23 เมษายน 2548 18:24 น.
องค์หญิงน้อย
คนอะไรไม่รู้ช่างน่ารัก
อยากรู้จักอยากไปทักเข้าซะหน่อย
แต่เราเป็นผู้หญิงก็ต้องคอย
แล้วพอถึงเวลาค่อยลงมือ
คนอะไรไม่รู้เรียนเก๊งเก่ง
แถมไม่เบ่งไม่เที่ยวดูแต่หนังสือ
ถ้าเธอเผลอเมื่อไหร่อยากจับมือ
ควงไปเที่ยวซื้อของสบายอารมณ์
คนอะไรไม่รู้ล้อหล่อ
พ่อทำบุญชาติที่แล้วมาแบบไหน
พอเกิดมาชาตินี้ถูกใจ๊...ถูกใจ
เป็นหญิงร้อยเปอร์เซ็นต์เมื่อไหร่จะจับเธอให้ได้...คอยดู
- - -. . . . . . . .ก็เอามาให้อ่านกันค่ะ เราไม่ได้เป็นกะเทยนะฮ้า. . . . . . . .- - -
23 เมษายน 2548 18:21 น.
องค์หญิงน้อย
เธอเห็นผู้หญิงไม่มีหัวใจใช่ไหม
จึงคิดจะเข้ามาตีสนิทแล้วจากไป
ผู้หญิงก็มีหัวใจนะไม่ใช่อิฐไม่ใช่ปูน
เธอเห็นผู้หญิงเป็นของเล่นราคาถูกใช่ไหม
พอเล่นไม่สนุกก็ทิ้งขว้างเหมือนตัวอะไร
ผู้หญิงก็มีหัวใจมีความรู้สึกเพราะผู้หญิงก็คือคน
เธอเปรียบผู้หญิงเหมือนกับผู้ชายอย่างเธอใช่ไหม
ที่วันวันเอาแต่ใช้ชีวิตอย่างสบายใจ
ไม่รับรู้อะไรเอาแต่ทำให้ผู้หญิงเจ็บแค้นไปเท่านั้น
เธอก็คงคิดว่าผู้หญิงอ่อนแอใช่ไหม
ถึงได้เข้ามาแกล้งมารังแกให้ร้องไห้
แต่เธอคงไม่รู้น่ะสินะว่าถ้าเธอขาดผู้หญิงไป เธอก็คงเสียใจไปอีกนาน
16 เมษายน 2548 20:14 น.
องค์หญิงน้อย
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้าช่างมืดหม่น
ช่างมืดมนดั่งความรักที่ขืนขม
น่าเศร้าดั่งหอกแหลมแทงอกตรม
ต้องนอนจมมองฟ้าที่ไร้ดาว
แม้แสงจันทร์ก็เลือนหายราวฟ้าปิด
ดาวสักนิดก็หายวับดับแสงไข
ดาวพระศุกร์ที่เคยเห็นอยู่ร่ำไร
ลับเลือนไปในราตรีราวบัดดล
ชีวิตเราเกิดมาช่างน้อยนิด
แต่ไม่คิดทำสิ่งดีสิน่าฉงน
แม้ไม่รวยด้านคุณทรัพย์เราอับจน
ไม่ต้องไปดิ้นรนไขว่คว้ามัน
เพียงแค่เราทำดีให้ผ่องจิต
ให้ชีวิตที่เหลืออยู่นั้นสุขสันต์
ชีวิตเราจะมีแสงดั่งแสงจันทร์
แต่เป็นแสงแห่งความดีที่ส่องไป
ค่ำคืนนี้ดวงดาวระยับระยิบ
แสงกระพริบเนียนนวลดูสดใส
บวกกับแสงแห่งความดีที่ส่องไป
โลกจะสดใสกว่าเดิมเป็นหลายกอง