22 ตุลาคม 2548 23:11 น.
อคิราห์
ความที่คนเราเหว่หว้ากับตัวเองจนชิน ต่อมาเมื่อได้พบกับสิ่งที่เรียกว่า
ความสุข มักจะทำให้เราหวงมันซะยิ่งกว่าสุนัขแม่ลูกอ่อนหวงลูก อ้าว.. ก็..นะ สุนัขอ่ะ คนยังพอมาลูบหัวลูบหางลูกมันได้ ถ้าพอสนิทสนมกันมาก่อน แต่นี่คนบางคน .. ความสุขข้าใครอย่าแตะ เชียวนะ
คุณฤทธิ์ (มาก) ถลกชายเสื้อม้วนขึ้นไปไว้บนอก โชว์ก้าง เอ๊ย..กล้ามซี่โครงบวกไขมันสะสมตรงหน้าท้อง ที่ป่องออกมาไม่ต่างกับสาวตั้งครรภ์ 5-6 เดือน อยู่หน้ากระจกในห้องนอน เขาเอียงซ้ายที ขวาที
อา-- ชายหนุ่มรูปงาม ร่างสะโอดสะอง กลายเป็นอดีตไปแล้ว อดีตที่
จากไปพร้อมภรรยาคนแรก ที่หายไปจากชีวิตเขาเมื่อหลายปีก่อน แล้วไอ้อาการ
พุงป่องเนี่ย ก็เกิดจากแม่สาวตาตี่ หน้าหมวย ที่นั่งกึ่งนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง
คนนี้เก็บตกมาจากริมทางเดิน อยู่กันมาได้สองปีกว่าแล้วล่ะ เธอบำรุง บำเรอ
ขุนเขาซะเหมือนจะพาไปตอนงั้นแหละ นึกแล้วอดสยองในใจลึก ๆ ไม่ได้
"นี่เธออ่ะ ทำพี่ท้อง ต้องรับผิดชอบนะ" เสียงหัวเราะดังแว่วมาคิก ๆ ตามด้วย
ร่างที่กรุยกรายในชุดนอน เธอสวมกอดเขาจากด้านข้าง ขณะที่เขายังเท้าสะเอว
ส่องกระจกไม่เลิก มือเรียวเล็กลูบพุงเขาเบา ๆ ก่อนก้มลงกดปากหนัก ๆ ตามลงมา ตาใส ๆ เงยหน้ามาสบตากับเขา แววตามันบอกว่าเจ้าเล่ห์ชัด ๆ
"ก็ดีไงคะ จะได้ไม่มีใครแย่งพี่ไปจากอ้อน หุ่นหยั่งเงี้ยะ สาว ๆ ไม่ชอบหรอกค่ะ"
"ไม่เป็นไร ที่ก็เล่นเน็ต จีบก่อน ค่อย ๆ ซึมแล้วพอนัดเจอเค้าจะได้ไม่ผิดหวังมาก"
"น๊อยยย... นึกว่าจะบอกรักอ้อนสุดชีวิต ไม่เผื่อให้ใครอีก"
" ฮะ .. ฮะ .. ฮะ .." เขาหัวเราะชอบใจบ้าง แล้วตระกองกอดกันไปที่เตียง
ล้มตัวลงนอนคุยกันกระจุ๋ง กระจิ๋ง ....
*-*/*-*/*-*
เย็นวันถัดมา คุณอ้อนศรีเธอนั่งหงุดหงิด งุ่นง่าน หัวใจแทบบ้า ก็อีตาฤทธิ์ (มาก) หายไปจากบ้านหลังเลิกงานแล้วน่ะสิ ทุกทีจะไปไหนมาไหน ก็บอก หนนี้หายไปเฉย ๆ โทรไปตามก็บอกรถติดแล้วปิดมือถือหนีซะนี่ มันยังไงกันเนี่ย
กว่าจะกลับเข้าบ้านก็ก่อนเที่ยงคืน 10 นาที เธอเชิดหน้างอน ๆ ก็เห็นอยู่ใน
โอวาททุกเมื่อเชื่อวัน ไหงมานอกคอกล่ะ คุณฤทธิ์ (มาก) เห็นภรรยางอนก็ทำตัว
เป็นปกติ เดินไปเปิดคอมพ์
ความเงียบไม่ช่วยแก้ไขปัญหา
"พี่ไปไหนมาคะ"
"เพื่อนชวนไปเที่ยว"
"เมาไหมคะนั่น"
"อืมมม.."
"เดี๋ยวอ้อนไปเอาผ้าเย็นมาให้ดีกว่า"
"อืมมม.."
เรื่องราวเหมือนจบ จนอีกอาทิตย์ต่อมา หายไปอีกแล้ว หนอย...........
ได้ใจหรือไง (ฟระ)
"พี่ไปไหนมาคะ"
"เพื่อนชวนไปเที่ยว" คุณอ้อนศรีทำเหมือนเดิม เอาผ้าเย็นมาส่งให้
แต่คราวนี้เห็นทีจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
"พี่ไปไหน อ้อนไม่เคยว่านะ .. ถูกไหม"
"ฮื่อ"
"แต่นี่สองหนแล้วนะ พี่ไปโดยไม่บอกอ้อนก่อนอ่ะ เคยขอไว้แล้วไม่ใช่หรือ" คุณฤทธิ์ (มาก) ถอนหายใจ เล่นเกมในคอมพ์ ต่อไป ไม่มองหน้าภรรยา
"พี่ก็ต้องมีชีวิตส่วนตัวของพี่ บ้างสิ" เขากล่าวขรึม ๆ
"ก็แค่บอกก่อนไป..." เธอก็รู้สึกเหมือนกันแหละ ว่าแสดงความเป็น
เจ้าของเขามากไป
"พี่ก็เป็นของพี่แบบนี้นะ"
"แต่อ้อนรับไม่ได้"
"...." ไม่มีเสียงตอบจากความเงียบ
*-*/*-*/*-*
แง.... ท้องฟ้า สายลม ได้โปรดเห็นใจอ้อนศรีด้วย โถ...ชีวิตช่างรันทดเหลือเกิน
อ่าห้อย.. อ่าห้อย ในเวลาต่อมา รักหวานชื่นกลับกลายเป็นมึนตึง เหินห่าง ลิ้นกระทบฟันก็ธรรมดาที่จะมีแผล จากที่เคยนอนตระกองกอด ก็ต่างคนต่างหามุมสงบ พลิกกันคนละสามสิบตลบก็ยากที่จะข่มตาให้หลับได้อย่างสงบอย่างที่
ต้องการ หนึ่งคนเรียกร้อง อีกหนึ่งคนวิ่งหนี อนิจาความรักของอ้อนศรี ทำไม
ต้องมีความทุกข์มาแทรกด้วย (ฟระ)
จะว่าไป อ้อนศรีก็ไม่ผิดนี่นา (เข้าข้างตัวเอง) ก็คนอยากรู้อยากเห็นอ่ะ (เนอะ) ผิดตรงไหน (หว่า) คุณฤทธิ์มากอยากเลือกเองนี่นา อ้อนก็อยู่ของอ้อนดี ๆ ไปคว้าอ้อนมาจากความเงียบเหงาที่เคยชิน มาฟูมฟักด้วยความรัก มาใส่ใจดูแล แล้วจะหมางเมิน เหินห่าง ทำงี้ได้ไง ... แง... ถ้าอยากมีชีวิตอิสระ ก็อยู่คนเดียวไปสิ ไปคว้าอ้อนศรีมาอยู่ด้วยทำไม จนป่านนี้แล้วจะมาร่ำร้องหาความอิสระ และความเป็นส่วนตัว จะไม่สายไปเรอะ.. คนเราอยู่เป็นคู่ตุนาหงันแล้ว มันก็ต้องให้เกียรติกันซี .. แง....
อ่าแห้ว... อ่าแห้ว ... ในคืนต่อมา บนเตียงนุ่ม ๆ หกฟุตเดิม ๆ นั่นแหละ
เฮ้อ.. ทำไมพื้นที่มันกว้างนัก (ฟระ) มุมสงบเมื่อคืนก่อน คืนนี้เริ่มไม่สงบแล้วแฮะ
คุณฤทธิ์ (ยังมากอยู่มั้ง) เริ่มส่งเสียงกรน คร่อกฟี้... ๆ คุณอ้อนศรี ยังลืมตาแป๋ว
คราวนี้หันหน้าไปมองตรง ๆ เลยล่ะ แต่ยังทิ้งระยะห่างอยู่ เอ.. คนหลับ แถมกรนด้วยเนี่ยนะ.. ไหงทำตายุกยิก ๆ โธ่..มุขเดิม ๆ อีกแล้ว ประเดี๋ยวสิ.. คิดยังไม่ทันขาดความ ก็มีแขน มีขา ของคนข้าง ๆ เริ่มล้ำที่ เธอขยับหนี ยิ้ม ๆ ..เหอ ๆ .. ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก แหม..เตียงแค่หกฟุต หลับตาควานหาไม่เจอให้มันรู้ไปสิ
คุณฤทธิ์ (มาก) ล็อคคอภรรยาเข้ามากอดจนได้ เขาจุมพิตหน้าผากเธอ
เบา ๆ แค่นั้นแหละ ปราการแห่งความไม่พอใจก็ละลาย เธอจุ๊บหน้าอกเขาเป็นการตอบแทน
ไม่ต้องมีคำพูดใด ทุกอย่างก็สงบสุขได้
ลิ้นกระทบฟัน แม้จะเป็นแผลบ้าง แต่กาลเวลาก็ทำให้แผลนั้นจางหาย
เมื่อหายเป็นปกติ อาหารก็อร่อยเหมือนเดิม
ความรักไม่ยากที่จะครอบครอง หากทว่าต้องรู้จักครอบงำ
"พี่ไปทานข้าวที่ร้าน..... กันไหมคะ"
"ไม่ล่ะ วันนี้ว่าจะไปหาเพื่อน" เธอยิ้ม อีกแล้วนะ นายฤทธิ์มาก
"ตามใจค่ะ งั้นอ้อนติดรถไปด้วย พี่ส่งอ้อนที่ห้าง... ก่อนนะ"
"ถ้างั้นก็ไปด้วยกันเลยซี" อ้อนศรียิ้มหวานปานจะหยด
"ไม่ล่ะค่ะ พี่จะได้มีอิสระบ้าง ส่วนตั๊ว .. ส่วนตัว แบบผู้ชาย ๆ ไง อ้อนแค่ไป
ซื้อหนังสือ เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเองได้ค่ะ"
"กลับมาก็อยู่คนเดียว ไปด้วยกันดีกว่า"
"ไม่เป็นไร ไม่ดูทีวี ก็อ่านหนังสือ ชีวิตเราเป็นของเรานะคะ จริงอยู่อ้อน
อาจจะติดพี่มาก เพราะพี่เป็นทุกอย่าง เป็นพี่ เป็นเพื่อน พี่เป็นสามีที่ดีของอ้อน
อ้อนภูมิใจในตัวพี่เสมอแหละ แล้วอ้อนก็เชื่อว่าถ้าพี่อยากมีโลกส่วนตัว พี่ก็คงไม่มีใครใหม่ให้อ้อนช้ำใจหรอก อ้อนเชื่อใจพี่ค่ะ"
คุณฤทธิ์ (ไม่มากแล้ว) เดินไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับภรรยา ชวนคุยเรื่องอื่น กระจุ๋ง กระจิ๋ง ๆ
เหอะ .. เพื่อนก็เพื่อนซี จะสู้หัวอ้อนศรีได้เร้อ ..
^_________^
หนึ่งคนวิ่งหนี อีกคนก็วิ่งตาม ..ความรักยากนักจะเข้าใจ
5 กันยายน 2547 03:49 น.
