20 ตุลาคม 2549 21:08 น.
ห้วงคำนึง
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดงานเทศกาลประเทศไทย 2006 ในเยอรมนี (Thailand Festival 2006 in Germany) ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติ หลุยส์ อัลเบิร์ต ฮอลล์ เมืองออเบอร์ฮาวสัน สหพันธรัฐเยอรมนี นายสมเศียร พานทอง หรือ ชาย เมืองสิงห์ ศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดง กล่าวว่า ตนได้มาร่วมงานโดยได้ร้องเพลงให้ทั้งชาวไทยและชาวเยอรมันได้ฟัง อาทิ เพลง 60 ปี ใต้ร่มพระบารมี พ่อหลวงในดวงใจ ซึ่งพบว่า ทั้งชาวไทยและเยอรมันต่างตั้งใจฟังเพลงอย่างมาก และเพลงไหนที่มีท่วงทำนองสนุกสนานก็จะลุกขึ้นมาเต้นตามจังหวะเสียงเพลง จึงทำให้บรรยากาศของงานมีความสนุกสนานและยังทำให้ชาวต่างชาติรู้จักเพลงลูกทุ่งของไทยมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันผู้มาร่วมงานยังได้ซึมซับถึงเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทย คือ ภาษาไทย ที่นำมาแต่งเป็นเนื้อร้อง ผสมผสานกับเทคนิคการร้องแบบเพลงไทยโบราณและเพลงไทยสากล ซึ่งทำให้ฟังง่ายและเป็นของแปลกที่สามารถ เรียกความสนใจ จึงทำให้ชาวเยอรมันประทับใจในเพลงลูกทุ่งของไทยเป็นอย่างมาก
นางสุคนธ์ พรพิรุณ ครูเพลงอาวุโส กล่าวว่า ตนได้นำคณะนักร้องวงดนตรีสากล กรมประชาสัมพันธ์มาร่วมแสดงให้ชาวเยอรมันได้เห็นความสุนทรีของเสียงเพลง ซึ่งครั้งนี้ได้อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ มาขับร้องให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้รับฟัง และได้รับทราบถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ซึ่งการได้มาร่วมงานครั้งนี้ทำให้พบว่ามีคนไทยในต่างประเทศและชาวต่างชาติจำนวนมากที่ให้ความสนใจกับวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงลูกทุ่ง แต่น่าเสียดายที่คนไทยซึ่งอู่ในประเทศกลับไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนในปัจจุบันที่หันไปสนใจวัฒนธรรมอื่น ๆ เช่น เพลงสตริง แถมยังร้องโดยออกเสียงภาษาไทยแบบผิด ๆ เช่น คำว่า เธอ รัก หรือ ฉัน เป็นต้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงการร้องเพลงที่ออกเสียงภาษาไทยแบบไม่ถูกต้องเป็นอย่างมาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาไทยของเยาวชนตน จึงอยากให้คนไทยหันมาสนใจภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยให้มากกว่านี้
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับ วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2549