การรู้จักวางเฉย
คำอธิบายพรหมวิหาร 4
1. เมตตา : ความปราถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้�
และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น
2. กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกาย
ไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
- ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และ
ความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์
- ทุกข์จรหรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุกข์
3. มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เช่น เห็นเพื่อนแต่งตัวเรียบร้อยแล้วครูชมเชยก็เกิดความริษยาจึงแกล้งเอาเศษชอล์ก โคลน หรือหมึกไปป้ายตามเสื้อกางเกงของเพื่อนนักเรียนคนนั้นให้สกปรกเลอะเทอะ เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง
4. อุเบกขา : การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม