16 พฤษภาคม 2554 10:51 น.
หิ่งห้อยน้อยใจ
กราบเท้าคุณพ่อที่คิดถึง
พ่อคะ พักนี้หนูยุ่งจังเลยค่ะ ขับรถขึ้นเหนือล่องตะวันออกเป็นว่าเล่นเลยค่ะ พ่อเห็นหนูบ้างไหมคะ ?
จากฉบับที่แล้ว พ่อคงจะนั่งสงสารลูกสาว 2 คนของพ่อใช่ไหมคะ ? แต่....ยังมีเรื่องมากกว่านั้นอีกค่ะพ่อ
หนูจะเล่าเรื่องตอนที่หนูเข้าไปเรียนปวช.ที่กรุงเทพ ฯ ให้พ่อฟังนะคะ
หนูคิดว่าพ่อคงอยากรู้แล้วค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของพ่อ
ตอนที่พี่ใหญ่บอกว่าจะให้หนูเรียนต่อ หนูดีใจมากเลยค่ะพ่อ หนูนึกว่าจะได้เรียนแค่ม.3
แต่พี่ใหญ่บอกว่าจะให้ไปเรียนที่กรุงเทพ ฯ หนูก็งง ๆ ค่ะ
เพราะเราหนูไม่เคยไปกรุงเทพ ฯ เลย ไม่เคยคิดว่าจะต้องไปไกลบ้านขนาดนั้น
หนูต้องรีบไปปรึกษาอาจารย์แนะแนวค่ะ ว่าหนูจะไปเรียนที่ไหนดี อาจารย์ก็น่ารักมากค่ะพ่อ
อาจารย์ถามหนูว่า.... โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร หนูก็บอกว่าตอนเล็ก ๆ หนูอยากเป็นทหาร ^^"
แต่ตอนนี้หนูอยากเป็นเลขา ^^" อาจารย์ได้ยินแล้วก็เหงื่อตกค่ะ
คงคิดไม่ถึงว่าเด็กบ้านนอกแบบหนูจะอยากเป็นเลขา อิ ๆ ๆ
เตี้ยก็เตี้ย กลมก็กลม อาจารย์ก็เลยบอกว่า เอางี้ละกัน ไปเรียนที่นี่นะ อาจารย์มีเพื่อนสอนอยู่ จะได้หางานพิเศษให้เธอทำได้ด้วย
รร.พณิชยการสุโขทัย ที่นี่เขาสอนหลักสูตรพยาบาลเบื้องต้น สอนบัญชี คอม พิมพ์ดีด ที่สำคัญมีรด.ให้เธอเรียนด้วยนะ
ถ้าเธอเรียนรด.เธอมีสิทธิ์ขอทุนจากมูลนิธิแสงเทียนด้วย อาจารย์จะฝากเพื่อนให้นะ
ตกลงหนูก็เลยเลือกเรียนที่นี่ค่ะ พี่ ๆ เขารวบรวมเงินค่าเทอมให้หนูได้ 8,000.- และหนูยังมีเงินเก็บตอนเรียนมัธยมต้นด้วย
หนูพิมพ์ได้ดีทั้งภาษาไทยและอังกฤษค่ะ หนูได้เรียนตอนม.3 ที่รร.วัฒโนทัยพายัพ
ตอนเช้า ๆ กับพักเที่ยง หนูจะไปขอใช้เครื่องพิมพ์ของโรงเรียน
รับจ้างพิมพ์รายงานให้เพื่อน และพิมพ์งานให้อาจารย์ อาจารย์ให้ตังค์ หนูก็เก็บไว้
โชคดีที่หนูพิมพ์เร็วและไม่ค่อยผิด ทำให้หนูมีงานทำค่ะ
และเป็นงานที่รายได้ดีมากเลยค่ะพ่อ หนูเก็บตังค์ซื้อเครื่องพิมพ์ดีดได้ 1 เครื่อง
และก็มีเงินเก็บพอที่จะจ่ายค่าเทอม ค่าชุดนักศึกษาที่กรุงเทพ ฯ ได้อีก 2 เทอม
ตอนแรก ๆ พี่ใหญ่ก็ไปเช่าบ้านให้อยู่กับพี่สะไภ้ และพี่ฮัว แต่พี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้านค่ะพ่อ หนูกับพี่ฮัวอยู่ได้ไม่ถึงเทอมก็เกิดเรื่องอีกแล้ว
ก็พี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปต่างจังหวัดครั้งละหลาย ๆ วัน พี่ใหญ่จะโอนตังค์ค่ารถค่าอาหารของหนูมาที่พี่สะไภ้ แต่หนูไม่เคยได้เลยค่ะ
พี่ฮัวไปทำงานเป็นพนักงานขายของ พี่ฮัวต้องแบ่งเงินให้หนูไปโรงเรียน พี่ฮัวบอกว่าเงินค่าเทอมที่หนูมีให้เก็บไว้อย่าใช้เด็ดขาด
เพราะหนูจะต้องเรียนอีก 3 ปี ช่วงนี้เราต้องหาเงินไว้เป็นค่าเรียนของหนูอีก 3 เทอม พ่อคะ ท้ายที่สุดพี่ฮัวก็หนีไปอยู่กับแฟนค่ะ
แฟนพี่ฮัวก็ดีนะคะพ่อ ชื่อพี่นันต์ ตัวสูง ๆ ดำเมี่ยม พี่เขาเป็นคนสงขลาค่ะ เป็นเซลล์ขายของรายได้ดีพอสมควรเลยล่ะค่ะ
พี่นันต์กับพี่ฮัวให้ตังค์หนูใช้ทุกอาทิตย์ พอพี่ใหญ่กลับมา พี่ใหญ่โมโหมาก หนูก็กลัวพี่ใหญ่จะตีพี่ฮัว
หนูไม่บอกหรอกค่ะว่าพี่ฮัวไปอยู่ที่ไหน ยังไม่ปิดเทอมแรก หนูก็ออกจากบ้านเช่าของพี่ใหญ่
หนูไปเป็นพี่เลี้ยงน้องที่หมู่บ้านอยู่เจริญแถวรังสิตค่ะพ่อ พี่เล็กแม่ของน้องใจดีมาก
น้องโตแล้วค่ะพ่อ อายุ 12 คุยรู้เรื่องแล้ว พี่เล็กอยากให้มีคนอยู่กับน้อง เพราะพี่เขากลับบ้านดึก ๆ ตอนเช้า ๆ หนูก็ไปโรงเรียนพร้อมน้อง
ตอนเย็นที่น้องเลิกเรียนหนูก็อยู่กับน้อง หากับข้าวให้น้องกิน ทำงานบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ตัดหญ้า ล้างรถ อาบน้ำน้องหมา ฯลฯ
พี่เล็กให้หนูเดือนละ 700.- และให้หนูไปทำงานพิเศษวันเสาร์ - อาทิตย์ เพราะเสาร์ - อาทิตย์พี่เขาจะอยู่กับน้องค่ะ
หนูก็ได้อาจารย์ช่วยหางานพิเศษให้ทำ ส่วนวันอาทิตย์หนูก็ไปเรียนรด.ค่ะ หนูได้ทุนเรียนดีจากมูลนิธิแสงเทียนทุกปีเลยนะคะ ^^
ตอนที่หนูเรียนปวช.2 พี่ฮัวก็กลับบ้านไปอยู่กับแม่ แต่พี่ใหญ่ไม่ให้หนูกลับบ้านเลย หนูก็สงสัยว่าเพราะอะไร
แต่พี่ ๆ เขาไม่ยอมบอกหนูค่ะ ตอนเรียนปวช.3 ก่อนเปิดเทอม 2 หนูแอบกลับบ้านโดยไม่บอกใคร
หนูไม่เสียค่ารถค่ะพ่อ เพราะหนูขออาศัยรถ 10 ล้อที่ขึ้นไปบรรทุกผักที่โกดังพี่หรั่งน่ะค่ะ หลับไปสุดทาง ตืนอีกทีก็ถึงบ้าน
ปรากฎว่าที่พี่ ๆ ไม่ให้หนูกลับบ้าน เพราะว่าแม่มีสามีใหม่ค่ะพ่อ พี่ฮัวเห็นหนูมาก็ตกใจ เข้ามากอดหนูแล้วร้องให้
พี่ฮัวบอกหนูว่าพี่ ๆ ไม่อยากให้หนูกลับมาบ้าน เพราะไม่อยากให้หนูเสียใจ *__~ หนูก็ไปกราบสวัสดีแม่นะคะ
แล้วหนูก็กลับกรุงเทพ ฯ วันนั้นเลยค่ะ พี่ ๆ จับหนูยัดใส่รถกล่ำเข้ากรุงเทพ ฯ หนูก็ได้นั่งรถฟรีอีกแล้ว หนูร้องให้ทั้งคืนเลยค่ะ
พี่คนขับ 10 ล้อกับภรรยาเขาก็ช่วยกันปลอบหนู ซื้อข้าวให้หนูกินด้วย พ่อน่าจะรู้จักนะคะ พี่เตี่ยมไงคะพ่อ ตัวโต ๆ เสียงดัง ๆ น่ะค่ะ
หลังจากนั้นหนูก็ไม่เคยร่ำร้องจะกลับบ้านอีกเลย พอเรียนจบ หนูก็ทำงานที่สำนักงานบัญชีแถวเสาชิงช้าค่ะพ่อ
แรก ๆ หนูก็ยังอยู่บ้านพี่เล็กนะคะ ไกลไปหน่อย แต่พี่เล็กก็ใจดีตอนเช้า ๆ พี่เล็กไปส่งน้องที่โรงเรียน หนูก็ติดรถออกไปทำงาน
เย็น ๆ หนูก็กลับมาอยู่กับน้อง พี่เล็กกลับดึกมากค่ะ แต่หนูก็อยู่ต่อได้อีกไม่นานนะคะ
มีเหตุต้องออกไปอยู่บ้านเช่ากับพี่ที่ทำงานค่ะ แล้วหนูจะเล่าให้พ่อฟังทีหลังนะคะ
พ่อคะ พ่ออ่านแล้วอย่าเสียใจนะคะ หนูไม่เคยว่าแม่เลยค่ะที่แม่มีสามีใหม่ แต่หนูก็ไม่ชอบสามีใหม่แม่หรอกนะคะ
เอาไว้หนูจะเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พ่อฟังเป็นเรื่อง ๆ ไปนะคะ ถ้าพี่หรั่งหาพ่อเจอแล้ว พี่หรั่งคงเล่าอะไรให้พ่อฟังบ้างแล้วใช่ไหมคะ
แต่ก็คงไม่ละเอียดเท่าหนูหรอกค่ะ พ่อก็รู้ว่าหนูเป็นเด็กที่จดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดี
พ่อชอบให้หนูเล่าเรื่องตอนที่หนูไปโรงเรียนให้พ่อฟังทุกวัน
หนูก็สามารถมาก ตอนเย็น ๆ เลิกเรียนแล้วก็ถึงเวลาที่หนูต้องไปรับพ่อกลับจากไร่
หนูมีเรื่องมาเล่าให้พ่อฟังทุกวันเหมือนกัน พ่อยังจำได้ไหมคะ ? ^^"
พ่อคะ เล่าให้พ่อฟังแค่นี้ก่อนนะคะ ตอนนี้หนูอยู่ชลบุรีค่ะ ต้องไปเยี่ยมลูกค้าที่โรงพยาบาล 2 คนด้วยกัน
เดี๋ยวหนูต้องโทร.หาลูกค้าก่อนนะคะ แล้วหนูจะเขียนมาหาพ่อบ่อย ๆ ค่ะ
รักและคิดถึงพ่อที่สุด
หนูหิ่ง ฯ
ลูกหล้าของพ่อ
ปล.1
รูปนี้หนูเพิ่งถ่ายเมื่อวานนี้ค่ะ หนูไปเขาชีจรรย์ กับพี่กบ และแม่ของพี่กบค่ะ
ปล.2
หนูหวังว่าพ่อจะคอยฟังเรื่องที่หนูเล่า เหมือนเมื่อตอนเด็ก ๆ นะคะ ^^
12 พฤษภาคม 2554 21:11 น.
หิ่งห้อยน้อยใจ
กราบเท้าคุณพ่อที่คิดถึง
พ่อคะ ไม่ทราบว่าพ่อได้อ่านจดหมายของหนูหรือยังนะคะ อยากให้พ่อส่งข่าวมาบ้างจังเลยค่ะ
หนูก็แค่อยากรู้ว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง พี่หรั่งสบายดีไหม พ่อเห็นพวกเราบ้างไหม พ่อช่วยมาบอกหน่อยได้ไหมคะ ?
พ่อคะ วันนี้หนูจะเล่าเรื่องการเรียนหนูให้พ่อฟังนะคะ กว่าหนูจะเรียนจบมาได้ก็หนักหนาสาหัสเอาการอยู่ค่ะ
หลังจากที่หนูเรียนจบชั้น ป.6 ที่รร.บ้านแม่โถแล้ว ตอนแรกแม่และพี่ ๆ จะไม่ให้หนูเรียนค่ะ
แต่หนูอยากเรียนมาก หนูจึงขอพี่ชายใหญ่ พี่ก็บอกว่าถ้าหนูสอบติดที่รร.วัฒโนทัยพายัพ จะให้หนูเรียนต่อ
หนูดีใจมากเลยค่ะ ตั้งในอ่านหนังสือ ตั้งใจสอบ พ่อรู้ไหมคะว่ามีนักเรียนมาสอบตั้งพันกว่าคน
แต่เขารับแค่ 450 คน เป็นเด็กฝากประมาณ 50 คน เหลือที่สอบเข้าจริง ๆ 400 คน
หนูก็หวั่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะสอบไม่ติด แต่หนูก็ไม่มีทางเลือกค่ะ พ่อรู้ไหมคะว่าพี่ฮัวไปดูผลสอบให้
แล้วมาบอกว่าหนูสอบไม่ติด หนูร้องไห้ไปเป็นอาทิตย์เลยค่ะ จนพี่ชายใหญ่กลับมาแล้วพี่ชายใหญ่ก็ไปดูอีกครั้ง
ปรากฎว่าหนูสอบติดอันดับที่ 100 พอดีเลยค่ะ ตกลงหนูก็เลยได้เรียนหนังสือ ถึงตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องที่อยู่ที่กินค่ะ
พอดีมีอาจารย์ที่โรงเรียนต้องการคนทำงานบ้าน เขาบอกว่าหนูยังเด็กเกินไป ต้องให้พี่สาวหนูมาอยู่ทำงานบ้าน
อาจารย์จึงจะให้หนูอาศัยอยู่ด้วย บ้านพักอาจารย์อยู่ในโรงเรียนเลยค่ะพ่อ อาจารย์หญิงมีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 2 คน
ทั้งบ้านอยู่กัน 5 คน พอมีหนูกับพี่ฮัวมาอยู่ด้วยก็เป็น 7 คน พี่ฮัวต้องทำงานหนักทุกวัน
เพื่อให้หนูได้มีที่อยู่ที่กิน เพื่อให้หนูได้เรียนหนังสือ หนูรู้ว่าพี่รักหนู และหนูสงสารพี่มากค่ะพ่อ เงินเดือนพี่ก็ไม่ได้เลย
เราสองคนพี่น้องอยู่กับอาจารย์ได้ 1 ปี ก็มีเรื่องต้องออกค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า....
ปรกติหนูจะกินข้าวเช้า แล้วก็ไปเรียน พอตอนกลางวันหนูก็แอบกลับมากินข้าวที่บ้านทุกวัน
มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์หญิงกลับมาบ้านตอนพักเที่ยง มาเห็นหนูกินข้าวอยู่ที่บ้าน อาจารย์ก็ไม่พอใจ
บอกว่าไม่ให้กลับมากินข้าวกลางวัน ให้กินแค่เช้า กับเย็น กลางวันให้ไปซื้อกินที่โรงเรียน
พ่อคะ วันนั้นพี่ฮัวร้องให้ใหญ่เลยค่ะ พี่ฮัวขออาจารย์ว่าให้น้องกินข้าวด้วย น้องไม่มีเงินซื้อข้าวกิน
แต่อาจารย์ก็บอกว่าไม่ได้ หนูก็เลยบอกพี่ฮัวว่าเรากลับบ้านกันเถอะ หนูไม่เรียนก็ได้ เราสองคนพี่น้องกอดกันร้องให้
พอปิดเทอมเราสองคนพี่น้องก็ลาอาจารย์กลับบ้าน หนูบอกพี่ชายใหญ่ว่าหนูไม่เรียนก็ได้ เพราะไม่มีเงินเรียน
พี่ชายใหญ่ก็เลยพาหนูไปฝากไว้บ้านแฟนของเพื่อนเขาค่ะ ตกลงตอนเรียน ม.2 หนูก็เลยได้อยู่บ้านแฟนของเพื่อนพี่ชายใหญ่ค่ะ
บ้านพี่เขาอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กม. หนูเดินไป - กลับโรงเรียนทุกวัน
แม่ของพี่เขาขายอาหารค่ะ แม่ใจดีมาก ให้หนูกินข้าวทุกเช้า กลางวันก็ห่อให้ด้วย ตอนเย็นก็กลับมากินข้าวที่บ้าน
หนูก็มีหน้าที่ช่วยล้างจาน - ชาม เก็บกวาดโต๊ะ ช่วยพี่ ๆ เขาเตรียมกับข้าวไว้ขายวันต่อไป
พอขึ้น ม. 3 พี่เขยสามีของพี่หรั่งก็เรียกให้หนูไปอยู่กับหลาน ให้อยู่ฟรีไม่เก็บค่าเช่า แต่ให้หนูไปดูแลหลาน
เช้า ๆ หนูก็ต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งหลานที่โรงเรียนก่อน แล้วค่อยไปโรงเรียน เย็น ๆ เลิกเรียนก็ไปรับหลานกลับบ้าน
หลาน ๆ ก็น่ารักดีค่ะพ่อ หนูเลี้ยงหลานอยู่ 1 ปี จบม.3 แล้วพี่ชายใหญ่ก็ให้หนูไปเรียนต่อที่กรุงเทพ ฯ ค่ะ
ตอนแรกหนูก็สงสัยว่าทำไมพี่ชายใหญ่ต้องให้หนูไปเรียนหนังสือไกลจัง แต่พี่ชายใหญ่มีเหตุผลค่ะ
เอาไว้ฉบับหน้าหนูค่อยเล่าให้พ่อฟังนะคะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราบ้าง หลังจากที่พ่อจากไปแล้ว
พ่อคะ หนูจำได้ว่าตอนที่พ่อยังอยู่ พวกเรามีความสุขมาก ไม่เคยรู้ว่าความทุกข์เป็นยังไง
แม้กระทั่งตอนที่ไม่มีข้าวกินเราก็ยังมีความสุขกัน แต่พอไม่มีพ่อแล้ว หนูรู้สึกว่าความทุกข์เข้ามาเยือนบ่อยจังเลยค่ะ
เพราะเหตุนี้มั้งคะ ทำให้หนูคิดถึงพ่ออยู่เสมอ คิดถึงความสุขเวลาที่พ่อยังอยู่ หนูรักพ่อนะคะ
และจะรักพ่อตลอดไปค่ะ
รักพ่อที่สุด
หนูหิ่ง ฯ
ลูกหล้าของพ่อ
ปล.
รูปนี้เป็นรูปหนูกับเหลนทั้ง 4 คนของพ่อค่ะ ในงานโกนผมไฟของเหลนน้อยหวาหวาค่ะ
น้องหญิงหลานคนโตมีเหลนให้พ่อ 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงชื่อหยา หยา
คนที่ 2 เป็นผู้ชายชื่อเชนทร์ เชนทร์ ตอนนี้อยู่ในท้องอีก 1 คนค่ะ
น้องเจินเจินหลานคนที่ 2 มีเหลนให้พ่อ 2 คนค่ะ คนโตชื่อเหวินเหวิน คนเล็กชื่อหวาหวาค่ะ
11 พฤษภาคม 2554 20:46 น.
หิ่งห้อยน้อยใจ
ช่วงวันสงกรานต์ ทุก ๆ ปี เป็นช่วงที่ลูก - หลานทุกคนต้องกลับบ้าน
พ่ออุ้ย แม่อุ้ย ก็จะตั้งหน้าตั้งตารอ....
สงกรานต์ปีนี้หนูหิ่ง ฯ กลับเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 8 วันที่ 9 ก็ตามไปรับแม่ที่ อ.แม่อาย
เพราะแม่ไปทำบุญมอบศาลาให้วัด กลับเชียงใหม่อีกทีวันที่ 11
วันที่ 13 - 14 ขนทรายเข้าวัด เด็ก ๆ ชอบมากเพราะได้ไปเล่นน้ำด้วย
วันที่ 15 เช้า ๆ ก็พาแม่และพี่ ๆ ไปทำบุญที่วัดค่ะ
10 พฤษภาคม 2554 07:43 น.
หิ่งห้อยน้อยใจ
กราบเท้าคุณพ่อที่รักยิ่ง
พ่อคะ หนูหิ่ง ฯ คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ พ่อจากไปยี่สิบกว่าปีแล้ว หนูไม่เคยเขียนจดหมายถึงพ่อเลย
หนูไม่ทราบว่าถึงตอนนี้พ่อจะอ่านภาษาไทยออกหรือเปล่า แต่หนูเขียนภาษาจีนไม่ได้ค่ะ
ก็หนูไม่ได้เรียนนี่คะ ถ้าพ่ออ่านไม่ออกพ่อหาคนอ่านและแปลให้พ่อฟังด้วยนะคะ
พ่อคะ หลังจากที่พ่อไม่อยู่แล้ว มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย หนูจะทะยอยเล่าให้พ่อฟังนะคะ
ตอนนี้ลูกสาวคนเล็กของพ่อโตแล้ว ทำงานแล้วดูแลแม่ได้แล้ว พ่อไม่ต้องห่วงค่ะ
หนูส่งรูปมาให้พ่อดูด้วยค่ะ เพราะตอนที่พ่อไปเมืองจีนหนูยังเรียนอยู่ชั้นประถมอยูเลย
รูปนี้หนูถ่ายกับเหวินเหวินเหลนน้อยของพ่อที่ดอยแม่สะลองค่ะ
พ่อคะ ตอนนี้พี่หรั่งตามไปอยู่กับพ่อสามเดือนกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้เจอหรือยังนะคะ ?
ไม่เห็นมีใครมาเข้าฝันบอกเลยค่ะ พ่อรู้ไหมคะตั้งแต่พ่อจากไป หนูฝันเห็นพ่อ 2 ครั้งแค่นั้นเอง
ทำไม่พ่อไม่มาหาหนูบ้างเลยคะ พี่หรั่งก็เหมือนกัน มาให้หนูฝันเห็นแค่ครั้งเดียวเองค่ะ
พ่อรู้ไหมคะว่าตอนนี้เราสร้างบ้านใหม่ให้แม่แล้วค่ะ อยู่บ้านแม่โถบน มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว
ห้องโถงกว้างมากค่ะ ตั้งวงได้หลายวง ^^" แถมยังอากาสดีมาก ลมพัดเข้ามาทางหลังบ้านเย็นสบาย
เราซื้อตู้เย็นใหญ่ ๆ ให้แม่ ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่น ทีวีจอใหญ่ ๆ เตาแก๊สใหม่ ๆ
ซื้อหมดเลยค่ะ ตอนนี้ยังเหลือเครื่องปั้มน้ำที่ยังไม่ได้ซื้อ เดี๋ยวพี่ซิงคงจะไปซื้อค่ะ
พ่อคะ อีก 2 - 3 เดือนหนูกับพี่จะสร้างโรงเพาะเห็ดฟางให้แม่ด้วยนะคะ แม่จะได้เลิกเลี้ยงหมูเสียที
ส่วนบ้านเลาลีแม่ยกที่ให้หนูกับพี่ฮัว หนูก็เลยขอซื้อหมดค่ะ แล้วหนูก็สร้างห้องแถวให้แม่ 3 ห้อง
ตอนนี้แม่ก็เก็บค่าเช่าห้องละ 2 พันค่ะ ถ้ามีตังค์หนูจะสร้างห้องแถวให้แม่ไว้เก็บค่าเช่าอีก
พ่อให้พรหนูด้วยนะคะ ช่วงนี้เมืองไทยอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่รู้ว่าฤดูอะไรเป็นฤดูอะไร
พ่อไปเสียที่เมืองจีน ตอนนี้พ่อคงอยู่เมืองจีนใช่ไหมคะ ? ที่โน่นเป็นยังไงบ้างคะ
พ่อรักษาสุขภาพนะคะ ลูก ๆ ที่เมืองไทยทุกคนเป็นห่วง และคิดถึงพ่อมากค่ะ
เอาไว้หนูจะเขียนจดหมายถึงพ่ออีกนะคะ
รักและคิดถึงพ่อที่สุดค่ะ
หนูหิ่ง ฯ
ลูกหล้าของพ่อ
4 พฤษภาคม 2554 20:31 น.
หิ่งห้อยน้อยใจ
หนูหิ่ง ฯ กลับไปบ้านบนดอยช่วงสงกรานต์ คิดถึงพ่อนะ
หนูหิ่ง ฯ อยากเล่าเรื่องของคุณพ่อที่น่ารักของหนูหิ่ง ฯ ให้พี่ ๆ ได้อ่านกัน
ใครที่คุณพ่อยังอยู่ ณ วันนี้ กอดท่านหรือยังคะ หรือว่าโทร.หาท่านหรือยังคะ
หนูหิ่ง ฯ อิจฉานะ *_~
คุณพ่อของหนูหิ่ง ฯ จากไปตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของหนูหิ่ง ฯ เสมอ
หนูหิ่ง ฯ ยังจำได้ดี เกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุณพ่อ จะแบ่งปันให้ทุกท่านได้รู้จักท่านบ้างนะคะ ^_^
ทุก ๆ วันตอนเช้า ๆ พ่อมักจะตื่นก่อนไก่ พวกเราเคยล้อพ่ออยู่บ่อย ๆ ว่าพ่อเป็นคนปลุกไก่ให้ตื่นขึ้นมาขัน
พ่อจะไปไร่แต่เช้าก่อนใคร ๆ เพื่อที่จะไปดูพืชผักที่ปลูกไว้ เพราะกลัวว่าสัตว์จะเข้ามาทำลายให้เสียหาย
หลาย ๆ ครั้งที่พ่อต้องนอนเฝ้าไร่ พ่อมีเพิงเล็ก ๆ ไว้กันลมกันแดด เอาไว้พักผ่อนยามเหนื่อยจากงานไร่
และเก็บอุปกรณ์บางส่วน พวกเราใช้เพิงเป็นโรงครัวด้วย แต่ส่วนใหญ่แม่มักจะทำที่บ้านแล้วห่อให้พวกเราไปกินร่วมกันในไร่
แต่บางครั้งเราก็มาก่อไฟหุงหาเองที่ไร่ พ่อจะหาก้อนหินก้อนเท่า ๆ กันมา 3 ก้อน มาวางเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า
ต้องขุดดินลงไปหน่อยก่อนวางก้อนหิน เพื่อไม่ให้ก้อนหินขยับเวลาทำอาหาร
เราใช้ฟืนจากต้นไม้ในสวนนั่นเอง พ่อจะตัดกอง ๆ ไว้
พ่อผ่าเป็นท่อนเล็ก ๆ ไว้ให้พวกเราใช้ก่อไฟทำอาหารและผิงไฟยามฤดูหนาว เราไม่มีเตาแก๊ส ไม่มีน้ำมัน มีเพียงไม้ขีดกับเกี๊ยะ
เกี๊ยะเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมียางเหนียวติดไฟง่าย มีขายเป็นมัด ๆ มักจะมีชาวบ้านไปตัดและผ่าเป็นท่อนเล็ก ๆ มาขาย
อุปกรณ์ในการทำครัวเรามีไม่มากนัก ส่วนใหญ่พ่อจะทำจากไม้และไผ่ในสวนนั่นเอง ยกเว้นกะทะ, หม้อและช้อน
ที่เราต้องไปหาซื้อจากในเมือง พ่อสอนให้พวกเราหาอาหารจากธรรมชาติ แม่มักจะล้อพ่อบ่อย ๆ ว่า
สีเขียว ๆ พ่อก็ว่าเป็นผัก ไอ้ที่ดิ้นดุ๊กดิ๊กได้พ่อก็ว่าเป็นเนื้อ พ่อมักจะหัวเราะแล้วบอกว่าแม่พูดถูก ^_^