14 กรกฎาคม 2552 14:40 น.
อ.ภิวัฒน์ปัญญากรณ์
ผู้มีศีลย่อมเป็นที่รักเขา
พวกหมู่เหล่าเทวาคอยอารักษ์
ต้องเจริญด้วยอำนาจแลยศศักดิ์
เป็นประจักษ์ชาวประชาเพราะความดี
สมาธิตามมารักษาศีล
นั่งบำเพ็ญกำหนดไปเป็นอาจิณ
เพื่อเป็นทุนเก็บไว้ให้ชีวิน
เป็นทรัพย์สินต่อไปในโลกหน้า
สมาธิเกิดปัญญาน่าหยุดคิด
ถูกหรือผิดพิจารณาว่าตามจริง
แต่สิ่งหนึ่งที่เหลือไว้คือความดี
ทุกคนต้องมีฝากไว้ในโลกกา
10 กรกฎาคม 2552 10:33 น.
อ.ภิวัฒน์ปัญญากรณ์
เมื่อเรารักษาความปกติของ..กาย..วาจา..ใจ ได้
เราเรียกว่าศีล...ศีลแปลว่าปกติ
เมื่อเป็นผู้มีศีลรักษาอาการให้สงบอยู่ร่ำไป
ย่อมทำให้เกิดสมาธิ สมาธิแปลว่า
การรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองกำลังทำอะไรคิดอะไรอยู่
เมื่อมีสมาธิต่อสิ่งต่างๆ ย่อมนำแสงสว่างมาสู่ชีวิต เรียกว่าปัญญา
9 กรกฎาคม 2552 15:08 น.
อ.ภิวัฒน์ปัญญากรณ์
จิตคิดดีย่อมมีสุขสุคติเป็นที่หวัง
จิตคิดไม่ดีย่อมมีทุคติเป็นที่หวัง
แล้วพวกเจ้าทั้งหลายจะเลือกเอาสิ่งใดเล่า
บุญไม่มีผู้ใดทำแทนกันได้ นอกเสียจากจะทำเอง
ยิ่งทำมากก็ได้มากตามแต่อัตภาพของตน
ทำบุญคิดเป็นอกุศลนึกเสียดายของที่ให้ ย่อมมีนรกเป็นที่หวัง
ถ้าทำแล้วสุขใจมีความเบิกบาน ย่อมมีสุขคติเป็นที่หวัง
เช่น คนทำชั่วหลายครั้ง ก่อนตายจิตไม่เศร้าหมองย่อมมีภูมิมนุษย์เป็นที่หวัง
คนที่เคยทำดีมาตลอดก่อนตายจิตเศร้าหมองย่อมมีนรกหรือสัตว์เดรัจฉานเป็นที่หวัง
จึงขอให้พวกเธอทั้งหลายตระหนักให้ดี
22 มิถุนายน 2552 15:52 น.
อ.ภิวัฒน์ปัญญากรณ์
จะทำการสิ่งใดใจย่อมคิด
รู้ถูกผอดดีชอบอยู่เสมอ
เมื่อคิดดีทำดีย่อมได้เจอ
ทั้งเพื่อนเกลอสิ่งดีมีเข้ามา
จะทำการสิ่งใดใจย่อมรู้
ต้องมีผู้ให้คำสนับสนุน
มีความรู้สำรองไว้ต่อทุน
คอยเกื้อหนุนตนเองตลอดไป
จะเลือกคู่แบบไหนใจย่อมคิด
เลือกคู่ถูกคู่ผิดที่จิตตัว
ถ้าเลืกเขาเอาแล้วอย่าได้มั่ว
เป็นคนชั่วให้เขาตราอยู่ร่ำไป
16 มิถุนายน 2552 14:19 น.
อ.ภิวัฒน์ปัญญากรณ์
จะเรียนหรือจะรักพักสักนิด
ค่อยหยุดคิดตรึกตรองลองถามใจ
เรียนหรือรักคิดเป็นเห็นไฉน
ถ้าเรียนไปรักไปใจหม่นหมอง
ถ้าเลือกเรียนต้องเพียรหมั่นศึกษา
เพราะเวลามีค่าไม่คอยใคร
เมื่อเรียนจบครบแล้วสมดังใจ
จะรักใครก็ย่อมได้ดังหมายปอง