อคิราห์
คงเป็นเพราะว่า คุณอ้อนศรี เป็นคนที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก โดยพื้นฐานครอบครัวแล้ว เธอมีความเป็นหนึ่งอยู่ในตัว และถึงแม้ว่าบางคนจะมีกันหลายพี่น้อง เชื่อว่า ยามมีคนรัก ทุกคนก็อยาก เป็นหนึ่ง
การที่ได้เป็นคนดีของใครสักคน เป็นความรุ้สึกที่พิเศษ และวิเศษมากเลยนะ คุณว่ามั้ย คนบางคนอาจแสวงหาความเป็นหนึ่งตลอดชีวิตแล้วไม่เคยเจอ แต่คนบางคนกลับได้เป็นที่หนึ่งเกือบตลอดชีวิต ตรงนี้ก็คือเพระบุญทำ กรรมแต่ง กันมาแต่ชาติปางก่อนกระมัง --- ก็แล้วแต่ความเชื่อกันไป
วันนี้คุณอ้อนศรีน้อยใจวูบหนึ่ง จนเกือบจะกลายเป็นโกรธ กับการที่ถูกคุณฤทธิ์(มาก) สามีผู้เป็นที่รักยิ่งค้อนขวับ.. พร้อมแสดงท่าทีว่ารำคาญ
เหวย .. เหวย ไยเป็นเช่นนี้
แมวจรจัดมักจะป้วนเปี้ยนแถวหน้าบ้านตัวหนึ่ง มันสกปรก นิสัยแย่ ที่ชอบฉี่รดทุกอย่างที่ขวางทาง เป็นประจำ วันนี้มันเกิดจะเดินเข้าบ้าน สงสัยได้กลิ่นปลาที่พึ่งจะทอดเสร็จแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะอาหาร คุณอ้อนศรีทำอาหารเสร็จก็มาเรียกคุณสามีที่นั่งเล่นเกมคอมพืวเตอร์ในห้องนั่งเล่น เพื่อไปรับประทานอาหารเย็นกัน แล้วเธอก็เหลือบเห็นแมวจรจัดตัวดี
คุณอ้อนศรี "พี่..ไล่แมวให้ทีสิ"
คุณฤทธิ์ (มาก) "เธอก็ไปไล่มันเองซี"
คุณอ้อนศรี ก็เดินเข้าไปหา แมวมันจ้องตาตอบ ดวงตากลมวาว ผู้หญิงนี่นะ.. 100 เปอร์เซ็นต์ด้วย ย่อมหวาดหวั่นเป็นธรรมดา แล้วการได้อ้อนสามีสักนิดหนึ่ง แค่ได้ ถูกเอาใจใส่สักนิดหนึ่งย่อมทำให้รู้สึกดี มีความสุข นิดเดียวเท่านั้น
คุณอ้อนศรี "พี่มาไล่มันให้หน่อยซี น่ากลัวอ่ะ มันทำตาวาว ๆ "
คุณฤทธิ์มาก ละสายตาจากคอมพืวเตอร์มามองภรรยาคนเดียวด้วยความรำคาญยิ่ง แถมยังส่งเสียงจึ๊กจั๊กในลำคออีกแน่ะ พอสามีสบตากับภรรยา .. เท่านั้นแหละ ..
ความน้อยใจพุ่งวูบขึ้นถึงขีดสุด ความเจ็บดิ่งลึกลงไปในหัวใจน้อย ๆ คุณอ้อนศรีเดินจากเหตุการณ์ไปนั่งฟูมฟายกับตัวเอง
เพียงแค่จะใส่ใจ เพื่อความสุขของคนที่จะต้องอยู่คู่กันไปอีกนาน
คำถามหนึ่งผุดขึ้นในใจ ทำไมคุณฤทธิ์ (มาก) ถึงไม่ทำ ถ้าเป็นเพียงคนรักกัน ยังไม่ได้แต่งงาน เขาจะทำไหม เขาจะไปไล่แมวตัวนั้นไหม
หลายคนคงมีคำตอบในใจ
รู้แล้วใช่ไหม.. ทำไมถึงต้องใส่ใจมากมาย