16 พฤษภาคม 2554 10:51 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน จดหมายถึงพ่อ ฉบับที่ 3 * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



กราบเท้าคุณพ่อที่คิดถึง

พ่อคะ  พักนี้หนูยุ่งจังเลยค่ะ  ขับรถขึ้นเหนือล่องตะวันออกเป็นว่าเล่นเลยค่ะ  พ่อเห็นหนูบ้างไหมคะ ?

จากฉบับที่แล้ว  พ่อคงจะนั่งสงสารลูกสาว 2 คนของพ่อใช่ไหมคะ ?  แต่....ยังมีเรื่องมากกว่านั้นอีกค่ะพ่อ

หนูจะเล่าเรื่องตอนที่หนูเข้าไปเรียนปวช.ที่กรุงเทพ ฯ ให้พ่อฟังนะคะ  

หนูคิดว่าพ่อคงอยากรู้แล้วค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของพ่อ

ตอนที่พี่ใหญ่บอกว่าจะให้หนูเรียนต่อ  หนูดีใจมากเลยค่ะพ่อ  หนูนึกว่าจะได้เรียนแค่ม.3 

แต่พี่ใหญ่บอกว่าจะให้ไปเรียนที่กรุงเทพ ฯ หนูก็งง ๆ ค่ะ  

เพราะเราหนูไม่เคยไปกรุงเทพ ฯ เลย  ไม่เคยคิดว่าจะต้องไปไกลบ้านขนาดนั้น

หนูต้องรีบไปปรึกษาอาจารย์แนะแนวค่ะ  ว่าหนูจะไปเรียนที่ไหนดี  อาจารย์ก็น่ารักมากค่ะพ่อ

อาจารย์ถามหนูว่า.... โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร  หนูก็บอกว่าตอนเล็ก ๆ หนูอยากเป็นทหาร  ^^"

แต่ตอนนี้หนูอยากเป็นเลขา  ^^"  อาจารย์ได้ยินแล้วก็เหงื่อตกค่ะ  

คงคิดไม่ถึงว่าเด็กบ้านนอกแบบหนูจะอยากเป็นเลขา  อิ ๆ ๆ 

เตี้ยก็เตี้ย  กลมก็กลม  อาจารย์ก็เลยบอกว่า  เอางี้ละกัน  ไปเรียนที่นี่นะ  อาจารย์มีเพื่อนสอนอยู่  จะได้หางานพิเศษให้เธอทำได้ด้วย

รร.พณิชยการสุโขทัย  ที่นี่เขาสอนหลักสูตรพยาบาลเบื้องต้น  สอนบัญชี  คอม  พิมพ์ดีด  ที่สำคัญมีรด.ให้เธอเรียนด้วยนะ

ถ้าเธอเรียนรด.เธอมีสิทธิ์ขอทุนจากมูลนิธิแสงเทียนด้วย  อาจารย์จะฝากเพื่อนให้นะ

ตกลงหนูก็เลยเลือกเรียนที่นี่ค่ะ  พี่ ๆ เขารวบรวมเงินค่าเทอมให้หนูได้ 8,000.- และหนูยังมีเงินเก็บตอนเรียนมัธยมต้นด้วย

หนูพิมพ์ได้ดีทั้งภาษาไทยและอังกฤษค่ะ  หนูได้เรียนตอนม.3 ที่รร.วัฒโนทัยพายัพ  

ตอนเช้า ๆ กับพักเที่ยง  หนูจะไปขอใช้เครื่องพิมพ์ของโรงเรียน

รับจ้างพิมพ์รายงานให้เพื่อน  และพิมพ์งานให้อาจารย์  อาจารย์ให้ตังค์  หนูก็เก็บไว้  

โชคดีที่หนูพิมพ์เร็วและไม่ค่อยผิด  ทำให้หนูมีงานทำค่ะ

และเป็นงานที่รายได้ดีมากเลยค่ะพ่อ  หนูเก็บตังค์ซื้อเครื่องพิมพ์ดีดได้ 1 เครื่อง  

และก็มีเงินเก็บพอที่จะจ่ายค่าเทอม  ค่าชุดนักศึกษาที่กรุงเทพ ฯ ได้อีก 2 เทอม

ตอนแรก ๆ พี่ใหญ่ก็ไปเช่าบ้านให้อยู่กับพี่สะไภ้  และพี่ฮัว  แต่พี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้านค่ะพ่อ  หนูกับพี่ฮัวอยู่ได้ไม่ถึงเทอมก็เกิดเรื่องอีกแล้ว

ก็พี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้าน  ไปต่างจังหวัดครั้งละหลาย ๆ วัน  พี่ใหญ่จะโอนตังค์ค่ารถค่าอาหารของหนูมาที่พี่สะไภ้  แต่หนูไม่เคยได้เลยค่ะ

พี่ฮัวไปทำงานเป็นพนักงานขายของ  พี่ฮัวต้องแบ่งเงินให้หนูไปโรงเรียน  พี่ฮัวบอกว่าเงินค่าเทอมที่หนูมีให้เก็บไว้อย่าใช้เด็ดขาด

เพราะหนูจะต้องเรียนอีก 3 ปี  ช่วงนี้เราต้องหาเงินไว้เป็นค่าเรียนของหนูอีก 3 เทอม  พ่อคะ  ท้ายที่สุดพี่ฮัวก็หนีไปอยู่กับแฟนค่ะ  

แฟนพี่ฮัวก็ดีนะคะพ่อ  ชื่อพี่นันต์ ตัวสูง ๆ ดำเมี่ยม พี่เขาเป็นคนสงขลาค่ะ  เป็นเซลล์ขายของรายได้ดีพอสมควรเลยล่ะค่ะ

พี่นันต์กับพี่ฮัวให้ตังค์หนูใช้ทุกอาทิตย์  พอพี่ใหญ่กลับมา  พี่ใหญ่โมโหมาก  หนูก็กลัวพี่ใหญ่จะตีพี่ฮัว  

หนูไม่บอกหรอกค่ะว่าพี่ฮัวไปอยู่ที่ไหน  ยังไม่ปิดเทอมแรก  หนูก็ออกจากบ้านเช่าของพี่ใหญ่ 

หนูไปเป็นพี่เลี้ยงน้องที่หมู่บ้านอยู่เจริญแถวรังสิตค่ะพ่อ  พี่เล็กแม่ของน้องใจดีมาก  

น้องโตแล้วค่ะพ่อ  อายุ 12 คุยรู้เรื่องแล้ว  พี่เล็กอยากให้มีคนอยู่กับน้อง  เพราะพี่เขากลับบ้านดึก ๆ ตอนเช้า ๆ หนูก็ไปโรงเรียนพร้อมน้อง

ตอนเย็นที่น้องเลิกเรียนหนูก็อยู่กับน้อง  หากับข้าวให้น้องกิน  ทำงานบ้าน  ซักผ้า  รีดผ้า  ตัดหญ้า  ล้างรถ  อาบน้ำน้องหมา ฯลฯ   

พี่เล็กให้หนูเดือนละ 700.-  และให้หนูไปทำงานพิเศษวันเสาร์ - อาทิตย์  เพราะเสาร์ - อาทิตย์พี่เขาจะอยู่กับน้องค่ะ

หนูก็ได้อาจารย์ช่วยหางานพิเศษให้ทำ  ส่วนวันอาทิตย์หนูก็ไปเรียนรด.ค่ะ  หนูได้ทุนเรียนดีจากมูลนิธิแสงเทียนทุกปีเลยนะคะ  ^^

ตอนที่หนูเรียนปวช.2  พี่ฮัวก็กลับบ้านไปอยู่กับแม่  แต่พี่ใหญ่ไม่ให้หนูกลับบ้านเลย  หนูก็สงสัยว่าเพราะอะไร

แต่พี่ ๆ เขาไม่ยอมบอกหนูค่ะ  ตอนเรียนปวช.3 ก่อนเปิดเทอม 2 หนูแอบกลับบ้านโดยไม่บอกใคร  

หนูไม่เสียค่ารถค่ะพ่อ  เพราะหนูขออาศัยรถ 10 ล้อที่ขึ้นไปบรรทุกผักที่โกดังพี่หรั่งน่ะค่ะ  หลับไปสุดทาง  ตืนอีกทีก็ถึงบ้าน

ปรากฎว่าที่พี่ ๆ ไม่ให้หนูกลับบ้าน  เพราะว่าแม่มีสามีใหม่ค่ะพ่อ  พี่ฮัวเห็นหนูมาก็ตกใจ  เข้ามากอดหนูแล้วร้องให้

พี่ฮัวบอกหนูว่าพี่ ๆ ไม่อยากให้หนูกลับมาบ้าน  เพราะไม่อยากให้หนูเสียใจ  *__~  หนูก็ไปกราบสวัสดีแม่นะคะ

แล้วหนูก็กลับกรุงเทพ ฯ วันนั้นเลยค่ะ  พี่ ๆ จับหนูยัดใส่รถกล่ำเข้ากรุงเทพ ฯ หนูก็ได้นั่งรถฟรีอีกแล้ว  หนูร้องให้ทั้งคืนเลยค่ะ

พี่คนขับ 10 ล้อกับภรรยาเขาก็ช่วยกันปลอบหนู  ซื้อข้าวให้หนูกินด้วย  พ่อน่าจะรู้จักนะคะ  พี่เตี่ยมไงคะพ่อ  ตัวโต ๆ เสียงดัง ๆ น่ะค่ะ

หลังจากนั้นหนูก็ไม่เคยร่ำร้องจะกลับบ้านอีกเลย  พอเรียนจบ  หนูก็ทำงานที่สำนักงานบัญชีแถวเสาชิงช้าค่ะพ่อ

แรก ๆ หนูก็ยังอยู่บ้านพี่เล็กนะคะ  ไกลไปหน่อย  แต่พี่เล็กก็ใจดีตอนเช้า ๆ พี่เล็กไปส่งน้องที่โรงเรียน  หนูก็ติดรถออกไปทำงาน

เย็น ๆ หนูก็กลับมาอยู่กับน้อง  พี่เล็กกลับดึกมากค่ะ  แต่หนูก็อยู่ต่อได้อีกไม่นานนะคะ

มีเหตุต้องออกไปอยู่บ้านเช่ากับพี่ที่ทำงานค่ะ  แล้วหนูจะเล่าให้พ่อฟังทีหลังนะคะ

พ่อคะ  พ่ออ่านแล้วอย่าเสียใจนะคะ  หนูไม่เคยว่าแม่เลยค่ะที่แม่มีสามีใหม่  แต่หนูก็ไม่ชอบสามีใหม่แม่หรอกนะคะ

เอาไว้หนูจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พ่อฟังเป็นเรื่อง ๆ ไปนะคะ  ถ้าพี่หรั่งหาพ่อเจอแล้ว  พี่หรั่งคงเล่าอะไรให้พ่อฟังบ้างแล้วใช่ไหมคะ

แต่ก็คงไม่ละเอียดเท่าหนูหรอกค่ะ  พ่อก็รู้ว่าหนูเป็นเด็กที่จดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดี  

พ่อชอบให้หนูเล่าเรื่องตอนที่หนูไปโรงเรียนให้พ่อฟังทุกวัน

หนูก็สามารถมาก  ตอนเย็น ๆ เลิกเรียนแล้วก็ถึงเวลาที่หนูต้องไปรับพ่อกลับจากไร่  

หนูมีเรื่องมาเล่าให้พ่อฟังทุกวันเหมือนกัน  พ่อยังจำได้ไหมคะ ? ^^"

พ่อคะ  เล่าให้พ่อฟังแค่นี้ก่อนนะคะ  ตอนนี้หนูอยู่ชลบุรีค่ะ  ต้องไปเยี่ยมลูกค้าที่โรงพยาบาล 2 คนด้วยกัน

เดี๋ยวหนูต้องโทร.หาลูกค้าก่อนนะคะ   แล้วหนูจะเขียนมาหาพ่อบ่อย ๆ ค่ะ  

รักและคิดถึงพ่อที่สุด


หนูหิ่ง ฯ

ลูกหล้าของพ่อ


ปล.1

รูปนี้หนูเพิ่งถ่ายเมื่อวานนี้ค่ะ  หนูไปเขาชีจรรย์  กับพี่กบ และแม่ของพี่กบค่ะ

ปล.2

หนูหวังว่าพ่อจะคอยฟังเรื่องที่หนูเล่า  เหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ นะคะ  ^^




				
12 พฤษภาคม 2554 21:11 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน จดหมายถึงพ่อ ฉบับที่ 2 * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



กราบเท้าคุณพ่อที่คิดถึง

พ่อคะ  ไม่ทราบว่าพ่อได้อ่านจดหมายของหนูหรือยังนะคะ  อยากให้พ่อส่งข่าวมาบ้างจังเลยค่ะ

หนูก็แค่อยากรู้ว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง  พี่หรั่งสบายดีไหม  พ่อเห็นพวกเราบ้างไหม  พ่อช่วยมาบอกหน่อยได้ไหมคะ ?

พ่อคะ  วันนี้หนูจะเล่าเรื่องการเรียนหนูให้พ่อฟังนะคะ  กว่าหนูจะเรียนจบมาได้ก็หนักหนาสาหัสเอาการอยู่ค่ะ

หลังจากที่หนูเรียนจบชั้น ป.6 ที่รร.บ้านแม่โถแล้ว  ตอนแรกแม่และพี่ ๆ จะไม่ให้หนูเรียนค่ะ

แต่หนูอยากเรียนมาก  หนูจึงขอพี่ชายใหญ่  พี่ก็บอกว่าถ้าหนูสอบติดที่รร.วัฒโนทัยพายัพ  จะให้หนูเรียนต่อ

หนูดีใจมากเลยค่ะ  ตั้งในอ่านหนังสือ  ตั้งใจสอบ  พ่อรู้ไหมคะว่ามีนักเรียนมาสอบตั้งพันกว่าคน

แต่เขารับแค่ 450 คน  เป็นเด็กฝากประมาณ 50 คน  เหลือที่สอบเข้าจริง ๆ 400 คน

หนูก็หวั่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะสอบไม่ติด  แต่หนูก็ไม่มีทางเลือกค่ะ  พ่อรู้ไหมคะว่าพี่ฮัวไปดูผลสอบให้

แล้วมาบอกว่าหนูสอบไม่ติด  หนูร้องไห้ไปเป็นอาทิตย์เลยค่ะ  จนพี่ชายใหญ่กลับมาแล้วพี่ชายใหญ่ก็ไปดูอีกครั้ง

ปรากฎว่าหนูสอบติดอันดับที่ 100 พอดีเลยค่ะ  ตกลงหนูก็เลยได้เรียนหนังสือ  ถึงตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องที่อยู่ที่กินค่ะ

พอดีมีอาจารย์ที่โรงเรียนต้องการคนทำงานบ้าน  เขาบอกว่าหนูยังเด็กเกินไป  ต้องให้พี่สาวหนูมาอยู่ทำงานบ้าน

อาจารย์จึงจะให้หนูอาศัยอยู่ด้วย  บ้านพักอาจารย์อยู่ในโรงเรียนเลยค่ะพ่อ  อาจารย์หญิงมีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 2 คน

ทั้งบ้านอยู่กัน 5 คน  พอมีหนูกับพี่ฮัวมาอยู่ด้วยก็เป็น 7 คน  พี่ฮัวต้องทำงานหนักทุกวัน 

เพื่อให้หนูได้มีที่อยู่ที่กิน  เพื่อให้หนูได้เรียนหนังสือ  หนูรู้ว่าพี่รักหนู  และหนูสงสารพี่มากค่ะพ่อ  เงินเดือนพี่ก็ไม่ได้เลย

เราสองคนพี่น้องอยู่กับอาจารย์ได้ 1 ปี  ก็มีเรื่องต้องออกค่ะ  เรื่องมีอยู่ว่า....

ปรกติหนูจะกินข้าวเช้า  แล้วก็ไปเรียน  พอตอนกลางวันหนูก็แอบกลับมากินข้าวที่บ้านทุกวัน  

มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์หญิงกลับมาบ้านตอนพักเที่ยง  มาเห็นหนูกินข้าวอยู่ที่บ้าน  อาจารย์ก็ไม่พอใจ

บอกว่าไม่ให้กลับมากินข้าวกลางวัน  ให้กินแค่เช้า กับเย็น  กลางวันให้ไปซื้อกินที่โรงเรียน

พ่อคะ  วันนั้นพี่ฮัวร้องให้ใหญ่เลยค่ะ  พี่ฮัวขออาจารย์ว่าให้น้องกินข้าวด้วย  น้องไม่มีเงินซื้อข้าวกิน

แต่อาจารย์ก็บอกว่าไม่ได้  หนูก็เลยบอกพี่ฮัวว่าเรากลับบ้านกันเถอะ  หนูไม่เรียนก็ได้  เราสองคนพี่น้องกอดกันร้องให้

พอปิดเทอมเราสองคนพี่น้องก็ลาอาจารย์กลับบ้าน  หนูบอกพี่ชายใหญ่ว่าหนูไม่เรียนก็ได้  เพราะไม่มีเงินเรียน

พี่ชายใหญ่ก็เลยพาหนูไปฝากไว้บ้านแฟนของเพื่อนเขาค่ะ  ตกลงตอนเรียน ม.2 หนูก็เลยได้อยู่บ้านแฟนของเพื่อนพี่ชายใหญ่ค่ะ

บ้านพี่เขาอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กม. หนูเดินไป - กลับโรงเรียนทุกวัน

แม่ของพี่เขาขายอาหารค่ะ  แม่ใจดีมาก  ให้หนูกินข้าวทุกเช้า  กลางวันก็ห่อให้ด้วย  ตอนเย็นก็กลับมากินข้าวที่บ้าน

หนูก็มีหน้าที่ช่วยล้างจาน - ชาม  เก็บกวาดโต๊ะ  ช่วยพี่ ๆ เขาเตรียมกับข้าวไว้ขายวันต่อไป

พอขึ้น ม. 3 พี่เขยสามีของพี่หรั่งก็เรียกให้หนูไปอยู่กับหลาน  ให้อยู่ฟรีไม่เก็บค่าเช่า  แต่ให้หนูไปดูแลหลาน

เช้า ๆ หนูก็ต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งหลานที่โรงเรียนก่อน  แล้วค่อยไปโรงเรียน  เย็น ๆ เลิกเรียนก็ไปรับหลานกลับบ้าน

หลาน ๆ ก็น่ารักดีค่ะพ่อ  หนูเลี้ยงหลานอยู่ 1 ปี จบม.3 แล้วพี่ชายใหญ่ก็ให้หนูไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ฯ ค่ะ

ตอนแรกหนูก็สงสัยว่าทำไมพี่ชายใหญ่ต้องให้หนูไปเรียนหนังสือไกลจัง  แต่พี่ชายใหญ่มีเหตุผลค่ะ 

เอาไว้ฉบับหน้าหนูค่อยเล่าให้พ่อฟังนะคะ  ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราบ้าง  หลังจากที่พ่อจากไปแล้ว

พ่อคะ  หนูจำได้ว่าตอนที่พ่อยังอยู่  พวกเรามีความสุขมาก  ไม่เคยรู้ว่าความทุกข์เป็นยังไง

แม้กระทั่งตอนที่ไม่มีข้าวกินเราก็ยังมีความสุขกัน  แต่พอไม่มีพ่อแล้ว  หนูรู้สึกว่าความทุกข์เข้ามาเยือนบ่อยจังเลยค่ะ

เพราะเหตุนี้มั้งคะ  ทำให้หนูคิดถึงพ่ออยู่เสมอ  คิดถึงความสุขเวลาที่พ่อยังอยู่  หนูรักพ่อนะคะ

และจะรักพ่อตลอดไปค่ะ

รักพ่อที่สุด



หนูหิ่ง ฯ 

ลูกหล้าของพ่อ

ปล.
รูปนี้เป็นรูปหนูกับเหลนทั้ง 4 คนของพ่อค่ะ  ในงานโกนผมไฟของเหลนน้อยหวาหวาค่ะ
น้องหญิงหลานคนโตมีเหลนให้พ่อ 2 คน  คนโตเป็นผู้หญิงชื่อหยา หยา  
คนที่ 2 เป็นผู้ชายชื่อเชนทร์ เชนทร์  ตอนนี้อยู่ในท้องอีก 1 คนค่ะ
น้องเจินเจินหลานคนที่ 2 มีเหลนให้พ่อ 2 คนค่ะ คนโตชื่อเหวินเหวิน  คนเล็กชื่อหวาหวาค่ะ


				
11 พฤษภาคม 2554 20:46 น.

* * * สงกรานต์นี้.... ที่แม่โถ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



ช่วงวันสงกรานต์  ทุก ๆ ปี  เป็นช่วงที่ลูก - หลานทุกคนต้องกลับบ้าน

พ่ออุ้ย แม่อุ้ย ก็จะตั้งหน้าตั้งตารอ....

สงกรานต์ปีนี้หนูหิ่ง ฯ กลับเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 8   วันที่ 9 ก็ตามไปรับแม่ที่ อ.แม่อาย

เพราะแม่ไปทำบุญมอบศาลาให้วัด  กลับเชียงใหม่อีกทีวันที่ 11

วันที่ 13 - 14  ขนทรายเข้าวัด  เด็ก ๆ ชอบมากเพราะได้ไปเล่นน้ำด้วย

วันที่ 15 เช้า ๆ ก็พาแม่และพี่ ๆ ไปทำบุญที่วัดค่ะ

				
10 พฤษภาคม 2554 07:43 น.

* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน จดหมายถึงพ่อ ฉบับที่ 1 * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ



กราบเท้าคุณพ่อที่รักยิ่ง

พ่อคะ  หนูหิ่ง ฯ คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ  พ่อจากไปยี่สิบกว่าปีแล้ว  หนูไม่เคยเขียนจดหมายถึงพ่อเลย

หนูไม่ทราบว่าถึงตอนนี้พ่อจะอ่านภาษาไทยออกหรือเปล่า  แต่หนูเขียนภาษาจีนไม่ได้ค่ะ

ก็หนูไม่ได้เรียนนี่คะ  ถ้าพ่ออ่านไม่ออกพ่อหาคนอ่านและแปลให้พ่อฟังด้วยนะคะ

พ่อคะ  หลังจากที่พ่อไม่อยู่แล้ว  มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย  หนูจะทะยอยเล่าให้พ่อฟังนะคะ

ตอนนี้ลูกสาวคนเล็กของพ่อโตแล้ว  ทำงานแล้วดูแลแม่ได้แล้ว  พ่อไม่ต้องห่วงค่ะ

หนูส่งรูปมาให้พ่อดูด้วยค่ะ  เพราะตอนที่พ่อไปเมืองจีนหนูยังเรียนอยู่ชั้นประถมอยูเลย

รูปนี้หนูถ่ายกับเหวินเหวินเหลนน้อยของพ่อที่ดอยแม่สะลองค่ะ

พ่อคะ  ตอนนี้พี่หรั่งตามไปอยู่กับพ่อสามเดือนกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้เจอหรือยังนะคะ  ?

ไม่เห็นมีใครมาเข้าฝันบอกเลยค่ะ  พ่อรู้ไหมคะตั้งแต่พ่อจากไป  หนูฝันเห็นพ่อ 2 ครั้งแค่นั้นเอง

ทำไม่พ่อไม่มาหาหนูบ้างเลยคะ  พี่หรั่งก็เหมือนกัน  มาให้หนูฝันเห็นแค่ครั้งเดียวเองค่ะ

พ่อรู้ไหมคะว่าตอนนี้เราสร้างบ้านใหม่ให้แม่แล้วค่ะ  อยู่บ้านแม่โถบน  มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว

ห้องโถงกว้างมากค่ะ  ตั้งวงได้หลายวง  ^^"  แถมยังอากาสดีมาก  ลมพัดเข้ามาทางหลังบ้านเย็นสบาย  

เราซื้อตู้เย็นใหญ่ ๆ ให้แม่  ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น  ทีวีจอใหญ่ ๆ เตาแก๊สใหม่ ๆ 

ซื้อหมดเลยค่ะ  ตอนนี้ยังเหลือเครื่องปั้มน้ำที่ยังไม่ได้ซื้อ  เดี๋ยวพี่ซิงคงจะไปซื้อค่ะ

พ่อคะ  อีก 2 - 3 เดือนหนูกับพี่จะสร้างโรงเพาะเห็ดฟางให้แม่ด้วยนะคะ  แม่จะได้เลิกเลี้ยงหมูเสียที

ส่วนบ้านเลาลีแม่ยกที่ให้หนูกับพี่ฮัว  หนูก็เลยขอซื้อหมดค่ะ  แล้วหนูก็สร้างห้องแถวให้แม่ 3 ห้อง

ตอนนี้แม่ก็เก็บค่าเช่าห้องละ 2 พันค่ะ  ถ้ามีตังค์หนูจะสร้างห้องแถวให้แม่ไว้เก็บค่าเช่าอีก

พ่อให้พรหนูด้วยนะคะ  ช่วงนี้เมืองไทยอากาศเปลี่ยนแปลง  ไม่รู้ว่าฤดูอะไรเป็นฤดูอะไร

พ่อไปเสียที่เมืองจีน  ตอนนี้พ่อคงอยู่เมืองจีนใช่ไหมคะ ?  ที่โน่นเป็นยังไงบ้างคะ

พ่อรักษาสุขภาพนะคะ  ลูก ๆ ที่เมืองไทยทุกคนเป็นห่วง  และคิดถึงพ่อมากค่ะ

เอาไว้หนูจะเขียนจดหมายถึงพ่ออีกนะคะ

รักและคิดถึงพ่อที่สุดค่ะ

หนูหิ่ง ฯ

ลูกหล้าของพ่อ


				
4 พฤษภาคม 2554 20:31 น.

* * * คิดถึงพ่อ *_~ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ




หนูหิ่ง ฯ กลับไปบ้านบนดอยช่วงสงกรานต์  คิดถึงพ่อนะ   

หนูหิ่ง ฯ อยากเล่าเรื่องของคุณพ่อที่น่ารักของหนูหิ่ง ฯ ให้พี่ ๆ ได้อ่านกัน 

ใครที่คุณพ่อยังอยู่ ณ วันนี้ กอดท่านหรือยังคะ หรือว่าโทร.หาท่านหรือยังคะ

หนูหิ่ง ฯ อิจฉานะ *_~ 

คุณพ่อของหนูหิ่ง ฯ จากไปตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของหนูหิ่ง ฯ เสมอ

หนูหิ่ง ฯ ยังจำได้ดี เกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณพ่อ จะแบ่งปันให้ทุกท่านได้รู้จักท่านบ้างนะคะ ^_^ 


ทุก ๆ วันตอนเช้า ๆ พ่อมักจะตื่นก่อนไก่ พวกเราเคยล้อพ่ออยู่บ่อย ๆ ว่าพ่อเป็นคนปลุกไก่ให้ตื่นขึ้นมาขัน 

พ่อจะไปไร่แต่เช้าก่อนใคร ๆ เพื่อที่จะไปดูพืชผักที่ปลูกไว้ เพราะกลัวว่าสัตว์จะเข้ามาทำลายให้เสียหาย 

หลาย ๆ ครั้งที่พ่อต้องนอนเฝ้าไร่   พ่อมีเพิงเล็ก ๆ ไว้กันลมกันแดด เอาไว้พักผ่อนยามเหนื่อยจากงานไร่

และเก็บอุปกรณ์บางส่วน  พวกเราใช้เพิงเป็นโรงครัวด้วย แต่ส่วนใหญ่แม่มักจะทำที่บ้านแล้วห่อให้พวกเราไปกินร่วมกันในไร่ 

แต่บางครั้งเราก็มาก่อไฟหุงหาเองที่ไร่ พ่อจะหาก้อนหินก้อนเท่า ๆ กันมา 3 ก้อน มาวางเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า 

ต้องขุดดินลงไปหน่อยก่อนวางก้อนหิน เพื่อไม่ให้ก้อนหินขยับเวลาทำอาหาร 

เราใช้ฟืนจากต้นไม้ในสวนนั่นเอง พ่อจะตัดกอง ๆ ไว้

พ่อผ่าเป็นท่อนเล็ก ๆ ไว้ให้พวกเราใช้ก่อไฟทำอาหารและผิงไฟยามฤดูหนาว เราไม่มีเตาแก๊ส ไม่มีน้ำมัน มีเพียงไม้ขีดกับเกี๊ยะ 

เกี๊ยะเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมียางเหนียวติดไฟง่าย มีขายเป็นมัด ๆ มักจะมีชาวบ้านไปตัดและผ่าเป็นท่อนเล็ก ๆ มาขาย 

อุปกรณ์ในการทำครัวเรามีไม่มากนัก ส่วนใหญ่พ่อจะทำจากไม้และไผ่ในสวนนั่นเอง ยกเว้นกะทะ, หม้อและช้อน 

ที่เราต้องไปหาซื้อจากในเมือง พ่อสอนให้พวกเราหาอาหารจากธรรมชาติ แม่มักจะล้อพ่อบ่อย ๆ ว่า 

 สีเขียว ๆ พ่อก็ว่าเป็นผัก ไอ้ที่ดิ้นดุ๊กดิ๊กได้พ่อก็ว่าเป็นเนื้อ  พ่อมักจะหัวเราะแล้วบอกว่าแม่พูดถูก ^_^


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อยน้อยใจ
Lovings  หิ่งห้อยน้อยใจ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหิ่งห้อยน้อยใจ